'ทักษิณ-โจ๊ก'ย่ามใจ! จุดจบเส้นทาง'สีเทา'

ช่วงเทศกาลสงกรานต์มีความเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างการพักโทษ เดินทางมาร่วมเทศกาลสงกรานต์ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) และ สส.ของพรรค ร่วมรับประทานอาหารกับนายทักษิณอย่างคึกคัก  

นายทักษิณได้กล่าวทักทายและหยอกล้อกับรัฐมนตรีว่า "โอ้ปรับ ครม.เลยไหม ประชุมได้เลยไหม ครบองค์เลยเนี่ย เกิน 18 หรือยัง"

ที่บ้านพักกรีนวัลเลย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ของนายสมชาย และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ได้เปิดโอกาสให้รัฐมนตรี สส. ข้าราชการและประชาชนในพื้นที่ เข้ารดน้ำขอพรนายทักษิณ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ด้วย

แม้ นายทักษิณ จะบอกว่าไม่มีนัยทางการเมือง เป็นเรื่องประเพณี แต่บรรดารัฐมนตรี สส.ของพรรค แห่กันมารับประทานอาหารและรดน้ำดำหัวนายทักษิณจำนวนมาก สะท้อนว่าผู้มีอำนาจและบารมีของพรรคเพื่อไทยมีศูนย์รวมอยู่ที่นายทักษิณ

ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง พักผ่อนอยู่ที่หัวหินอย่างหงอยเหงา ไม่มีรัฐมนตรีและแกนนำพรรค พท.เข้ารดน้ำดำหัวแต่อย่างใด

วันถัดมา นายเศรษฐา เข้าพบ นายทักษิณ​ เพื่อรดน้ำขอพรที่บ้านจันทร์ส่องหล้า โดยบอกว่า "มาตามประเพณีไทย มาสวัสดีปีใหม่ รดน้ำขอพร เอาพวงมาลัยมาไหว้และกราบท่าน"

ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ท่ามกลางกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แม้นายเศรษฐาปฏิเสธว่าไม่มีการพูดคุยเรื่องการปรับ ครม. แต่เป็นที่ทราบกันดีว่านายทักษิณคือผู้ชี้ขาดตำแหน่งทางการเมือง ใครจะหลุดจากเก้าอี้ หรือติดโผ ครม.ชุดใหม่ อยู่ที่การตัดสินใจของ นายใหญ่ พรรคเพื่อไทย

จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลชุดนี้มีนายกรัฐมนตรี 2 คน นายเศรษฐาคือนายกฯ ตามกฎหมาย เป็น นายกฯ นอมินี ส่วนนายทักษิณคือนายกฯ ตัวจริง ว่าราชการอยู่หลังม่าน

การเมืองไทยจึงดูวิปริตผิดเพี้ยนไปจากครรลองของระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะนายทักษิณเป็นนักโทษเด็ดขาดชาย (น.ช.) ต้องคดีอาญาทุจริตคอร์รัปชัน แต่นายกรัฐมนตรีและ สส.ยังแห่ไปกราบ!

นายทักษิณ ยังกล่าวถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ หนีคดีจำคุก 5 ปี ในโครงการจำนำข้าว ว่า “นายกฯ ปูอวยพรสงกรานต์ก่อนที่จะเดินทางมาเชียงใหม่ ก็เลยบอกเดี๋ยวปีหน้าเรามาทำบุญด้วยกัน สงกรานต์ปีหน้า นายกฯ ปูคงได้มีโอกาสมาทำบุญ”

นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ตั้งใจจะกลับปีนี้ แต่ยังไม่รู้จะอย่างไร เดี๋ยวดูเหตุการณ์ก่อน

"ในส่วนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ค่อยซับซ้อนเหมือนของผม ของผมเขายัดให้เยอะ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์มีอันเดียว" นายทักษิณ กล่าว      

เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2560 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นเวลา 5 ปี ไม่รอลงอาญา ในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 157 ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) หรือ จีทูจีเก๊

ส่วน นายทักษิณ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษา 3 คดี คือ คดีที่ 1 คดีหมายเลขแดง ที่ อม.4/2551 ความผิดต่อหน้าที่ราชการ กำหนดโทษจำคุก 3 ปี 

