ร้อนฉ่าครับ!
เหตุการณ์ทางการเมือง ๓ เหตุการณ์ใหญ่ ที่จะเกิดขึ้นแบบรวบยอดในเดือนสิงหาคมเดือนเดียว คือการชี้ชะตาประเทศไทย
คดียุบพรรคก้าวไกล
คดีถอดถอนนายกฯ เศรษฐา
และ "ทักษิณ" พ้นสภาพนักโทษชาย
เริ่มที่คดียุบพรรคก้าวไกล
วันที่ ๗ สิงหาคม ศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัยคดีที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยนายทะเบียนพรรคการเมืองยื่นคำร้องกรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคก้าวไกล มีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
อันเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคผู้ถูกร้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๙๒ วรรคหนึ่ง (๑) และ (๒)
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะออกนั่งบัลลังก์ เพื่ออ่านคำวินิจฉัย ตั้งแต่เวลา ๑๕.๐๐ น.เป็นต้นไป
ก็อย่างที่ทราบครับ คดีนี้ต่อเนื่องมาจากคดีพรรคก้าวไกลล้มล้างการปกครอง ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พรรคก้าวไกล กระทำการเซาะกร่อน บ่อนทำลายสถาบัน เป็นเหตุให้ชำรุดทรุดโทรม เสื่อมทราม
โดยศาลสั่งให้หยุดการกระทำ
แล้วพรรคก้าวไกลหยุดการกระทำนั้นหรือไม่?
หลังศาลมีคำวินิจฉัย พรรคก้าวไกลตอบโต้ว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อการเมืองไทยในระยะยาว
อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ทางอำนาจระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับศาลรัฐธรรมนูญในอนาคต
อาจกระทบต่อความเข้าใจและการให้ความหมายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
หลักการสำคัญของระบอบการเมืองไม่มีความชัดเจนแน่นอน สิ่งที่เคยกระทำได้ในอดีต ทั้งในสมัยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์หรือในสมัยระบอบประชาธิปไตย อาจกลายเป็นการล้มล้างการปกครองได้ ในปัจจุบันและอนาคต
อาจก่อให้เกิดปัญหาต่อดุลยภาพระหว่างประชาธิปไตยกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในระบอบการเมืองไทยในอนาคต
อาจทำให้สังคมไทยสูญเสียโอกาสในการใช้ระบบรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตย ในการหาข้อยุติความขัดแย้งหรือความคิดเห็นที่แตกต่างกันในสังคมในอนาคต
คำวินิจฉัยในวันนี้อาจส่งผลกระทบให้ประเด็นสถาบันพระมหากษัตริย์กลายเป็นปมปัญหาความขัดแย้งในการเมืองไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบด้านลบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เสียเอง
นั่นคือสิ่งที่พรรคก้าวไกลคิด
แต่ที่สิ่งพรรคก้าวไกลกระทำคือวานนี้ (๒๘ กรกฎาคม) เพจพรรคก้าวไกล เป็นเพจพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียว ที่ไม่ขึ้นข้อความ รวมทั้งพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เป็นพฤติกรรมที่แตกต่างไปจากพรรคการเมืองอื่นทั้งหมด
อะไรคือมูลเหตุจูงใจ
ผู้คนถึงได้สงสัยว่าพรรคก้าวไกล มีความคิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์
พรรคก้าวไกลไม่มีส่วนร่วมในวันสำคัญที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ มาตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่
ฉะนั้นสิ่งที่พรรคก้าวไกล คิดว่าคำวินิจฉัยคดีที่พรรคก้าวไกลแก้ ม.๑๑๒ ลดสถานะพระมหากษัตริย์เป็นบุคคลธรรมดา อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อการเมืองไทยในระยะยาวนั้น คงไม่ใช่ฝีมือใครอื่น
แต่เป็นผลกระทบที่จะเกิดขึ้นโดยฝีมือพรรคก้าวไกลเอง
วันที่ ๑๔ สิงหาคม ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณากรณีที่สมาชิกวุฒิสภาจำนวน ๔๐ คน ยื่นคำร้องต่อประธานวุฒิสภา ว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้นำความกราบบังคมทูลฯ เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่านายพิชิตขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเคยถูกศาลฎีกามีคำสั่งจำคุกเป็นเวลา ๖ เดือน ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล เป็นบุคคลที่กระทำการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริต และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๖๐ (๔) (๕) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องทั้งสองสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐ วรรคหนึ่ง (๔) ประกอบมาตรา ๑๖๐ (๔) (๕) หรือไม่
ศาลนัดฟังคำวินิจฉัยเวลา ๑๕.๐๐ น.เป็นต้นไป
คุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
คดีนี้ถ้า "พิชิต ชื่นบาน" มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ นายกฯ เศรษฐาก็รอดล้านเปอร์เซ็นต์
แต่ถ้าไม่ก็ต้องลุ้นกันเหนื่อย เพราะคำสั่งศาลในคดีถุงขนมปรากฏชัดว่า ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เป็นที่ประจักษ์หรือไม่
"...จึงเห็นสมควรลงโทษในสถานหนัก เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป ให้จำคุกผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามคน คนละ ๖ เดือน ส่วนความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๔ หรือความผิดอื่นต่อเจ้าหน้าที่พนักงาน นั้น ให้ผู้กล่าวหาไปดำเนินการตามกฎหมายแก่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามและผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป..."
