ตำรวจโอลิมปิก

2.ส.ต.ต.หญิง รัชนก อินทนนท์ (เมย์) ผบ.หมู่ ฝ่ายฝึกอบรม ศฝร.บช.ก. โอลิมปิกปีนี้น้องเมย์ได้เข้ารอบ 8 คนสุดท้ายแบดมินตันประเภทหญิงเดี่ยว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถและความพยายามที่ไม่มีที่สิ้นสุด 3.ส.ต.ท.หญิง ใบสน มณีก้อน (ครีม) ผบ.หมู่ ฝอ.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้เข้ารอบ 16 คนสุดท้ายในมวยสากลหญิง รุ่น 75 กิโลกรัม เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของวงการกำปั้นไทย และทำให้เห็นถึงความเป็นนักสู้ในตัวเธอ ๐

นอกจากนี้คนที่ 4.ส.ต.ท.ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด (เหลิม) ผบ.หมู่ ฝอ.ภ.จว.พิษณุโลก ได้เข้ารอบ 16 คนสุดท้ายในมวยสากลชายเช่นกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามและการเตรียมพร้อมที่ดีเยี่ยม 5.ส.ต.ท.วีระพล จงจอหอ  (เกมส์) ผบ.หมู่ ฝอ.ภ.จว.นครราชสีมา ได้เข้ารอบ 32 คนสุดท้ายในมวยสากลชาย รุ่น 80 กิโลกรัม มีความมุ่งมั่นและทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง จนสามารถคว้าตั๋วไปโอลิมปิกได้สำเร็จ 6.ว่าที่ ร.ต.อ.หญิง สุเบญรัตน์ อินแสง  (เบญ) รอง สว.ฝ่ายการฌาปนกิจสงเคราะห์ สก. ได้อันดับที่ 32 ในกีฬากรีฑาประเภทขว้างจักรหญิง ขว้างได้ดีที่สุดที่ 58.07 เมตร ทำให้เห็นถึงความสามารถทางกายภาพและการฝึกฝนอย่างหนักเพื่อโอลิมปิกในครั้งนี้ 7.ว่าที่ ร.ต.อ.หญิง สุธาสินี เสวตรบุตร (หญิง) รอง สว.ฝอ.1 บก.อก.บช.ก. ลูกเด้งสาวไทย ได้ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายในเทเบิลเทนนิสประเภททีม ถือว่าเป็นนักเทเบิลเทนนิสผู้เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นของความมุ่งมั่นในการไล่ตามความฝัน...เห็นที บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล แม่ทัพใหญ่สีกากี คงได้อิ่มเอมใจกับตำรวจโอลิมปิกทุกคน ๐

เล่นเอาสะดุ้งโหยง! หลังมีข่าวในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 มี "ตำรวจ" เข้าร่วมโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือเออร์ลีรีไทร์มากถึง 15,000 ราย ร้อนถึง บิ๊กแรก-พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (ผบช.สกพ.) ต้องมอบหมายให้ พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร รองโฆษกสำนักงานกำลังพล  ออกมาชี้แจงแถลงไข เพราะการที่มี "ตำรวจ" ยื่นลาออกมากถึง 1.5 หมื่นคน ถือว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดา เมื่อย้อนหลังไปในปีงบประมาณ 2567 มีผู้สมัครใจ 1,407 ราย ปีงบประมาณ 2566 มีผู้สมัครใจ 1,273 ราย และปีงบประมาณ 2565 มีผู้สมัครใจ 975 ราย โดยยืนยันการดำเนินการโครงการเออร์ลีรีไทร์ยังอยู่ในขั้นตอนการรับสมัครผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการ และจากการสำรวจยอดผู้ที่สนใจในเบื้องต้น จากหน่วยต่างๆ พบว่ามีจำนวนเพียง 1,218 ราย แบ่งเป็นชั้นสัญญาบัตร 1,117 ราย และชั้นประทวน 101 ราย  ซึ่งน้อยกว่าปีที่ผ่านมาที่มีจำนวน 1,407 ราย ที่สำคัญตัวเลขที่แน่นอนจะถูกยืนยันหลังจากหน่วยส่งหนังสือมาที่ กองทะเบียนพล สำนักงานกำลังพล โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการพิจารณาเลื่อนยศสูงขึ้น 1 ชั้นยศ และมีผลการลาออกจากราชการตามโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2567 เป็นต้นไป...ทราบแล้วเปลี่ยน ๐

