ไร้ภาวะผู้นำ

ศึกนายพลสีกากีดูเพลินๆ ไปครับ

ขุดกันเยอะเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น 

แต่เบื้องต้น พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า นายกฯ เศรษฐาบ่มิไก๊ 

เป็นผู้บังคับบัญชาที่ลูกน้องไม่เกรงกลัว และไม่เกรงใจ

ตำรวจยุคนี้ใกล้เคียงยุค "เผ่า ศรียานนท์" เข้าไปทุกทีแล้วครับ

"ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีสิ่งใดที่ตำรวจไทยทำไม่ได้"

พูดก็พูดเถอะครับ ที่แฉๆ กัน มันเห็นไส้เห็นพุงกันมานานแล้ว

ต่างก็รู้ว่าอีกฝ่าย คดในข้องอในกระดูก

นี่ถ้าไม่ขัดกันประชาชนคงไม่ได้รู้

ก็อิ่มกันไป!

แต่เพราะเหยียบตีนกัน ก็ได้เวลาลากไส้

ทำเหมือนนายกฯ เศรษฐาไม่มีตัวตนเลย

"บิ๊กโจ๊ก" ไม่กล้าไปอังกฤษ สาเหตุก็อย่างที่เห็น สำนวนคดีเว็บพนันออนไลน์มินนี่ ยังอยู่ในมือตำรวจ ไม่มีทีท่าจะส่งไป ป.ป.ช.ตามที่ตกลงกันไว้ ก่อนแถลงข่าวจูบปากกันวันก่อน

ฝั่ง "บิ๊กต่อ" รบผ่านสงครามตัวแทน ออกหมายเรียกไป  ๒ รอบไม่เป็นผล 

จะออกหมายจับก็ยังรีรอ

หยุดไม่ได้ไปต่อไม่สุด

มหกรรมผลัดกันแฉดำเนินต่อไป

นายกฯ เศรษฐา เอาไม่อยู่

ภาพที่ปรากฏกลายเป็นว่าสงครามระหว่าง "บิ๊กต่อ" กับ  "บิ๊กโจ๊ก" มันยิ่งใหญ่ขนาดผู้นำประเทศยังไม่มีบารมีพอที่จะห้ามทัพ

น่าอนาถจริงๆ ประเทศไทยต้องมาเจอเหตุการณ์ ข้าราชการประจำ ทะเลาะกัน โดยที่รัฐบาลได้แต่มองตาปริบๆ

"บิ๊กตำรวจ" สองคนนี้เป็นเด็กใครกัน นายกฯ ถึงเอาแต่หมอบ

เรื่องมันเลยมาถึงขั้นย้ายทั้งคู่ไปเก็บไว้ที่สำนักนายกฯ แต่การย้ายไม่มีผลอะไรกับการเคลื่อนไหวของทั้ง ๒ ฝั่งเลย

ตัวนายกฯ เอง แทบจะไร้ภาวะความเป็นผู้นำ

คำพูดสิ้นท่าจริงๆ

"...วันนี้มีคณะกรรมการตรวจสอบและสืบหาความจริงเรียบร้อยแล้ว หน้าที่ของผมกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีหน้าที่โฟกัสปัญหาของพี่น้องประชาชน และดูแลประชาชนให้ดีที่สุด และอย่างที่บอกไม่ขอพูดเรื่องนี้อีกแล้ว เพราะเชื่อว่าเรามีกระบวนการยุติธรรมที่โปร่งใสตรวจสอบได้ และไม่มีการแทรกแซงจากทุกฝ่าย..."

 “...ทุกกระบวนการผมเชื่อว่าในขณะนี้เรามาถูกทางแล้ว และทั้งสองท่านที่เป็นคู่กรณีก็ถูกย้ายมาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ไม่มีการที่จะเข้าไปแทรกแซงในกระบวนการยุติธรรมได้ ก็ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง...“

แน่ใจหรือครับว่าไม่มีการแทรกแซง!

ฝั่งหนึ่งออกหมายจับ อีกฝั่งเป็นนกรู้

ฝั่งหนึ่งแฉ อีกฝั่งรอสวน

ทั้งคู่มีแขนขาทั้งในและนอกสำนักงานตำรวจแห่งชาติเต็มไปหมด ฉะนั้นไม่มีหรอกครับกับคำว่า ไม่มีการแทรกแซง เพราะฝ่ายไหนหยุดแทรกแซงจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันที

เขารบกันผ่านตัวแทน

ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด นี่ก็ใช่

นี่คือบรรยากาศใกล้เคียง "ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีสิ่งใดที่ตำรวจไทยทำไม่ได้"

แต่อีกมุมก็เป็นผลดีกับประชาชน

แฉเถอะครับ ทั้ง ๒ ฝ่าย ลากไส้กันออกมาให้หมด

ล้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึงจะล้างไม่หมด แต่ยังดีกว่าไม่ทำอะไร

