ดูทรงแล้ว งานนี้ได้หัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง
จะมีการเปลี่ยนแปลงพรรคร่วมรัฐบาล
พรรคพลังประชารัฐ วันนี้แปรสภาพเป็น พลังประชาเละ ไปเรียบร้อย
"ลุง" ใช้ใจบันดาลแรง ขยุมหัว "แป้ง"
ส่วน "แป้ง" งัดสารพัดบารมีหวังเทียบกับ "ลุง"
ผลคือ ฉิบหาย กันทั้งหมด
ก็ไม่รู้ใครเดินเกมครับ พลังประชารัฐ ไม่มีอะไรได้เปรียบเลย
หมายถึงได้เปรียบ "ทักษิณ ชินวัตร"
วันก่อน ๖ สส.พรรคไทยสร้างไทย โหวตให้ "อุ๊งอิ๊ง" เป็นนายกฯ วิจารณ์กันให้แซ่ด เพราะ "ทักษิณ" ต้องการฉีกหน้า "เจ๊หน่อย" ระบายอารมณ์จากแค้นเก่า
ขนาดนั้นเลยหรือ?
มาครั้งนี้ "ทักษิณ" กำลังจะทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อความสะใจ
อย่ากะพริบตาเด็ดขาด
ก่อนอื่นเข้าใจตรงกันนะครับ การเมืองไทยยังอยู่ในมหายุคมีโซโซอิก ก็ยุคที่ไดโนเสาร์มีชีวิตอยู่นั่นแหละครับ
ที่เห็นตอนนี้ก็คือพวกฟอสซิล ที่หลุดรอดมา
หลังชำระแค้น "หญิงหน่อย" คราวนี้ "ทักษิณ" กำลังดีดลูกคิด เพื่อความสะใจที่ยิ่งกว่า
"ลุง" กับ "แป้ง" ตีกันเข้าทางครับ
เอาจริงๆ "ทักษิณ" มีความคิด "ปิดสวิตช์วงษ์สุวรรณ" มานานแล้ว ติดที่ "บิ๊กป๊อด" พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ยังเป็นสายสะดือเชื่อมอยู่
แต่หนนี้ดูเหมือนต้องเลือก
ให้ "ลุงป้อม" ไปพ้นๆ หน้า แต่ "บิ๊กป๊อด" ยังอยู่
แรกๆ ดูเหมือนจะยาก แต่ดันมีเรื่องที่ซับซ้อนกว่า กลับทำให้ง่ายขึ้นซะงั้น
"ทักษิณ" ไม่ต้องลงมือเอง ปล่อยให้ "ลุง" กับ "แป้ง" ฟาดฟันกันไป
ขณะที่ในใจ "ทักษิณ" ไม่เอาทั้ง "ลุง" ทั้ง "แป้ง"
กับ "ลุง" เป็นแค้นเก่า ชำระเมื่อไหร่ก็ได้
"ทักษิณ" ถึงได้บอกว่า "สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ใครทำอะไรไว้ควรต้องรู้ตัว"
แต่กับ "แป้ง" ต้องรีบผลักให้พ้นตัว เพราะคือระเบิดเวลา
จึงต้องปิดสวิตช์แป้งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
รัฐบาลอุ๊งอิ๊งต้องไม่มีชื่อ "ธรรมนัส พรหมเผ่า" เป็นรัฐมนตรี เพราะเสี่ยงซ้ำรอย "เศรษฐา ทวีสิน" ตั้ง "พิชิต ชื่นบาน"
หาก "ธรรมนัส" มีปัญหาเรื่อง ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง นั่นหมายถึง "อุ๊งอิ๊ง" ไม่ได้ไปต่อ
จะกล้าเสี่ยงหรือไม่?
