บทเรียน 'ถวิล' ทิ้งปชป. ไม่ผลักดัน 'กระจายอำนาจ'

เลือดไหลไม่หยุด สำหรับ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ภายใต้การนำของ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” ในฐานะหัวหน้าพรรค กรณีล่าสุดมีรายงานว่า วันศุกร์นี้ เวลา 10.00 น. นายสุรเชษฐ์ มาศดิตถ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ปชป. จะไปยื่นหนังสือลาออก ณ ที่ทำการพรรค

สาเหตุสืบเนื่องมาจาก หัวหน้า “จุรินทร์” มาพร้อม นิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรค นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองเลขาธิการพรรค นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ประธานคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.ในนามพรรค ร่วมกันเปิดตัว 3 ม้าใหม่ของจังหวัดนครศรีธรรมราช เตรียมประเดิมสนามเลือกตั้งใหญ่ในครั้งหน้า  

ประกอบด้วย 1.นายราชิต สุขพุ่ม อดีตผู้ว่าฯ ปัตตานี 2.นางอวยพรศรี เชาวลิต ประธานสภา อบจ.นครศรีฯ และ 3.นายพิชิตชัย เดชเดโช น้องชายของนายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีฯ เป็นนักกฎหมาย และกรรมการสาขาพรรค เขต 6 นครศรีฯ

                    สร้างความรู้สึกน้อยใจให้ “สุรเชษฐ์” อดีต ส.ส.นครศรีฯ หลายสมัย เพราะตั้งแต่แสดงเจตนารมณ์ไปว่าจะลงสมัคร ส.ส.ต่อในนามพรรคกับผู้บริหารพรรค แต่กลับไม่มีสัญญาณตอบกลับแต่อย่างใด

                    สุดท้ายก็มีข่าวเปิดตัวเลือดใหม่เอาดื้อๆ ซึ่งถือเป็นสัญญาณว่าการเลือกตั้งรอบหน้า ผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์อาจไม่พิจารณาให้ “สุรเชษฐ์” ลงสนามแข่ง ฉะนั้นก็ต้องโบยบินหาพรรคสังกัดใหม่

โดย นายสุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า “ผมได้โทร.หานายชำนิ แต่นายชำนิไม่รับสาย ทั้งยังไปนั่งร่วมพิธีในการเปิดตัวกับเลือดใหม่โดยไม่เหลียวแลอดีต ส.ส.เก่าของพรรคที่เป็นเจ้าของพื้นที่ อย่างนี้จะให้ผมเข้าใจว่าอย่างไร ที่ผมเงียบไป 2-3 วัน เพราะได้ตัดสินใจแล้วว่าต้องเลือกเดินให้ชัดเจน ซึ่งน่าแปลกว่าทำไมผู้บริหารพรรคถึงประกาศตัวผู้สมัครเพื่อจับจองพื้นที่ก่อน ทั้งที่ กกต.ยังแบ่งเขตเลือกตั้งไม่เสร็จ ทำเช่นนี้ก็ชี้ให้เห็นเจตนาว่ามีการจัดคนไปลงในเขตเลือกตั้งไว้ล่วงหน้าแล้วหรือไม่”

 นอกจากนี้ในสัปดาห์เดียวกันก็ยังมี นายถวิล ไพรสณฑ์ อดีตประธานคณะกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ลาออกเช่นกัน

ที่พีกที่สุดคือการไปสมัครเป็นสมาชิก พรรคก้าวไกล ซึ่งในทางการเมืองดูเหมือนจะเป็นพรรคอุดมการณ์คู่ขนานกับ “ประชาธิปัตย์” แบบที่ไม่สามารถหาทางบรรจบกันได้ เพราะจุดยืนทางการเมืองค่อนข้างแตกต่างกัน  

  ทว่า “ถวิล” เปิดใจว่า ตนตัดสินใจไปพรรคก้าวไกลนานแล้ว ไม่ใช่ด่วนตัดสินใจ เนื่องจากนับแต่เลือกตั้งปี 62 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เน้นหนักที่จะกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น ซึ่งเป็นงานที่ตนถนัด เพราะที่ผ่านมาได้รับมอบหมายในเรื่องนี้ แต่หลังจากเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ได้ผลักดัน ยืนยันไม่ได้ทะเลาะหรือขัดแย้งกับใครในพรรคประชาธิปัตย์ และมาอยู่ก้าวไกลก็ไม่ได้มาขอรับตำแหน่งอะไร ไม่ขอลงเลือกตั้ง ส.ส.