คดีที่ 2 คดีหมายเลขแดง ที่ อม.10/2552 ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ กำหนดโทษจำคุก 2 ปี ซึ่งคดีที่ 1 กับคดีที่ 2 นับโทษซ้อนกันรวมกำหนดโทษจำคุก 3 ปี

และคดีที่ 3 คดีหมายเลขแดง ที่ อม.5/2551 ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม กำหนดโทษจำคุก 5 ปี รวมกำหนดโทษจำคุก 8 ปี

นายทักษิณและบริวารมักอ้างอยู่ตลอดว่าถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง

เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2566 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ “พระบรมราชโองการพระราชทานอภัยลดโทษ" ใจความตอนหนึ่งว่า "มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อถูกดำเนินคดีและศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกดังกล่าว ด้วยความเคารพในกระบวนการยุติธรรม ยอมรับผิดในการกระทำ มีความสำนึกในความผิด จึงขอรับโทษตามคำพิพากษา" 

แต่ นายทักษิณ กลับให้สัมภาษณ์ต่อสาธารณะว่า ตนเองถูกเขายัดคดี เท่ากับว่าสิ่งที่นายทักษิณถวายฎีกานั้นไม่ได้สำนึกผิดในการกระทำ และยังคุยโวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะกลับปีนี้อีก

ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์จะกลับมาอย่างไร คาดการณ์ว่าจะใช้ โมเดลเดียวกับทักษิณ และคงไม่ยอมติดคุกในเรือนจำแม้แต่วันเดียวเหมือนทักษิณ แต่การพูดล่วงหน้าเช่นนี้ถือว่าไม่บังควร! และเป็นการท้าทายประชาชนที่รักความยุติธรรม

ก็เป็นความ ย่ามใจ ของทักษิณ ที่เชื่อว่าตนเองมีอำนาจต่อรองกับ กลุ่มอนุรักษนิยม ชนชั้นนำไทย ที่ยอมให้ตนเองกลับมาสู้กับพรรคก้าวไกล ที่มีแนวทางล้มสถาบัน

ส่วนปัญหาอื้อฉาวในแวดวงสีกากี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองบัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. (รรท.ผบ.ตร.) มีคำสั่ง ตร.ที่ 178/2567 ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน ประกอบด้วย 1.พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 2.พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา 3.พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรพระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ 4.ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว ผู้บังคับหมู่ (ทำหน้าที่จราจร) งานปฏิบัติการจราจรตามโครงการพระราชดำริ 1 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจจราจร และ 5.ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร ผู้บังคับหมู่งานสายตรวจ 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร

กรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน กรณีมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ชื่อ BNK MASTER จนถูกดำเนินคดีอาญา และถูกศาลอาญาออกหมายจับในความผิดฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน

นอจากนี้ยังแต่งตั้ง พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตร. เป็นประธานกรรมการสอบสวนกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงด้วย 

การสั่งตำรวจต้องข้อหาอาญาออกจากราชการไว้ก่อนเป็นไปตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ม.131 และยังมีตำรวจอีกหลายสิบคนต้องข้อหาอาญาเช่นกัน รรท.ผบ.ตร.ก็ควรใช้มาตรฐานเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ปัญหาในวงการตำรวจจะยังไม่หมดไป ตราบใดที่ยังไม่มีการปฏิรูปโครงสร้างที่ล้าหลังให้ก้าวหน้าเหมือนอารยประเทศ       

สำหรับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 47 มีฉายาว่า โจ๊ก หวานเจี๊ยบ เติบโตในราชการอย่างรวดเร็ว ติดยศ พล.ต.ต. ด้วยวัยไม่ถึง 45 ปี และจะเกษียณอายุราชการปี 2574 อายุราชการเหลืออีก 7 ปี

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สามารถยื่นอุทธรณ์คำสั่งต่อ ก.พ.ค.ตร.ได้ภายใน 30 วัน หากไม่พอใจก็สามารถยื่นศาลปกครองได้อีก  

