'อาวุโส' ใช้ประกอบ

ไม่เหมือนกับระดับผู้บัญชาการที่ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. ยิ่งพลิกข้อกฎหมายตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 77 การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่ง ให้แต่งตั้งตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ (1) ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งจาก ข้าราชการตำรวจยศพลตำรวจเอก ซึ่งดำรงตำแหน่งจเรตำรวจแห่งชาติหรือรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ยิ่งชัดเจน "รอง ผบ.ตร." ทุกนาย ไม่ว่าอาวุโสอยู่ลำดับใดขึ้นเป็น ผบ.ตร.ได้หมด ๐

อย่างไรก็ดี ตอนนี้ที่ "เหล่าสีกากี" อยากเห็นมากที่สุด คือ การจัดทำผลการปฏิบัติงานที่เห็นว่ามีความสำคัญ และเกิดประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของ ตร. ที่ ผบ.เด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มีหนังสือคำสั่ง เรื่อง การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ถึง พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ให้ทั้ง 4 แคนดิเดตรอง ผบ.ตร. จัดทำเป็นเอกสารรวมจำนวนไม่เกิน 4 แผ่น  (ขนาด A4) ส่งภายในวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของนายกรัฐมนตรี (นายเศรษฐา ทวีสิน) ในการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.นั้น แต่ละคนเขียนเนื้อหารายละเอียดอะไร ซึ่งถ้าจะให้เกิดความโปร่งใสแล้ว หลัง "นายกฯ เศรษฐา" คัดเลือก รอง ผบ.ตร.คนใดให้ ก.ตร.พิจารณา เมื่อ ก.ตร.พิจารณาตีตราประทับให้ดำรงตำแหน่ง "ผบ.ตร." คนที่ 14 แล้ว ก็น่าจะเอาสิ่งที่ "ผบ.ตร." คนใหม่นำเสนอนายกฯ มาให้ "ตำรวจ" ทั่วประเทศ ได้รับรู้ถึงวิสัยทัศน์ "ผู้นำสีกากี" ว่าเจ๋งเป้งขนาดไหน ถึงได้รับเลือกให้มากุมบังเหียน "กรมปทุมวัน" ๐

โผแต่งตั้ง "นายพล" ครั้งใหม่ ที่รอนำเสนอเข้าวงประชุม ก.ตร.ซึ่งมีนายกฯ เศรษฐานั่งหัวโต๊ะ หลายเก้าอี้ หลายตำแหน่ง น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจากบัญชีแต่งตั้งนายพล ที่เสนอเข้าวงประชุม ก.ตร.ครั้งก่อน เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา  ที่ นายกฯ ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมนั่งหัวโต๊ะ เพราะเมื่อขั้วอำนาจเปลี่ยน อะไรๆ ก็ย่อมเปลี่ยนตามเป็นธรรมดา แต่นั่นไม่ใช่เก้าอี้ ผบช.ขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร., เก้าอี้ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขึ้น รอง ผบ.ตร.หรือจเรตำรวจแห่งชาติ เพราะตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ กำหนดชัดเจนการแต่งตั้งทั้ง 2 ระดับนี้ให้พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโส ทำให้ระดับ ผบช.ขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร. 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่  (สบ 8) รพ.ตำรวจ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์  ผบช.สตม. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7  พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบช.สพฐ.ตร. ส่วน ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขึ้น รอง ผบ.ตร. 3 ตำแหน่ง ประกอบด้วย พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง, พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ส่วนเก้าอี้ รอง ผบก.ขึ้น ผบก., ผบก.ขึ้น รอง ผบช., รอง ผบช.ขึ้น ผบช. ยึดเกณฑ์อาวุโส 50% กลุ่มนี้เลยต้องลุ้นกันเหงื่อหยด ๐

แฮปปี้เบิร์ธเดย์ย้อนหลัง 2 หน่วยงานสีกากี ที่มีวันครบรอบวันสถาปนาตรงกันเมื่อวันที่ 1 ก.ย. เริ่มจากกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (บช.ทท.) บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ไปเป็นประธานพิธีเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ถ.สุวรรณภูมิ 4 อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ มี พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผบช.ทท.และคณะผู้บังคับบัญชา กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ร่วมในพิธีครั้งนี้ เช่นเดียวกับหน่วยอาร์มสวย กองบังคับการกองปราบปราม (บก.ป.) บิ๊กก้อง-พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เป็นประธานในพิธีมอบโล่เกียรติคุณแก่ข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติงานดีเด่นด้านต่างๆ  21 รางวัล พร้อมมอบทุนการศึกษาแก่บุตรธิดาข้าราชการตำรวจในสังกัด บก.ป. ขณะที่ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. นำคณะ รอง ผบก.ป., ผกก. และข้าราชการตำรวจ บก.ป.ร่วมสักการะพระพุทธพิทักษ์ธรรมนำชัย พระพุทธรูปประจำ บก.ป.และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในบริเวณ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันครบรอบ 75 ปีกองปราบปราม มีอดีต ผบก.ป. และผู้บังคับบัญชาระดับสูงเข้าร่วมงานพิธีอย่างพร้อมเพรียง  อาทิ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์, พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง, พล.ต.อ.วินัย ทองสอง, พล.ต.ท.พิสิษฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง เป็นต้น