วานนี้ (๒๐ สิงหาคม) "ทักษิณ" ทำหน้าที่ผู้จัดการรัฐบาลแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว เพราะสิ่งที่ "ทักษิณ" พูด นายกฯ อุ๊งอิ๊ง ยังไม่ได้พูดเลยสักคำ
"ทักษิณ" พูดถึง "ธรรมนัส" เอาไว้ชัดเจน
"...ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกติกา ถ้าคณะกรรมการกฤษฎีการะบุเป็นลายลักษณ์อักษรออกมาผ่านก็คือผ่าน ไม่ผ่านคือไม่ผ่าน ไม่เช่นนั้นนายกฯ จะอยู่ในฐานะแบบคราวที่แล้ว ไม่ดีเลย..."
เมื่อไม่เอาทั้ง "ลุง" และ "แป้ง" จะเอาใคร
เรื่องที่ พรรคประชาธิปัตย์ จะเข้าร่วมรัฐบาล ไม่ใช่เล่นๆ แล้วครับ
เป็นอานิสงส์คำวินิจฉัยคดีถอดถอนนายกฯ เศรษฐาโดยแท้
ณ วินาทีนี้ มีโอกาสสูงที่ พรรคประชาธิปัตย์ จะเสียบแทน พรรคพลังประชารัฐ
๔๐ เสียงไป ๒๕ เสียงมา
ขาดทุน ๑๕ เสียง
จาก ๓๑๔ เหลือ ๒๙๙ ก็ยังเกินกึ่งหนึ่งไปพอสมควร
ไม่ได้เดาเอาเองนะครับ แต่มาจากปาก "ผู้จัดการรัฐบาล"
นักข่าวถามเรื่องที่พรรคพลังประชารัฐอาจมาไม่ครบ อาจจะมีพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเติมเสียง
คำตอบจากปาก "ทักษิณ" คือ
"...เป็นธรรมชาติ ที่ต้องมีเสียงให้มีเสถียรภาพ เพราะปัญหาประเทศเยอะมาก ปัญหาที่ต้องเปลี่ยนในเรื่องโครงสร้างมีหลายอย่างโดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ต้องอาศัยการแก้กฎหมาย การสนับสนุนจากสภาฯ เราจึงต้องมั่นใจว่ารัฐบาลมีเสียงพอทำให้เกิดความเชื่อมั่นต่อประเทศ
สุ่มเสี่ยงก็ไม่ควร ทุกคนควรต้องเสียสละเพื่อให้การเมืองต่อเนื่อง..."
ถามย้ำว่าไม่ปิดทางดึงพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมรัฐบาล
"ทักษิณ" ตอบว่า "...เป็นไปได้อยู่แล้ว..."
แบบนี้ "ลุง" กับ "แป้ง" ทะเลาะกันไปก็หัวร้างข้างแตกกันเอง ไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย
ก็เช่นเคยครับ "ทักษิณ" อยากให้พรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลมาพักหนึ่งแล้ว
เหตุผลไม่ได้พิศวาส "มิสเตอร์ต่อเดช" อะไรมากมายหรอกครับ
แค่อยากสะใจ
อยากเห็นคนอย่าง "ชวน หลีกภัย" - "บัญญัติ บรรทัดฐาน" กระอักเลือด!
