เร่งปิดบัญชีรุกป่า ใกล้เลือกตั้ง บิ๊กการเมืองผวา ซ้ำรอย"กนกวรรณ"

คาดได้ว่า บ้านใหญ่วิลาวัลย์ ปราจีนบุรี รู้อยู่แล้วว่าผลคำตัดสินของศาลฎีกา เมื่อวันพุธที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่พิพากษาว่า กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่อยู่ระหว่างการถูกศาลฎีกาสั่งให้หยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ 26 สิงหาคม 2565 มีความผิดฐาน ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณี ครอบครองเอกสารสิทธิโดยมิชอบ และรุกป่าเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี ด้วยการสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐออกโฉนดที่ดินบุกรุกป่าเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่พื้นที่ จ.ปราจีนบุรี

ทำให้ต้องพ้นจากการเป็น รมช.ศึกษาธิการอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 22 ก.พ.2566 และถูกตัดสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต-เพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 10 ปี เชื่อได้ว่าทางกนกวรรณและบ้านใหญ่วิลาวัลย์ คงประเมินแล้วว่า โอกาสชนะคดีน่าจะยาก คงทำใจไว้นานแล้ว

แต่ที่กนกวรรณและบ้านใหญ่วิลาวัลย์ต้องลุ้นมากกว่า ก็คือ คดีอาญา ที่กนกวรรณและบิดา สุนทร วิลาวัลย์ นายกฯ อบจ.ปราจีนบุรี หรือโกทร ผู้กว้างขวางแห่งปราจีนบุรี ตกเป็นจำเลยต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 2 ที่อยู่ระหว่างการสู้คดี

เหตุที่ต้องลุ้นหนัก เพราะเดิมพันของคดีอาญา เป็นเรื่องคอขาดบาดตายมากกว่า กับบทลงโทษที่จะตามมาหากถูกศาลอาญาคดีทุจริตตัดสินว่ากระทำผิดจริง ตามคำฟ้องของ ป.ป.ช.กับข้อกล่าวหา ร่วมกับพวกรวม 10 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่ดิน กรณีสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐออกโฉนดที่ดินบุกรุกป่าเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่พื้นที่ จ.ปราจีนบุรี

ส่วนเรื่องหลุดจากตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการและถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง เป็นเรื่องที่กนกวรรณแม้จะเสียดาย ที่ต้องหลุดจากการเมือง แต่ก็ยังสามารถส่งทายาทคนในครอบครัวมารับช่วงต่อได้ เพื่อรักษาฐานอำนาจการเมืองในจังหวัดปราจีนบุรีไว้กับบ้านใหญ่ตระกูลวิลาวัลย์ต่อไป

 ซึ่งปัจจุบันก็มีอยู่แล้ว 1 คนคือ อำนาจ วิลาวัลย์ ส.ส.ปราจีนบุรี 3 สมัย หลานสุนทร ส่วนสุนทรก็ยังเป็นนายกฯ อบจ.ปราจีนบุรี

 โดยหากการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ภูมิใจไทยชนะเลือกตั้งยกจังหวัดปราจีนบุรีอีกครั้งแบบตอนเลือกตั้งปี 2562 แล้วภูมิใจไทยได้เป็นรัฐบาล ก็คาดว่า อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ก็คงให้โควตารัฐมนตรีกับกลุ่มปราจีนบุรีอีกรอบ แต่อาจจะเป็นคนอื่นที่มาแทน ที่น่าจะเป็น ชยุต ภุมมะกาญจนะ ส.ส.ปราจีนบุรี 5 สมัย ก็เป็นได้

ส่วนว่าตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการที่ว่างลง ภูมิใจไทยจะเสนอชื่อคนเป็นรัฐมนตรีแทนกนกวรรณหรือไม่?

 ต้องรอดูว่า อนุทินและภูมิใจไทยจะว่าอย่างไร หลังจากที่ยอมซื้อใจบ้านใหญ่ปราจีนบุรี ด้วยการไม่เสนอปรับกนกวรรณออกจากตำแหน่งหลังถูกศาลฎีกาสั่งให้หยุดพักปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่สิงหาคมปีที่แล้ว ซึ่งเรื่องการปรับ ครม.ก็ยังสามารถทำได้ เพราะประเมินกันว่า หากมีการยุบสภาเดือนมีนาคมและมีการเลือกตั้ง 7 พ.ค. กว่าที่ กกต.จะรับรองการเลือกตั้ง-กว่าจะจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้น และต้องรอให้รัฐบาลใหม่แถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภา เร็วสุดกว่ารัฐบาลใหม่จะเข้าไปทำงานก็ปลายเดือนกรกฎาคม ก็เท่ากับมีเวลาอีกร่วม 5 เดือน กับการนั่งเป็นรัฐมนตรี