เอาให้รู้กันถ้วนทั่วครับ ว่ามันเน่าในแค่ไหน และจะยังยอมรับสภาพเน่าเฟะนี้กันได้หรือเปล่า

ถ้ายังยอมรับกันได้ ไม่มีการปฏิรูปตำรวจ ก็ถือเป็นเวรเป็นกรรมของประเทศไทย

ครับ...ไม่ใช่แค่เรื่องตำรวจ ที่นายกฯ เศรษฐา คุมเกมไม่ได้

นโยบายรัฐบาลเองดูท่าจะไปต่อไม่ไหว

ฟัง "ลวรณ แสงสนิท" ปลัดกระทรวงการคลัง แจกแจง โครงการเติมเงินดิจิทัล ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital  Wallet แล้วทุบโต๊ะได้เลยครับ

ไม่ได้เกิด!

ถ้าเกิดประชาชนแบกหนี้มหาศาล

วานนี้ (๒๗ มีนาคม) มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงินดิจิทัล ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน  Digital Wallet  ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ ไปหาข้อสรุปเกี่ยวกับแหล่งที่มาของเงินที่จะใช้ในโครงการนี้

วงเงินประมาณ ๕ แสนล้านบาท

ปลัดกระทรวงการคลังบอกว่าขณะนี้มี ๓ แนวทางที่เป็นไปได้

แนวทางแรกคือ การใช้เงินกู้เพื่อดำเนินโครงการอย่างเดียว ซึ่งเป็นแนวทางเดิมที่ได้มีการหารือกันมาก่อนหน้านี้

แนวทางที่สองคือ การนำงบประมาณเข้ามาใช้ในโครงการนี้ ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๘ ซึ่งรัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องใช้โครงการนี้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจก็สามารถที่จะดำเนินการได้ โดยอาจมีการปรับเปลี่ยนวงเงินในการจัดทำงบประมาณปี ๒๕๖๘ เงื่อนไขตรงนี้ที่ผ่านมาไม่มีมาก่อน แต่ขณะนี้มีทางเลือกในการใช้งบประมาณ ๒๕๖๘ เข้ามาใช้ในโครงการนี้เป็นทางเลือกเพิ่มเติม ส่วนงบประมาณปี ๒๕๖๗ จะเข้ามาช่วยในโครงการนี้ด้วยหรือไม่นั้นต้องหารือกับสำนักงบประมาณอีกครั้ง

แนวทางที่สามคือ การใช้ผสมกันระหว่างเงินกู้กับเงินงบประมาณ

ทั้งหมดจะได้ความชัดเจนในวันที่ ๑๐ เมษายนนี้

ก็รอดูครับว่า กล้าจะออก พ.ร.บ.กู้เงินหรือเปล่า เพราะคุกรออยู่แน่ๆ

ที่มันน่าอนาถหนักเข้าไปอีก รัฐบาลเพิ่งจะบอกว่าสิ้นปีนี้แจกแน่ เข้าใจว่าจะใช้งบประมาณปี ๒๕๖๘ ถ้าเป็นเช่นนั้่นงบปี ๒๕๖๘ จะต้องจัดแบบขาดดุลเป็นประวัติการณ์

ประชาชนจะได้เป็นหนี้กันทั่วหน้าอย่างแน่นอน

รัฐบาลเก่งแต่กู้นี่ยังไม่เท่าไหร่ หากกู้มาแล้วไปทำโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ สามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้

แต่นี่กู้มาแจกแล้วเงินหายวับไปกับตา

รัฐบาลแบบนี้พาชาติพบกับความฉิบหายแน่นอน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นักโทษ'ตรวจการบ้าน

ยกประเทศให้ไปเลยดีมั้ยครับ นานๆ ประชดที เพราะทนเห็นบางคนยังใช้สันดานเดิม เป็นสันดานที่ทำให้ต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศนานถึง ๑๗ ปีไม่ได้

เลือกคุกจะได้คุก

ว่อนสิครับ! หนังสือจาก "เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ" ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี

ตายหมู่ไปกับ 'ดิจิทัลวอลเล็ต'

ในที่สุดก็ชัดเจน ถือเป็นความรับผิดร่วมกันของคณะรัฐมนตรี โดยมิอาจมีใครปฏิเสธในภายหลังได้เลยว่า ไม่มีส่วนรับรู้กับนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ให้ประชาชนหัวละ ๑ หมื่นบาท ด้วยงบประมาณกว่า ๕ แสนล้านบาท

มันมากับความเงียบ

งานเลี้ยงใกล้เลิกรา... สมาชิกวุฒิสภาชุดปัจจุบันจะหมดวาระลงเดือนพฤษภาคมนี้แล้วครับ

แผนแทรกแซงกองทัพ

ก็ยังไม่เห็นว่าหน้าตาชัดๆ เป็นอย่างไร หมายถึงกฎหมายต้านการปฏิวัติรัฐประหารครับ