เราคนไทยมักจะอ้างว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐ มีการบริหารกิจการต่างๆ ภายในประเทศตามหลักการของนิติธรรม แต่สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเวลานี้ หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐจริงหรือ เราใช้หลักนิติธรรมในการบริหารประเทศจริงหรือ เรายังมีกระบวนการยุติธรรมที่ยังใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลจริงหรือ ประชาชนทุกคนปฏิบัติตนตามข้อกำหนดกฎหมายอย่างเคร่งครัดหรือไม่ คนทำผิดกฎหมายถูกลงโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้แน่หรือ ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างทัดเทียมเสมอภาคกันจริงตามหลักการของนิติธรรมหรือไม่ ที่ต้องตั้งคำถามแบบนี้ เพราะเราได้เห็นคนที่ทำผิดไม่ถูกลงโทษ หลายคนยังคงลอยนวล ใช้ชีวิตปรกติอย่างสุขสำราญ ทั้งๆ ที่พวกเขามีการกระทำผิดกฎหมาย แต่หาหลักฐานตามหลักการของนิติธรรมเอาผิดเขาไม่ได้บ้าง มีเนติบริกรคอยตีความกฎหมายช่วยให้สิ่งที่ผิดกลายเป็นถูก หรือบางครั้งก็ได้รับความช่วยเหลือจากผู้รักษากฎหมาย ใส่เกียร์ว่าง ไม่ดำเนินการฟ้องร้องเพื่อเอาผิด
เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ประเทศไทยของเราจึงไม่อาจจะอ้างความเป็นนิติรัฐที่บริหารประเทศด้วยหลักนิติธรรม ที่เราเห็นชัดเจนวันนี้คือ คนที่สามารถใช้อำนาจในการได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการ อยากได้อะไรก็ต้องได้ อยากให้ใครดำรงตำแหน่งอะไรก็ได้ตามนั้น อยากทำโครงการอะไรก็ได้ทำ อยากให้กฎหมายใดผ่าน มันก็ผ่าน หลายครั้ง สิ่งที่อยากได้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ผิดธรรมเนียมปฏิบัติ เขาก็ยังสามารถทำได้ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าสิ่งที่เขาทำไม่ถูกต้อง แต่เขาก็สามารถทำโดยไม่มีความผิดอันใด บางสิ่งทำไปแล้วและหลายคนมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่เขาก็สามารถใช้อำนาจเงิน อำนาจรัฐ ทำให้เขาไม่มีความผิดอันใด ที่น่าสมเพชเวทนาอย่างมากก็คือ เขาคนนั้นที่ทำผิด และได้ทุกสิ่งทุกอย่างตามใจปรารถนา กลับไม่มีความผิดอันใด แต่จะมีคนที่รับใช้เขา ช่วยเหลือคนให้ได้สิ่งที่เขาต้องการ กลับต้องเป็นผู้รับกรรมแทน ด้วยการติดคุกบ้าง ต้องชดใช้ค่าเสียหายบ้าง ต้องหนีออกไปใช้ชีวิตยากลำบากอยู่ต่างประเทศบ้าง
กระทำความผิด สารภาพว่าทำผิดจริงตามที่ถูกกล่าวฟ้อง และบอกว่าสำนึกแล้ว ถูกตัดสินให้ติดคุก แต่ต้องการที่จะไม่เข้าคุกแม้แต่วันเดียวก็สามารถทำได้ มีคนพร้อมที่จะช่วย ทั้งนักการเมืองและข้าราชการต่างก็พร้อมที่จะเป็นทาสรับใช้ ให้เขาได้สิ่งที่เขาต้องการ หวังว่าเมื่อช่วยเขาแล้วจะได้รับการตอบแทน ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์หรือตำแหน่ง แต่แล้วคนที่ช่วยให้ใครบางคนได้ในสิ่งที่เขาต้องการ ก็เสี่ยงที่จะต้องติดคุก เพราะการช่วยให้เขาได้ตามที่เขาต้องการนั้น เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เป็นการกระทำมิชอบ หรือเป็นการละเว้นหน้าที่ เมื่อมีการสอบสวนทวนความ คนที่ช่วยให้คนทำผิดไม่ติดคุกสมใจปรารถนาอาจจะต้องเขาไปอยู่ในคุกแทน ตอนนี้มีความพยายามที่จะนำเอาหลักนิติธรรมมาสอบสวนคนที่ช่วยให้เขาคนนั้นที่ลูกสาวเรียกว่าเป็นเทวดา ให้สมปรารถนา ดูเหมือนว่ากรรมกำลังไล่ล่า เพราะพวกเขาอาจจะต้องติดคุกในฐานะผู้ช่วยเหลือให้เขาคนนั้นได้สิ่งที่เขาต้องการ เขาคนนั้นทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย ได้สิ่งที่เขาต้องการที่เป็นเหตุให้คนอื่นต้องติดคุก
อยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี หรือเป็นรัฐมนตรี เขาก็ทำได้ตามที่ต้องการ ไม่มีใครกล้าขัดใจ และแล้วคนที่ช่วยให้เขาสมใจในการกำหนดให้ใครเป็นรัฐมนตรี คนที่ทำตามใจเขาก็ต้องตกสวรรค์ แถมมีตราบาปติดตัวว่าเป็นคนที่ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และเป็นผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ทั้งๆที่จริงๆ แล้วคนที่มีตราบาปนั้นไม่ใช่คนที่ทำผิดด้วยตนเอง แต่ถูกสั่งการให้ทำ และไม่ถูกสั่งก็ไม่อาจปฏิเสธได้ เมื่อการกระทำดังกล่าวนั้นเป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ คนที่ทำตามคำสั่งก็ต้องรับโทษ แต่คนที่ได้สิ่งที่อยากได้ไม่ต้องเดือดร้อนอะไรเลย จนมาถึงวันนี้คนที่เขาอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล เขาก็ได้ตามใจต้องการ ทั้งๆ ที่คนที่เขาผลักดันให้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้นไม่ได้มีความรู้ความสามารถใดๆ ที่สมกับตำแหน่ง และไม่มีสติปัญญาเพียงพอในการทำหน้าที่ แต่เขาก็ผลักดันได้สำเร็จ สมอกสมใจเขา