นั่นคือที่มาที่ "พิชิต ชื่นบาน" ต้องไปอยู่ในคุก ๖ เดือน
ฉะนั้นชัดเจนนะครับว่า เป็นที่ประจักษ์ในด้านไหนกันแน่
วันที่ ๒๒ สิงหาคม "ทักษิณ ชินวัตร" สิ้นสภาพการเป็นนักโทษ
จากนั้นจะไปทางไหน?
ในงานฉลองวันเกิด ๒๖ กรกฎาคม "นักโทษชายทักษิณ" ประกาศความเก่งกาจ “วันนี้ที่อยู่ด้วยกันถือว่าเราเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อให้บ้านเมืองของเราได้รับการแก้ไข จริงๆ แล้วพรรคเราแก้ไขไม่ได้ ไม่มีใครแก้ได้ เพราะพรรคเราเป็นพรรคที่มีประสบการณ์สูงมาก”
สิ่งที่ "ทักษิณ" ทำระหว่างมีสถานะนักโทษชายที่ได้รับการพักโทษนั้น อย่าว่าแต่ "นักโทษ" เลย มันเกินกว่านักการเมืองปกติทั่วไปจะทำได้ด้วยซ้ำ
เช่นแทรกแซงการปรับ ครม. จนนายกฯ เศรษฐาคอพาดเขียงในวันที่ ๑๔ สิงหาคม
การกินข้าว ตีกอล์ฟ กับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล นักธุรกิจยักษ์ใหญ่ ทุนพลังงาน จนถูกนินทาเรื่อง "ปฏิญญาเขาใหญ่"
ถ้า "ทักษิณ" ได้รับอิสระจะขนาดไหน
๗ สิงหาคม หากพรรคก้าวไกลถูกยุบ จะเกิดมหกรรมดูด สส.ครั้งใหญ่ ก็ต้องจับตาดูระหว่าง เงิน กับ อุดมการณ์ อะไรจะขลังกว่ากัน
แต่สิ่งหนึ่งที่ปรากฏชัดคือ โอกาสที่ก้าวไกลจะได้เป็นรัฐบาลนั้นยังอีกยาวไกล สส.ภูธร จึงตัดสินใจได้ไม่ยาก
๑๔ สิงหาคม หาก นายกฯ เศรษฐาถูกถอดถอน พรรคเพื่อไทยมีโควตาแคนดิเดตนายกฯ อีก ๒ คน คือ แพทองธาร ชินวัตร กับ ชัยเกษม นิติสิริ
หวยจะออกที่ใคร
แต่ไม่ว่าใครจะเข้ามาแทน "เศรษฐา ทวีสิน" ผลไม่ต่างกัน นายกฯ ตัวจริงคือ "ทักษิณ"
มีแต่กฎหมายห้ามคนนอกครอบงำพรรคการเมือง แต่ดันไม่มีกฎหมายห้ามคนนอกครอบงำรัฐบาล
๒๒ สิงหาคม หวยออกหน้าเดียว "ทักษิณ" พ้นโทษและสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย
ก็เป็นอันว่าจบ ครอบงำได้ทั้งพรรคและรัฐบาล
ไหนบอกว่าเลี้ยงหลาน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทลายทุนผูกขาด
ชื่นใจ... ชื่นใจในความรวยของเศรษฐีไทยครับ วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยติดต่อกันปีนี้เป็นปีที่ ๓๑ แล้วครับ
นายกฯ ฝึกงาน
ขยี้ตาสิบที... แถลงผลงานในรอบ ๓ เดือนแน่นะ "อิ๊งค์" ไปดูอีกทีกับการแถลงข่าววานนี้ (๑๒ ธันวาคม)
ชะตากรรม 'นายกฯ ชินวัตร'
วันนี้ (๑๒ ธันวาคม) นายกฯ อิ๊งค์ แถลงผลงาน อยากรู้ว่าผลงานมีอะไรบ้าง เชิญเฝ้าหน้าจอสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที หรือช่อง ๑๑ นั่นแหละครับ
ในวันที่ 'ส้ม' โหยหาเพื่อน
ไอ้เสือถอย! ไปไม่ถึงสุดซอยครับ "หัวเขียง" ยอมเลี้ยวกลับเสียก่อน
ง่ายๆ แค่เลิกโกง
อาจถึงขั้นเปลี่ยนขั้วตั้งรัฐบาลกันเลยทีเดียวครับ... หากพรรคเพื่อไทย จะเอาให้ได้ กับร่างแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ด้วยการจับยัดเข้าสภาฯ ก็สามารถยึดอำนาจกองทัพได้สำเร็จครับ
'อุ๊งอิ๊ง' แถลงผลงาน
ล้างตารอไว้นะครับ นายกฯ แพทองธาร นัดไว้แล้ววันที่ ๑๒ ธันวาคม มีข่าวใหญ่