'รทสช.'รุกเดินสายเก็บแต้ม เปิดว่าที่ผู้สมัครอีสาน-ใต้

ความเคลื่อนไหวของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โดยการนำของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ที่อยู่ในช่วงเดินสายจัดตั้งสาขาพรรค เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค และการรวบรวมขุนพลเข้าพรรคเพื่อร่วมกันทำงานเตรียมพร้อมสู้ศึกการเลือกตั้งที่จะถึงนี้

ซึ่งมีความชัดเจนมากแล้วว่า “บิ๊กตู่”-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บนเส้นทางการเมืองจะแยกทางกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ของ “บิ๊กป้อม”-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. แต่การแยกทางในครั้งนี้ ความเป็นพี่น้องของ 2 ป. ยังคงอยู่

โดย พล.อ.ประวิตร ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ที่ถามถึงกรณีมี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ไปอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า “อ๋อ เขาก็ไป ก็พรรคเดียวกันนั่นแหละครับ ไม่มีอะไรหรอกครับ” 

เมื่อถูกถามย้ำอีกว่าพูดได้หรือไม่ว่า พรรคพลังประชารัฐกับพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคเดียวกัน พล.อ.ประวิตร มีท่าทีอึกอักก่อนจะตอบว่า “พล.อ.ประยุทธ์กับผมก็เป็นพี่เป็นน้องกัน ไม่มีอะไร ท่านอยากไปอยู่นู่นก็ไป ผมไม่ว่าอะไร ผมไม่มีปัญหาอะไร ยืนยันว่าผมไม่มีความขัดแย้งกันเลย อยู่กันมา 40-50 ปีแล้ว จะมาขัดแย้งได้อย่างไร สื่อถามทุกวันเลย” 

พร้อมกับยืนยันอีกด้วยว่า ขอให้ประชาชนรับทราบด้วยว่า ตนไม่ได้มีความขัดแย้ง นี่เป็นสิ่งที่ผู้สื่อข่าวถามเองว่าให้ตนขัดแย้ง ตนไม่ขัดแย้งกับใคร

เป็นความชัดเจนมากขึ้นว่า บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม พปชร.-รทสช. แม้จะแยกกันเดิน แต่ยังเป็นพวกเดียวกัน

ทั้งนี้ในส่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ จะเลือกร่วมทางกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งมีรายงานว่าจะนั่งเป็นประธานพรรค และจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เบอร์ 1 ส่วนนายพีระพันธุ์จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เบอร์ 2 

และจากความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะยังไม่ฟันธงจากปากว่าจะร่วมสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติเมื่อไหร่ โดยระบุแค่ว่า “เมื่อถึงเวลาแล้วจะพูดเอง” ซึ่งในช่วงรอเวลาที่เหมาะสมนั้น พล.อ.ประยุทธ์ยังคงเดินสายปฏิบัติภารกิจ ลงพื้นที่พบปะประชาชน ในหมวกของนายกรัฐมนตรีได้อย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะยังไม่สวมหมวกใบที่สองกับพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างเต็มตัว แต่ทางการเมืองได้มีการทยอยเปิดหน้าขุนพลทีม พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะเข้าสังกัดรวมไทยสร้างชาติ ที่ไหลเข้ามาเรื่อยๆ ไม่ขาดสาย

ทั้งยังมีกระแสข่าวการแต่งตั้งนายพีระพันธุ์ นั่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แทนนายดิสทัต โหตระกิตย์ ที่มองกันว่าหากมีการขยับในตำแหน่งนี้ให้นายพีระพันธุ์ จะทำให้การทำงาน การประสานงานเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ของพรรคจะง่ายขึ้น

ขณะที่ “รวมไทยสร้างชาติ” เวลานี้เป็นช่วงเดินสายที่หนักพอสมควรเพื่อทำคะแนนในฐานะพรรคการเมืองใหม่ โดยตลอดเดือนพฤศจิกายนได้ลุยเปิดสาขาพรรคและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในภาคใต้และภาคอีสาน โดยก่อนหน้านี้ได้บุกบ้านใหญ่พัทลุง เปิดสาขาพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมเปิดตัว นายนิติศักดิ์ ธรรมเพชร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 ทายาทนักการเมืองตระกูลธรรมเพชร

จากนั้นเปิดสาขาพรรคจังหวัดชุมพร และเปิดตัว นายวิชัย สุดสวาทดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 จังหวัดชุมพร โดยมีขุนพลสำคัญในพื้นที่อย่าง นายสุพล จุลใส ส.ส.ชุมพร  นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช และนายจุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร ร่วมด้วย

ทั้งยังเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ยะลา เขต 1 นายอะห์หมัด บอสตา อดีตสมาชิกสภาจังหวัดยะลา ที่ทางพรรคคัดสรรคนรุ่นใหม่และประชาชนในพื้นที่ยอมรับ

ก่อนต่อเนื่องเหยียบภาคอีสานเป็นครั้งแรก ที่จังหวัดอุดรธานีและจังหวัดขอนแก่น โดยมีสมาชิกพรรคและประชาชนผู้สนับสนุนในภาคอีสานตอนบน ทั้งจังหวัดอุดรธานี ร้อยเอ็ด หนองคาย สกลนคร กาฬสินธุ์ และมุกดาหาร รวมถึง “กลุ่มแดงอุดร” ที่นำโดย นางรัตนาวรรณ สุขศาลา อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อุดร และยังมี นางบุญญาพร นาตะธนภัทร ส.ส.พลังชาติไทย ได้ตบเท้าเข้าร่วมงานด้วย

ทั้งนี้จังหวัดอุดรธานีมีทั้งหมด 9 เขต ซึ่งมีผู้เสนอตัวเข้ามาทำงานและลงสมัครในนามพรรครวมไทยสร้างชาติแล้ว เกือบ 20 คน โดยมีทั้งอดีต ส.ส. สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (สจ.) และแกนนำ นปช.

นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งสาขาพรรคประจำจังหวัดขอนแก่น เขตเลือกตั้งที่ 5 พร้อมเปิดตัว ดร.วุฒิพงศ์ ศุภรมย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 5 ขอนแก่น และ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 10 ขอนแก่น ทั้งนี้สำหรับในพื้นที่ภาคอีสาน พรรครวมไทยสร้างชาติใช้กลยุทธ์ในการลงพื้นที่หนักและถี่เป็นพิเศษ เพื่อหวังตีคะแนนจากพรรคเพื่อไทยได้บ้าง

ขณะที่ล่าสุดยังได้ นายพงศ์สิน เสนพงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) น้องชาย นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย นายสุรเชษฐ มาศดิตถ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โดยทั้ง 2 คน ได้แสดงตนเป็นผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ จังหวัดนครศรีธรรมราช

ส่วนวันที่ 28 พฤศจิกายน พรรครวมไทยสร้างชาติมีการประชุมแต่งตั้งตัวแทนพรรค เขต 1 จังหวัดสงขลา และวันที่ 29 พฤศจิกายน ประชุมแต่งตั้งตัวแทนพรรค เขต 3 จังหวัดลพบุรี 

ทั้งนี้การขยับปรับทัพดูด ส.ส.ของ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” โดยใช้กระแสนิยมของ “บิ๊กตู่” จะไปถึงเส้นชัยในสนามการเลือกตั้ง 2566 นี้หรือไม่ คงต้องดูกันต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เอกนัฏ' พร้อมหนุนญัตติเพื่อไทย ถามศาลรธน. บรรจุวาระแก้รธน. แต่ต้องไม่แตะหมวด 1,2

"เอกนัฏ" หนุนถามศาล รธน. แต่ขอเพื่อไทยวางหลักประกัน ไม่แตะหมวด 1-2 แก้รายมาตรา ป้องรัฐธรรมนูญ 60 ไม่ใช่ผลพลอย รปห. ชี้ หากแก้เกือบทั้งฉบับ จะเสียของดี

ลากไส้องค์กร'สีกากี'ยิ่งแฉยิ่งเละ ถึงเวลาปฏิรูปตำรวจกู้ภาพลักษณ์

เละ! ตายตามกันไปข้าง ศึกภายในรั้ว “กรมปทุมวัน” ถึงแม้ “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.และ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.จะถูกโยกไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี แต่ศึก “นอมินี” แทงฟันกันเลือดสาดไม่มีใครยอมใคร อย่างที่ ทีมทนาย “รองฯ โจ๊ก” เตือนก่อนที่ความขัดแย้งจะบานปลายมาจนถึงปัจจุบัน “ไม่ยอมตายเดี่ยว”

เดินหน้าแจกดิจิทัลวอลเล็ต หลังเพิ่มทางเลือกแหล่งเงิน

หลังเมื่อวันจันทร์ที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง” เปิดแถลงข่าวไทม์ไลน์นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะเดินหน้านโยบายดังกล่าวต่อไป และจะสามารถแจกเงินให้ประชาชน 10,000 บาท ได้ภายในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ คือประมาณ ตุลาคม-ธันวาคม 2567

กางไทม์ไลน์‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ รัฐบาลได้‘ไฟเขียว’แจกเงิน?

โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท นโยบาย เรือธง ของพรรคเพื่อไทย โยกเยก ไร้ความชัดเจนตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ

ทักษิณรุกคอนโทรล พท. ยิ่งขยับ ยิ่งเข้าทาง ก้าวไกล

การเดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยของ ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะ เจ้าของพรรค-หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริง วันอังคารที่ 26 มี.ค.นี้ ถ้าไม่มีการยกเลิกเสียก่อน แต่ก็พบว่า กระแสข่าวดังกล่าวค่อนข้างคอนเฟิร์มว่าทักษิณไปแน่

‘ธรรมนัส’ บอกไม่รู้ สส.ก้าวไกล ดอดพบ ‘บิ๊กป้อม’ ขอเข้าพรรค โยน กก.บห.ตัดสินใจ

’ธรรมนัส‘ บอกไม่ทราบเรื่อง ปม ’สส.ก้าวไกล‘ ดอดพบ ‘บิ๊กป้อม’ ปัดตอบ พปชร. ปิดประตูหรือไม่ โยน กก.บห.พรรค ตัดสินใจ ย้ำจะไม่ทำอะไรที่เคยเป็นบทเรียนในอดีต ให้เกิดความหมางใจกัน