เวลานี้แม้ผู้คนจำนวนมากจะไม่พอใจคนที่เขาผลักดันให้ได้ตำแหน่ง ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แม้นว่าต่อไปในภายหลังอาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ตัวเขาเองก็สมหวังไปแล้ว ได้สิ่งที่ต้องการไสมใจไปแล้ว เวลานี้เมื่อเวลาผ่านไปประชาชนมองเห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่าคนที่เขาพยายามผลักดันให้ได้ตำแหน่งนั้นไม่มีความเหมาะสมแม้แต่ 10% ของการทำหน้าที่ ก็ไม่มีใครทำอะไรที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ การที่เขาได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาต้องการ เพราะเขามี “ประชาทาส” ทำตัวเป็นขี้ข้ารับใช้แบบหลับหูหลับตา ไม่สนสี่สนแปดว่าการทำตัวเป็นลิ่วล้อรับใช้นายนั้นเป็นสิ่งที่ผิดหรือถูก ถูกต้องตามหลักธรรมาภิบาลหรือไม่ เป็นการกระทำที่มีจริยธรรมหรือไม่ สั่งมาอย่างไรก็ทำให้ตามนั้น การพิจารณาว่า “ถูกหรือผิด” ไม่ใช่ประเด็น สิ่งที่เป็นประเด็นก็คือ “ต้องทำอะไรที่จะถูกใจนาย ต้องทำอย่างไรให้นายได้สิ่งที่นายต้องการ”
ล่าสุดนี่ก็คือ ตำแหน่งสำคัญในองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการบริหารการเงินเพื่อเสถียรภาพเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อเขาชี้มาแล้วคนที่จะดำรงตำแหน่งสำคัญในองค์กรจะเป็นใคร คนที่ทำหน้าที่คัดเลือกก็เลือกคนที่เขาต้องการ (ตามข้อสันนิษฐานของคนที่ติดตามข่าวสารบ้านเมือง) ประชาชนไม่สบายใจที่ผลการคัดเลือกออกมาเช่นนี้ แต่ถ้าหากเราจะถามว่า “เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจะทำอะไรเขาได้” คงจะมีหลายคนที่จะตอบว่า “จะทำอะไรได้ล่ะ ก็เขาต้องการอย่างนี้ และมีคนช่วยให้เขาสมออกสมใจเช่นนี้ มันก็ต้องตามนั้น” เหมือนจะบอกว่า เราคงทำอะไรเขาไม่ได้ นอกจาก “ทำใจ” ยอมรับสภาพด้วยความอดทน เรื่องที่กำลังติดพัน คือเรื่องทรัพยากรใต้เกาะ ยังไม่รู้ว่าจะออกหัวออกก้อย แต่ผู้คนจำนวนมากก็หวั่นไหว ถ้าหากคนคนนี้อยากได้อะไรเขาต้องได้ เราจะเสียผลประโยชน์อะไรบ้าง และที่สำคัญเราจะเสียดินแดนไหม คนคนนี้อยากได้อะไรเขาต้องได้ น่ากลัวนะคะ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดร.เสรี ลั่นรังเกียจ วาทกรรมแซะสถาบัน
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสารโพสต์เฟซบุ๊กว่า เกิดวาทกรรมใหม่ "ใบอนุญาตที่ 2"
เด็กฝึกงาน...ไม่ผ่านโปร
ฉากทัศน์ทางการเมืองของประเทศไทยหลังจากรู้ผลของการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เป็นภาพที่สร้างความกังวลให้กับคนไทยจำนวนมากที่ไม่ได้เลือกพรรคส้มหรือพรรคแดง
'ความเป็นไทย' กับกรณีน้ำท่วมภาคเหนือ-ภาคใต้
ถึงแม้จะก่อเกิด ถือกำเนิด ที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี...แต่ด้วยเหตุเพราะไปเติบโตที่ภาคใต้ ไม่ว่าเริ่มตั้งแต่อำเภอทุ่งสง จังหวัดหน่ะคอนซี้ทำหมะร่าด ไปจนอำเภอกันตัง
ได้ฤกษ์ 'นายพล' ล็อต 2
ผ่านเดดไลน์ตามคำสั่ง ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ทุกหน่วยส่งบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น
'ดร.เสรี' กรีดเหวอะ! ใครมีลูกสาวเก่งพอที่จะเป็นนายกฯ ต้องบอกลูกให้มีผัว 9 คนอยู่ใน 9 ภาค
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสารโพสต์เฟซบุ๊กว่า ใครมีลูกสาวที่เก่งพอที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ต้องบอกลูกนะคะ
ช่างกล้า...ช่างมั่น รับประกันด้วยตำแหน่ง
ในขณะที่ประชาชนผู้รักชาติ รักแผ่นดิน มีความเป็นห่วงเป็นใยว่าการเจรจาแบ่งผลประโยชน์จากทรัพยากรในท้องทะเลใต้เกาะกูดตามที่มีการลงนามความเข้าใจร่วม (MOU) 44