แต่หลายฝ่ายก็ประเมินกันว่า อนุทินและภูมิใจไทยอาจยอมปล่อยให้เก้าอี้รัฐมนตรีดังกล่าว โควตาภูมิใจไทยว่างไปเลยก็ได้ เพราะการปรับ ครม.มีขั้นตอนหลายขั้นตอน ไม่อยากไปรบกวนพลเอกประยุทธ์ให้ปรับ ครม. ตรงนี้ก็ต้องรอติดตามว่าภูมิใจไทยจะเอาอย่างไรต่อไป

  แต่ที่น่าสนใจก็คือ คดีครอบครองเอกสารสิทธิที่ดินโดยมิชอบ-คดีรุกป่าฯ ในแฟ้มคดีของคณะกรรมการ ป.ป.ช. หลังจากนี้พบว่า หลายคดี ป.ป.ช.ใกล้ปิดสำนวน ที่ข่าวว่ามีนักการเมืองระดับ บิ๊กเนมฝ่ายค้านคนหนึ่งที่คนทั้งประเทศรู้จักกันดี และ แกนนำพรรคฝ่ายค้านคนหนึ่ง ที่เคยเป็นอดีต ส.ส. มีชื่ออยู่ในแฟ้มที่ ป.ป.ช.กำลังไต่สวน และกำลังใกล้จะปิดคดี สรุปสำนวนในเร็ววันนี้ ในช่วงที่การเลือกตั้งกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

เรื่องดังกล่าว มงคล ศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักไต่สวนคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า คดีที่น่าสนใจในปีนี้ ประกอบด้วย

คดีที่ 1 การบุกรุกที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหิน เขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นสนามทดสอบรถยนต์

คดีที่ 2 การบุกรุกที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหิน เขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นสนามกอล์ฟ และเป็นพื้นที่ใกล้เคียงกับคดีที่ 1

 คดีที่ 3 การออกโฉนดที่ดินโดยการเดินสำรวจในเขตเขาและความลาดชันเกิน 35% อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ประมาณ 300 ไร่ อยู่ในขั้นตอนแจ้งข้อกล่าวหา โดยเกี่ยวกับกลุ่มทุนน้ำเมา

 คดีที่ 4 อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตออกโฉนดที่ดิน 2 แปลง บนหาดฟรีด้อม ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต เป็นพื้นที่ที่ไม่สามารถออกโฉนดได้ โดยได้เรียกรับเงินในการดำเนินการจำนวน 120 ล้านบาท ซึ่งจะเสร็จภายในปีนี้แน่นอน

 คดีที่ 5 ออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ และรับรองแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาพนมเบญจา โดยเป็นกรณีที่กรมป่าไม้ไปขีดแนวเขตแล้วไม่ตรงกับแผนที่ โดยขีดให้มีช่องว่างทำให้กลุ่มทุนที่เป็นบริษัทยาเข้าไปออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ดังกล่าว และมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง โดยตรวจสอบพบกระแสการเงิน ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในปีนี้

 คดีที่ 6 ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกโฉนดที่ดิน ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เนื้อที่ 41 ไร่เศษ เกินกว่าหลักฐานเดิมที่มีเนื้อที่ 34 ไร่เศษ โดยนำพื้นที่ป่าและที่ดินของนิคมสหกรณ์ทองผาภูมิมารังวัด

 ซึ่งคดีดังกล่าวเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคนสำคัญของประเทศไทย และเป็น ส.ส.

 คดีที่ 7 ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองบุกรุกถือครองพื้นที่สวนป่าไม้สักของรัฐบาล รวมพื้นที่ 49 ไร่เศษ เหตุเกิดที่สวนป่ากิวทัพยั้ง และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ข้าวต้ม-ป่าห้วยลึก ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ซึ่งใกล้แจ้งข้อกล่าวหาแล้ว

 คดีที่ 8 นายก อบต.เชิงทะเล จ.ภูเก็ต กับพวก ใบอนุญาตก่อสร้างอาคารในโครงการลาคอลิน ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขารวก-ป่าเขาเมือง อุทยานแห่งชาติสิรินาถ และพื้นที่ห้ามก่อสร้างตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มูลค่าหลายร้อยล้านบาท ซึ่งคดีดังกล่าวอาจจะมีการชี้มูลยกทั้งสภาท้องถิ่น มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนสถาบันการเงิน

คดีที่ 9 เจ้าพนักงานที่ดิน จ.ภูเก็ต สาขาถลาง กับพวกรวม 16 ราย ออกเอกสารสิทธิที่ดินบนเกาะแรด เนื่องจากพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีสภาพเป็นป่าสมบูรณ์ ไม่มีบุคคลใดเข้าไปถือครองและทำประโยชน์จำนวน 6 แปลง ซึ่งมีการแจ้งข้อหาแล้ว มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนประกอบกิจการรถยนต์

 คดีที่ 10 ทุจริตออกใบจอง, น.ส. 3 ก. และโฉนดที่ดินทับที่สาธารณประโยชน์ ในพื้นที่ ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เนื้อที่ประมาณ 3,000 ไร่ โดยเกี่ยวกับกลุ่มทุนด้านการเกษตร กว้านซื้อที่ดินเอาใบจองไปออกโฉนด และถือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง

งานนี้ นักการเมือง-อดีตนักการเมือง-อดีตบิ๊กข้าราชการ-นักธุรกิจ-กลุ่มเครือข่ายธุรกิจหลายแขนง ที่รู้ตัวมานานแล้วว่า กำลังถูก ป.ป.ช.ไต่สวน ใน 10 สำนวนข้างต้น คงได้หนาวๆ ร้อนๆ กันแน่ว่าจะถูก ป.ป.ช.ชี้มูล และยื่นฟ้องเอาผิดคดีอาญาต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ จนต้องตกเป็นจำเลยต่อศาลอาญาคดีทุจริตตามรอย สุนทร-กนกวรรณ

ก็อยู่ที่ ป.ป.ช.แล้วว่าจะมีพยานหลักฐานมัดแน่นหนาแค่ไหนในการไต่สวนและชี้มูล และที่สำคัญ ป.ป.ช.ต้องไม่ให้เกิดการแทรกแซงคดีได้จากฝ่ายการเมือง ท่ามกลางกระแสข่าวดีลลับการเมือง เพื่อซื้อใจกันไว้จะได้จับมือกันตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง อย่างที่แวดวงการเมืองร่ำลือกัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นโยบายที่“อิ๊งค์”ไม่กล้าพูด เรื่องสำคัญกว่าผลงาน90วัน

บรรดากองเชียร์รัฐบาลเพื่อไทยอาจจะชื่นชม หลัง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี เล่นใหญ่ เปิดสตูดิโอ 4 ของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ยืนเดี่ยวไมโครโฟน

แถลงผลงาน3เดือน‘รัฐบาลอิ๊งค์’ โชว์อนาคตประเทศ รอดหรือร่วง?

ได้เวลาตีปี๊บผลงานรัฐบาล 90 วันของ “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี วันนี้ 12 ธันวาคม 2567 ในหัวข้อ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” (2025 Empowering Thais : A Real Possibility) ซึ่งจัดเป็นครั้งแรกของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) พร้อมถ่ายทอดสดให้คนไทยได้รับชม

กม.สกัดรัฐประหาร‘ส่อแท้ง’ พรรคร่วมไม่อิน-ไม่เอา

ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่...) พ.ศ. .... ฉบับ ‘หัวเขียง’ ที่นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยเสนอ ส่อแวว ‘แท้ง’ ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้น

จับ“ไทย”ชน“เมียนมา” เด้งเชือกรับมือเกมมหาอำนาจ

หลังจากที่กองกำลัง “ว้าแดง” ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงข่าวลือความตึงเครียดระหว่างทหารไทยกับว้าแดงบริเวณชายแดน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ทำให้ “ข่าวลือ” ดังกล่าวเริ่มเบาเสียงลง

พท.ยึดอำนาจกองทัพ สกัดลากรถถังตรึงทำเนียบฯ

เรียกเสียงครางฮือไปทั่วแวดวงทหารและแวดวงการเมือง กับการขยับของ สส.เพื่อไทย ที่เข้าชื่อกันเสนอร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม เข้าสภาฯ ที่ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นประชาชนผ่านเว็บไซต์ของสภาฯ

เพื่อไทยแจกเงินรัฐถังแตก? แผนสะดุดอดปล้นแวต15%

แม้รัฐบาลเพื่อไทยจะมั่นอกมั่นใจว่าจะอยู่ครบวาระหลังมีภูมิคุ้มกันด้วยพลังแฝง จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องคดี ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ครอบงำรัฐบาล