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ นายทหารประจำปีเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา  ก่อนคลอดโผ ครม.เศรษฐา 1 ไม่กี่วัน พลิกดูรายชื่อเหล่าทัพ ปรากฏว่าหวือหวาน่าตื่นเต้นที่สุดคงเป็นกองทัพอากาศ (ทอ.) เพราะตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในวง “ทัพฟ้า” ว่าเป็นโผหักดิบ ถอนรากถอนโคน เปิดศักราชทายาทในรุ่นสอง แม้ชื่อระดับหัวจะเป็น “บิ๊กไก่” พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผช.ผบ.ทอ. ได้ขึ้นเป็น ผบ.ทอ. โดย พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา  รอง ผบ.ทอ. คู่แคนดิเดตรุ่นพี่ถูกส่งออกไปเป็นรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่กองทัพไทย แม้ “บิ๊กไก่” จะได้รับการยอมรับในฝีไม้ลายมือในสังคมทัพฟ้า รวมถึง พล.อ.อ.เสกสรร คันธา เสธ.ทอ.คนใหม่ ก็ตาม แต่เนื้อในโผเรียกได้ว่า “เลือดสาด” ไปตามๆ กัน จนมีแรงสะท้อนกลับมาหนักพอสมควรเรื่องสงครามตัวแทน จน “บิ๊กตุ๊ด” พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผบ.ทอ.คนปัจจุบัน ต้องออกตัวกล่าวในงานสานสัมพันธ์สื่อมวลชนว่า “ข่าวที่ออกมาถึงพี่ในทุกมุมมอง เมื่อวานซืนก็แทบกระอักเลือด จนนึกถึงหนังจีนเรื่องกระบี่ไร้เทียมทาน เจ้าสำนักบู๊ตึ๊ง ไปปะทะกับเจ้าสำนักบ๊อเต็ก จนกระอักเลือด ก็นึกถึงตัวเอง แต่วันนี้ได้เห็นความรักจากสื่อทุกคน พี่ตุ๊ดหายแล้ว ขอให้น้องๆ ทุกคนมีความสุขชีวิตการทำงาน ภายใต้การบังคับบัญชาของพี่ไก่ ซึ่งพี่เชื่อว่า พี่ไก่ไม่ทำให้น้องๆ สื่อทุกคนผิดหวัง”

ขณะที่ “บิ๊กจ๊อด” พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ปิดฉากได้แบบนิ่มนวล โผโยกย้ายใช้ทางสายกลางแก้ไขปัญหา ในขณะเดียวกันก็สะสางปัญหาใน ทร.ที่ค้างคาให้จบในยุคของตัวเอง แม้สถานการณ์ในแผง 5 เสือ ทร.นับจากนี้คงอึมครึมไม่ใช่น้อย เพราะมีแคนดิเดตถึง 3 คนชิงเก้าอี้ ผบ.ทร.ในรอบหน้า ขึ้นอยู่กับการแบ่งงานของ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร.คนปัจจุบันจะทำอย่างไรบ้างให้กลมกล่อม ในฐานะของผู้นำทหารเรือของทุกคน อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมของโผนี้ ถือได้ว่ามีการขยับปรับทัพได้เข้าที่เข้าทางมากกว่าปีที่ผ่านมา และเรื่องงานที่เป็นระเบิดเวลา บิ๊กจ๊อดก็กล้าตัดสินใจ “ช่วงปีที่ผ่านมามีหลายเรื่อง ซึ่งตั้งแต่ตนรับหน้าที่ก็ให้สัมภาษณ์สื่อ ว่าในรอบปีที่เข้ามารับตำแหน่งจะทำอะไรบ้างเป็นข้อๆ "ถ้าย้อนกลับไป ณ วันนั้น ผมได้ทำตามที่พูดไว้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรือดำน้ำ เรื่องของการจัดหาเรือฟริเกต การรับมอบเรือหลวงช้าง ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบก การปรับปรุง การประเมินยุทธศาสตร์กองทัพเรือเพื่อมองไปในอนาคต ถือว่าในรอบปีตนได้ทำตามสัมภาษณ์ตั้งแต่ต้นทุกอย่างแล้ว ไม่มีอะไรที่ติดค้างที่จะต้องฝากให้ ผบ.ทร.และทีมบริหารรุ่นใหม่ดำเนินการต่อไป เพียงแต่สานต่อการดำเนินการ หรือจะคิดใหม่ทำใหม่ก็แล้วแต่ผู้บริหารที่จะเข้ามา "บิ๊กจ๊อด" กล่าวในงานสานสัมพันธ์สื่อ ปิดฉากเก้าอี้ ผบ.ทร.ได้อย่างสวยงาม.