ที่น่าแปลกใจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้ลูกน้องตัวเองร้องเรียนว่าพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน สอบสวนคดีโดยมิชอบ ให้ส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้งที่กรณีเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับสินบน ตาม ป.อาญา ม.149 มีโทษจำคุกถึงตลอดชีวิต และโทษถึงประหารชีวิต

แต่คงเชื่อว่าตนเองสามารถเคลียร์กับ ป.ป.ช.ได้หรืออย่างไร? จึงอยากให้คดีไปที่ ป.ป.ช.ทั้งที่มีโทษหนักกว่า

สำหรับคดีอาญาต้องรอศาลพิพากษา 3 ศาล อาจใช้เวลาเกิน 7 ปี ที่เจ้าตัวอาจเกษียณราชการก่อน ส่วนการสอบสวนทางวินัยอาจเร็วกว่า แต่ตราบใดที่คดีอาญายังไม่ยุติ คงไม่มีผู้บังคับบัญชาหรือใครกล้าสั่งให้กลับมารับราชการอีก เพราะคำสั่ง ตร. ที่ 178/2567 ก็เป็นไปตามกฎหมาย และมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงการกระทำผิดชัดเจน

หนทางที่ โจ๊ก หวานเจี๊ยบ แมว 9 ชีวิต จะได้กลับมาที่่ ตร.อีกครั้งจึงเป็นไปได้ยาก 

หากย้อนอดีต โจ๊ก หวานเจี๊ยบ มีมลทินมัวหมองในราชการหลายครั้ง สมัยดำรงตำแหน่งผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ผกก.3 บก.ปคม.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อปี 2553 ถูกร้องเรียนเรียกรับส่วยร้านคาราโอเกะ จากร้านคาราโอเกะของนายเขตสยาม เนาวรังสี และผู้ประกอบการอื่นในภาคอีสานตอนบน จเรตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีมูลความผิดตามถูกร้องเรียน เมื่อส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. อนุฯ ไต่ส่วนกลับชี้ว่าไม่มีมูลความผิด

ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ม.ค.2567 พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์ กัญจน์ชัยกิจ รองผู้บังคับการกองร้องทุกข์ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ นำเอกสารสำคัญยื่นเรื่องขอให้ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. รื้อคดีเก่าดังกล่าว โดยระบุว่าอนุฯ ไต่สวน ป.ป.ช.วินิจฉัยโดยมิชอบ โดยจะขาดอายุความในไม่เกินปี 2568

เมื่อวันที่ 9 เม.ย.2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ในตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กระทั่งปี 2564 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ได้กลับเข้ารับราชการตำรวจที่ ตร.อีกครั้ง

จะเห็นได้ว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์มีเรื่องถูกร้องเรียนถึงพฤติกรรมที่อื้อฉาวมาตลอด เกี่ยวพันกับการเรียกรับประโยชน์จากธุรกิจสีเทา ถูกเด้งแล้วได้กลับมารับราชการก็ยังไม่หลาบจำ เช่นเดียวกับนายทักษิณ ที่ต้องโทษคดีทุจริตคอร์รัปชัน หนีออกนอกประเทศ กลับมาได้พระราชทานอภัยลดโทษ ก็ยังโกงคุกอีก และยังคุยโวจะนำน้องสาวที่หนีคุกกลับมาอีก

เป็นความ ย่ามใจ ของคนที่เดินบน เส้นทางสีเทา และไม่เคยสำนึกผิดในการกระทำ จุดจบจึงไม่ต่างกัน!. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ในหลวง พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายกฯ นำ ครม.ชุดใหม่ เฝ้าฯ ถวายสัตย์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรี

'เศรษฐา' เตรียมจ้อ 'นายกฯพบประชาชน' เดือนละครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เตรียมจัดรายการ “นายกฯพบประชาชน” ซึ่งจะจัดเดือนละ 1 ครั้งในวันเสาร์ เพื่อสื่อสารการทำงานของรัฐบาล และพูดคุยกับประชาชน

ป.ป.ช.ให้สอบเพิ่ม นายกฯแต่งตั้ง ผบ.ตร.ไม่เป็นธรรม เชื่อคดีนี้ไม่ช้า อีกไม่นานจบ

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบคำร้องกล่าวหานายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ไม่เป็นธรรม