เหมือนที่สะใจได้เห็น "เจ๊หน่อย" ชีช้ำกะหล่ำปลีนั่นแหละครับ
นี่คือ "ทักษิณ ชินวัตร"
ก็ไม่ทราบ ความสะใจเป็นเหตุผลรองหรือเหตุผลหลัก
แต่ในทางการเมือง พลังประชารัฐ ไปต่อลำบาก
เว้นเสียแต่ว่า "ธรรมนัส" ยอมสละเก้าอี้ ส่งบริวาร ขึ้นเป็นรัฐมนตรีแทน และสามารถสงบศึกกับ "ลุง" ได้
ก็เลือกเอา กำขี้ ดีกว่ากำตด
สถานการณ์ที่มีคนแต่งตัวรอเพิ่มแบบนี้ "ทักษิณ" ชอบเพราะอำนาจต่อรองสูงกว่าเดิม
แต่สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนอยู่บนทางสองแพร่ง
ไปซ้ายกับขวา ต่างกันราวฟ้ากับเหว
คนที่ "ทักษิณ" คิดว่าต้องกระอักเลือดแน่อย่าง "นายหัวชวน" ก็แสดงจุดยืนชัดเจน
"...มีจุดยืนส่วนตัวว่าไม่ร่วมตั้งแต่ต้น เพราะไม่อยากถูกประณามว่าทรยศชาวบ้าน เพราะเคยหาเสียง ทำให้แม้พรรคเพื่อไทยได้คะแนนท่วมท้น แต่ในภาคใต้ไม่มี สส.แม้แต่คนเดียว
ส่วนตัวมองว่าหากเป็นฝ่ายค้านก็ต้องทำหน้าที่ของฝ่ายค้านจริงๆ แต่ถ้าหากเป็นฝ่ายค้านแล้วลังเลใจ เวลามีมติอะไรก็ไม่กล้าตัดสินใจ เพราะกลัวเขาจะโกรธและไม่ให้ร่วมรัฐบาล เพราะการเป็นฝ่ายค้านแม้ สส.น้อย แต่สามารถทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้..."
แต่ "นายหัวชวน" ยอมรับว่า สุดท้ายต้องเคารพมติพรรค
ครับ...การมาของ "ทักษิณ" ที่เชื่อกันว่ามีดีลลับ เพื่อสกัด พรรคสีส้ม เริ่มจะเลยเถิด กลายเป็นการสร้าง ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ขึ้นมาใหม่
เหตุผลกลัวพรรคสีส้มเริ่มจะไม่สมเหตุสมผลเข้าไปทุกที
เพราะในแง่ข้อเท็จจริงต่อให้ พรรคสีส้ม ชนะเลือกตั้งถล่มทลายสามารถตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ ก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนอะไรได้ง่ายๆ
แก้ ม.๑๑๒ ยังแทบจะทำไม่ได้
ระวังผลของดีลลับ จะย้อนกลับไป ก่อน ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙
เสียเวลาประเทศไทย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ฝึกงาน
ขยี้ตาสิบที... แถลงผลงานในรอบ ๓ เดือนแน่นะ "อิ๊งค์" ไปดูอีกทีกับการแถลงข่าววานนี้ (๑๒ ธันวาคม)
ชะตากรรม 'นายกฯ ชินวัตร'
วันนี้ (๑๒ ธันวาคม) นายกฯ อิ๊งค์ แถลงผลงาน อยากรู้ว่าผลงานมีอะไรบ้าง เชิญเฝ้าหน้าจอสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที หรือช่อง ๑๑ นั่นแหละครับ
ในวันที่ 'ส้ม' โหยหาเพื่อน
ไอ้เสือถอย! ไปไม่ถึงสุดซอยครับ "หัวเขียง" ยอมเลี้ยวกลับเสียก่อน
ง่ายๆ แค่เลิกโกง
อาจถึงขั้นเปลี่ยนขั้วตั้งรัฐบาลกันเลยทีเดียวครับ... หากพรรคเพื่อไทย จะเอาให้ได้ กับร่างแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ด้วยการจับยัดเข้าสภาฯ ก็สามารถยึดอำนาจกองทัพได้สำเร็จครับ
'อุ๊งอิ๊ง' แถลงผลงาน
ล้างตารอไว้นะครับ นายกฯ แพทองธาร นัดไว้แล้ววันที่ ๑๒ ธันวาคม มีข่าวใหญ่
หรืออยากฟังเพลงมาร์ช
เขาว่าเป็นร่างกฎหมายป้องกันรัฐประหาร ข่าววานนี้ (๖ ธันวาคม) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เผยแพร่การรับฟังความเห็นร่าง พ.ร.บ.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๗๗ ในร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่...)