15-17 ส.ค.นี้ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก มีกำหนดการไปเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ จึงไม่ได้เข้าประชุมสภากลาโหมในวันที่ 16 ส.ค.นี้ ทำให้คาดการณ์กันว่าน่าจะเป็นการคุยนอกรอบแบบไม่เป็นทางการไปก่อน เพราะหลังจากนั้น "สุทิน คลังแสง" รมว.กลาโหม พร้อม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด จะเดินทางไปเยือนเพนตากอน สหรัฐอเมริกา อย่างเป็นทางการนานหลายวัน วาระเคาะ “โผทหาร” จึงคงทอดระยะเวลาไปพักใหญ่ เพราะต่างฝ่ายต่างต้องสดับตรับฟังทิศทางข่าว ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติว่า “ไทม์ไลน์” ในการส่งโผไม่ใช่การ "ขีดเส้นใต้” ว่าจะต้องส่งวันนั้นครบทั้งหมด ขึ้นอยู่กับ รมว.กลาโหมว่าจะคุยแบบรายตัวหรือไม่ หรือเรียกประชุมคณะกรรมการปรับย้ายชั้นนายพลแบบม้วนเดียวจบ ๐

เสนาธิการเหล่าทัพตบเท้าแจง คณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ICT และทุนหมุนเวียน ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี  2568 เป็นที่เรียบร้อย ไฮไลต์คือโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีของกองทัพอากาศ วงเงิน 1.95 หมื่นล้านบาท ที่ผ่านการพิจารณาแบบผ่านฉลุย เรียกได้ว่า "เสธ.คิม” พล.อ.อ.เสกสรร คันธา เสนาธิการทหารอากาศ ที่เข้าไปตอบคำถาม ไม่ได้ถูกรุกไล่จากฝ่ายการเมืองเหมือนครั้งก่อนๆ แถม "วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” กมธ.วิสามัญงบประมาณชุดใหญ่ ยังเข้ามาร่วมประชุมด้วย มีทั้งการซักถาม เสนอแนะ รวมถึงสนับสนุน ส่งผลให้งบตั้งต้นปี 2568 วงเงินกว่า 3,900 ล้านบาทผ่านฉลุย รอเข้าสู่การพิจารณาใน กมธ.ชุดใหญ่วันที่ 19 ส.ค.นี้ เช่นเดียวกับโครงการของกองทัพเรือ ในการแจงคำขอรับงบประมาณการจัดหาเครื่องบินสนับสนุนภารกิจของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน 2 เครื่อง แม้จะมีการขอให้ลดจำนวนลง แต่เมื่อ ทร.ชี้แจงความจำเป็นก็ไฟเขียวผ่านตลอด เช่นเดียวกับโครงการปรับปรุงและพัฒนาขีดความสามารถของ ร.ล.ช้าง ก็ราบรื่นทุกประการ ทำให้ “เสธ.น้อย” พล.ร.อ.วรวุธ พฤกษารุ่งเรือง เสนาธิการทหารเรือ พร้อมคณะ เดินออกมาจากห้องประชุมด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข ๐

หน่วยทหารปล่อยภาพ ยานเกราะล้อยางจีน VN1  ประจำการในกองพันทหารม้าที่ 7 กรมทหารม้าที่ 2 รถเกราะกู้ซ่อม VS27 เพื่อเป็นการปรนนิบัติบำรุงยุทโธปกรณ์ของหน่วยประจำเดือน ให้พร้อมสำหรับปฏิบัติภารกิจเสมอ ที่ค่ายพิชัยดาบหัก จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นช่วงที่คณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ กำลังพิจารณาโครงการจัดซื้ออาวุธของกองทัพบก ที่ปีนี้เสนอขอรับงบประมาณรถเกราะล้อยางวงเงิน 987 ล้านบาท โดยมี "เสธ.ปู” พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ เสนาธิการทหารบก พร้อมคณะชี้แจงตอบข้อซักถาม ก่อนที่อนุ กมธ.จะให้ผ่านงบฯ โดยใช้เวลาพิจารณาเพียงสั้นๆ ไม่ดุเดือดเหมือนวันก่อนที่ไปชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการฝึกอบรม สัมมนา ประชาสัมพันธ์ ค่าจ้างเหมาบริการ ค่าจ้างที่ปรึกษา วิทยาศาสตร์ การวิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยี ค่าเช่า ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ งบดำเนินงาน งบเงินอุดหนุน และงบรายจ่ายอื่น และทุนหมุนเวียน เนื่องจากมี อนุ กมธ.ซักถามงบฯ ในส่วนของการสวนสนามอย่างดุเดือด แถมด้วยดรามากลางวงประชุม จนทะลักออกมาในโลกสื่อสังคมออนไลน์ ๐