อีก 1 เดือนโดยประมาณครบ 20 ปีแล้ว ที่เกิดเหตุโศกนาฏกรรมที่ อ.ตากใบ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2547 ยุคที่ ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ภาครัฐทั้งทหาร ตำรวจ จับประชาชนเป็นร้อยๆ คนที่ไปยืนชุมนุมเรียกร้องให้ปล่อยตัว นายกามา อาลี กับพวกรวม 6 คน ผู้ต้องหา ที่เป็นอาสาสมัครรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.)
โทษฐานแจ้งความเท็จและยักยอกทรัพย์ กรณีนำอาวุธลูกซองของราชการ ที่ใช้คุ้มครองหมู่บ้านไปมอบให้แก่คนร้าย แล้วแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานว่า อาวุธปืนดังกล่าวถูกคนร้ายปล้นไปจากหน้าสถานีตำรวจ สภ.ตากใบ จับผู้ชุมนุมนับร้อยคนไปอยู่ในรถบรรทุก 25 คัน ไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ทำให้ผู้ชุมนุมเสียชีวิต 78 คน อันเนื่องมาจากขาดอากาศหายใจ!
กลายเป็นอีกหนึ่งคดีอาญาที่ใช้เวลาดำเนินการนาน ใกล้ครบ 20 ปี ในวันที่ 25 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ตัวเลขนี้มีความหมายกับญาติผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้น เพราะครบ 20 ปีเมื่อไหร่ ตามกฎหมายถือว่าอายุความขาด เมื่อถึงวันนั้นก็จะกลายเป็นว่าผู้ต้องหาลอยนวล กลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติชน ไร้มลทิน
“คดีตากใบ” แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ส่วนที่หนึ่งมีอัยการสูงสุด เป็นโจทย์ฟ้องผู้ต้องหา 8 ราย ประกอบด้วย ผู้ต้องหาที่ 1 พล.อ.เฉลิมชัย วิรุฬห์เพชร อดีตผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 (ผบ.พล.ร. 5) เป็นผู้สั่งสลายการชุมนุม ผู้ต้องหาที่ 2 ร.ต.ณัฐวุฒิ เลื่อมใส เป็นพลขับ ผู้ต้องหาที่ 3 นายวิษณุ เลิศสงคราม เป็นพลขับ
ผู้ต้องหาที่ 4 ร.ท.วิสนุกรณ์ ชัยสาร เป็นพลขับ ผู้ต้องหาที่ 5 นายปิติ ญาณแก้ว เป็นพลขับ ผู้ต้องหาที่ 6 พ.จ.ต.รัชเดช หรือพิทักษ์ ศรีสุวรรณ เป็นพลขับ ผู้ต้องหาที่ 7 พ.ท.ประเสริฐ มัทมิฬ เป็นผู้ควบคุมขบวนรถ และผู้ต้องหาที่ 8 ร.ท.ฤทธิรงค์ พรหมฤทธิ์ เป็นพลขับ
โดยเมื่อวันที่ 18 ก.ย. “ประยุทธ เพชรคุณ” โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมคณะ ร่วมกันแถลงข่าวกรณีอัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาคดีตากใบในส่วนนี้ สรุปสาระสำคัญคือ สั่งฟ้องต่อศาลไปเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา และเนื่องจากพนักงานสอบสวนไม่ได้เรียกผู้ต้องหาทั้ง 8 คนมารับข้อกล่าวหา อัยการสูงสุดจึงต้องแจ้งไปยัง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. (กำลังจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.) เพื่อให้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้งหมด 8 คน และส่งตัวให้พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการ จ.ปัตตานีต่อไป
กล่าวง่ายๆ คือ หากนำตัวผู้ต้องหา 8 คนมาขึ้นศาลไม่ทันสั่งฟ้อง บุคคลเหล่านี้ก็จะหลุดจากคดี ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยอัตโนมัติ
สำหรับคดีตากใบ ส่วนที่สองมีญาติผู้เสียชีวิตเป็นโจทย์ ฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐในขณะนั้น โดยเมื่อวันที่ 23 ส.ค. “ศาลจังหวัดนราธิวาส” รับฟ้อง และนัดสอบคำให้การครั้งแรกในวันที่ 12 ก.ย. แต่ปรากฏว่า จำเลยไม่ปรากฏตัวต่อศาล ทำให้ศาลออกหมายจับจำเลย 6 คน จากทั้งหมด 7 คน ได้แก่ 1.พล.อ.เฉลิมชัย วิรุฬห์เพชร อดีตผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 2.พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า 3.พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ. 9)
4.พล.ต.ต.ศักดิ์สมหมาย พุทธกูล อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอตากใบ (ผกก.สภ.ตากใบ) 5.นายศิวะ แสงมณี อดีตรองผู้อำนวยการกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (รอง ผอ.กอสส.จชต.) และอดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย และ 6.นายวิชม ทองสงค์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส
ส่วน 1 คนที่ไม่ได้ออกหมายจับ คือ “พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี” อดีตแม่ทัพภาค 4 จำเลยที่ 1 ซึ่งปัจจุบันเป็น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ด้วยความที่ยังมีสมาชิกภาพเป็น สส. ผู้แทนปวงชน จึงมีเอกสิทธิ์คุ้มกันระหว่างสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ทว่า เอกสิทธิ์คุ้มกันก็ไม่สำคัญเท่าการทราบว่า “พล.อ.พิศาล” รักษาตัวอยู่ต่างประเทศ!!! บางคนมองว่าเป็นแท็กติกทางกฎหมาย เมื่อครบ 25 ต.ค.เมื่อไหร่ ก็กลับเข้าประเทศได้ทันที
แต่เมื่อถามว่า พล.อ.พิศาล ได้ทำหนังสือลาประชุมหรือไม่ เพราะมีข้อมูลว่าเจ้าตัวรักษาตัวอยู่ต่างประเทศ ทั้งประธานสภาฯ และเลขาธิการสภาฯ กลับโยนเป็นเรื่องของงานธุรการ
ประเด็นสำคัญของคดีตากใบอยู่ที่จำเลยทั้งหมดทั้งมวล 14 คนอาจหลุดคดีได้ ถ้านำตัวบุคคลเหล่านี้มาต่อหน้าศาลไม่ได้ ถือเป็นเรื่องใหญ่มหึมาของกระบวนการยุติธรรม ที่ปล่อยให้คดีเกือบครบอายุความ แล้วค่อยมาจริงจังเอาช่วงปีสุดท้าย จนกระทั่งทำอะไรไม่ทัน
ถามว่า 18-19 ปีที่ผ่านมา มัวทำอะไร?
ท้ายที่สุด ต้องค่อยดูว่าหลังจากนี้จนถึง 25 ต.ค. จะสามารถนำตัวจำเลยฟ้องต่อหน้าศาลได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ ก็หมายความว่าผู้ต้องหา-จำเลยจะได้กลับมาใช้ชีวิตปกติ
ขณะเดียวกัน จะทิ้งเป็น บาดแผลในใจแก่ชาวตากใบและครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 78 ครอบครัว เพราะเขาไม่ได้รับความยุติธรรม ที่สำคัญจะทำให้กลายเป็นน้ำผึ้งอีกหยดหนึ่งระหว่างประชาชนกับภาครัฐหรือไม่?.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศึกชิง ‘เมืองกล้วยไข่’ ‘กล้าธรรม’ ปะทะ ‘รัตนากร’
1 ในพื้นที่เป้าหมายสำคัญของ ‘พรรคกล้าธรรม’ ภายใต้การนำของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าพรรค คือ จ.กำแพงเพชร
เปิดขั้นตอนหย่อนบัตร8ก.พ.69 บัตร3ใบเลือกตั้งพ่วงประชามติ
ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูกาลการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อย่างเป็นทางการ โดยในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่จะมีการเลือกตั้ง สส. พร้อมกับการทำประชามติหนึ่งเรื่องในวันเดียวกัน โดยกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
'ภท.-ปชน.' แตกหักปม112 'พท.' ตัวแปรรอร่วมรัฐบาล
การเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 กำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญ พรรคการเมืองต่างเร่งนำเสนอนโยบาย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และทีมรัฐมนตรี เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้ามาบริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า
กังขา 'ปชน.' ไม่จับมือ 'กธ.' แต่จับมือ 'พท.' แม้ 'ทักษิณ-ประเสริฐ' แนบแน่น 'เบน สมิธ'
นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊กระบุว่า พรรคประชาชนไม่จับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม เพราะ ธรรมนัส สนิทกับ เบนสมิธ
ภูมิใจไทยพลัส-เปิดเกมใหญ่ ชูรัฐมนตรีคนนอก ลุยเลือกตั้ง
บรรยากาศการเมืองปลายปี 2568 ต่อเนื่องต้นปี 2569 เดินหน้าเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มรูปแบบ หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งเตรียมเปิดรับสมัคร สส.ปลายเดือนธันวาคม ก่อนจะหย่อนบัตรในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 พรรคการเมืองต่างเร่งเปิดตัวผู้สมัคร นโยบายหาเสียง และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในช่วงโค้งสุดท้าย
‘บิ๊กป้อม’ ถอย ดัน ‘ตรีนุช’ เลือกตั้งสุดท้ายของ ‘พปชร.’
‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ทั้งที่อีกไม่กี่ชั่วโมงจะถึงวันรับสมัคร สส.แบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดในวันที่ 27-28 ธันวาคมนี้