"ยืนยันอุดมการณ์ตรงกับพรรคก้าวไกลเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น คือการกระจายอำนาจท้องถิ่น ส่วนอุดมการณ์ด้านอื่น โดยเฉพาะเกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ตรงกันแน่นอน "นายถวิลกล่าว

                    การเสีย “ถวิล” ให้กับพรรคก้าวไกล ทางผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นสถาบันทางการเมืองต้องคิดให้หนัก เพราะเขาออกไปด้วยอุดมการณ์เกี่ยวกับการ กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ที่พรรคประชาธิปัตย์ในยุค “จุรินทร์” ไม่ได้ผลักดันอย่างจริงจัง ทั้งที่ความจริงนโยบายนี้เป็นเรื่องที่เคลื่อนไหวมาตั้งแต่สมัย นายมารุต บุนนาค อดีต ส.ส.กทม.แล้ว แต่ ปชป.ก็เก็บดองเอาไว้

                    อย่างไรก็ตาม การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นถือเป็นประเด็นที่เป็นความก้าวหน้าของประเทศ แต่ที่ยังทำไม่สำเร็จก็คงเพราะนักการเมืองต้องการรวบตึงอำนาจไว้ที่ส่วนกลาง เพื่อที่จะได้สั่งซ้ายหันขวาหันได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด อีกทั้งการจะให้พรรคที่อยู่มานานในทางการเมืองผลักดันคงจะลำบาก เพราะผูกพันเชื่อมโยงอยู่กับหลายภาคส่วน ดังนั้นทางออกเดียวก็ต้องยกให้การกระจายอำนาจเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองใหม่ที่ยังยึดโยงกับระบบต่างๆ น้อย

                    ส่วนพรรคประชาธิปัตย์จากนี้คงต้องตอบให้ได้ว่าความก้าวหน้าของตัวเองคืออะไร

เพราะถ้ามองเพื่อนบ้านโดยรอบเขาชัดเจนแล้ว เช่น พรรคภูมิใจไทย จุดเด่นคือการผลักดัน กัญชาเสรี พรรคก้าวไกลผลักดัน สุราเสรี สมรสเท่าเทียม พรรคไทยสร้างไทยของ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” คือบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท กองทุนเพื่อคนตัวเล็ก พรรคกล้าจุดขายคือเพื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี

ส่วนพรรคเพื่อไทยไม่ต้องพูดถึง เพราะในสายตาประชาชนรากหญ้า เขายังคงเชื่อมั่นในนโยบายและฝีมือในการบริหารเศรษฐกิจประเทศ ตั้งแต่ ยุค นายทักษิณ ชินวัตร ที่มีนโยบายประชานิยมที่โดดเด่น เช่น กองทุนหมู่บ้าน 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นต้น 

ดังนั้น ประชาธิปัตย์ จะมัวแต่คาดหวังกับ “ประกันรายได้เกษตรกร” ที่เป็นมาตรการการเยียวยามากกว่านโยบายคงไม่เพียงพอแล้ว มิเช่นนั้นเลือดคงไหลไม่หยุด และจะสู้ศึกเลือกตั้งที่ไร้จุดขาย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จากวังสราญรมย์ถึงตึกไทยคู่ฟ้า “ทูตปู”เลขาฯส่วนตัวทักษิณ สู่ตัวเต็งรมว.ต่างปท.คนใหม่

ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้ารัฐบาล และเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ใช้เวลาแค่หนึ่งคืนก็เคาะออกมาแล้วว่าจะดัน ทูตปู มาริษ เสงี่ยมพงษ์ อดีตทีมงานหน้าห้อง นายกรัฐมนตรี ตึกไทยคู่ฟ้า สมัยทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

'เศรษฐา1/1'เศรษฐกิจ-การเมืองนำ เว้นระยะ'ความมั่นคง-กองทัพ'

โฉมหน้า “คณะรัฐมนตรีเศรษฐา 1/1” ที่ออกมา นอกจากจะเป็นการสับเปลี่ยนหมุนเวียนตัวบุคคลของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว เป้าหมายที่ฉายภาพชัดต่อทิศทางการบริหารงานของรัฐบาล

ดิจิทัลวอลเล็ตสะดุด'พรบ.ธ.ก.ส.' แจกเงินหมื่น‘ลูกผีลูกคน’อีกแล้ว

ภาพ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง นำทีมหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค หรือแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี มาแถลงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบหลักการ โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

คณะก้าวหน้า-ธนาธรปักธง "สว.สีส้ม" แชร์เก้าอี้สภาสูง

การเมืองช่วงเดือนพฤษภาคม วาระสำคัญเรื่องหนึ่งที่ต้องติดตามก็คือ การได้มาซึ่ง วุฒิสภา-สภาสูง ชุดใหม่ ที่จะมาแทนสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดปัจจุบัน ที่จะหมดวาระลงในวันที่ 10 พ.ค. แต่ต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่า สว.ชุดใหม่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่

ศึก“วางคน-วางเกม”รับมือ สะท้อนผ่านวอรูม“เมียนมา”

ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางหลังจาก นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา