การันตีความปลอดภัย 'ปวีณ' กลับไทย อย่าแค่ลมปากซุกปีก 'นักการเมือง'

ตีปี๊บเขย่ารัฐบาลทั้งในและนอกรัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ปัดฝุ่นคดีค้ามนุษย์ “โรฮีนจา” นำเข้าอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติตามมาตรา 152 ในสภาผู้แทนราษฎร “เหล้าเก่าในขวดใหม่”

ปั้น พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินนท์ อดีตรอง ผบช.ภ.8 และหัวหน้าชุดสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาเป็นพระเอก ถล่มรัฐบาล “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อำมหิตล้มเหลวในการปราบปรามปัญหาการค้ามนุษย์ เปิดโปงมีเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง ทั้งตำรวจ ทหาร นักการเมืองอยู่เบื้องหลัง จากตำรวจน้ำดีตรงฉินต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัย

สำทับต่อนอกสภา รังสิมันต์-ช่อ พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ร่วมกันแถลง “กว่าจะเป็นตั๋วช้างภาค 2” วิดีโอคอลเปิดใจ พล.ต.ต.ปวีณ ที่ลี้ภัยไปอยู่ประเทศออสเตรเลียนานกว่า 6 ปี 3 เดือน 3 วัน ว่า “มีความสุขที่จะได้พูดถึงสิ่งที่ค้างคาใจ ที่สร้างความทุกข์ ระทมขมขื่น เครียด กลัว บั่นทอนจิตใจ จากการทำหน้าที่แล้วถูกกลั่นแกล้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รัฐบาล ผู้มีอำนาจ ยืนยันว่าเรื่องที่พรรคก้าวไกลออกมาเปิดเผยเป็นเรื่องจริง ผมไม่ได้สร้างเรื่องเพื่อขอลี้ภัยแต่อย่างใด ปัจจุบันต้องใช้ชีวิตแบบผู้ลี้ภัยคนอื่นๆ วันนี้รู้สึกว่าได้รับความเป็นธรรมกลับมาครึ่งหนึ่งแล้ว แต่อีกครึ่งยังขาดหายไป แน่นอนว่า ผมยังอยากกลับประเทศไทยเพราะเป็นบ้านเกิด ผมยังมีบุคคลที่รักที่ยังอยู่ที่นั่น”

พล.ต.ต.ปวีณ กล่าวว่า “เสียดาย ถ้าวันนั้นประเทศเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง มีรัฐบาลตรงไปตรงมา มีนายกฯ และผู้บริหารทุกระบบที่ทำให้ประเทศไทยใสสะอาด ซื่อสัตย์ มีความกล้าหาญให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไปอย่างเที่ยงตรงเหมือนนานาอารยประเทศ และปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการไปสุดทาง ชีวิตราชการของตนที่เหลือ 3 ปี ความสามารถและประสบการณ์ในการสืบสวนสอบสวน มั่นใจว่าจะสามารถสาวไปถึงปลาตัวใหญ่ได้อีกหลายตัว ใหญ่แค่ไหนขอให้คิดกันเอาเอง”

การหยิบประเด็นคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาของ ส.ส.รังสิมันต์ ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เมื่อการอภิปรายในสภาแต่ละครั้งจะนำประเด็นการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ทหาร ที่มีผู้อยู่เบื้องหลัง หรือเรียกว่า “ตั๋วช้าง” เพื่อกระทบชิ่งไปยังสถาบันเบื้องสูง 

เช่นเดียวกันกับ คดีโรฮีนจา ที่ พล.ต.ต.ปวีณ เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนเดินหน้าเอาผิดออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งนักธุรกิจ นักการเมืองท้องถิ่น ตำรวจ ทหาร จำนวน 153 คน   จับได้แล้ว 91 คน รวมถึง พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก คดีฟอกเงินออกหมายจับ 79 คน จับได้แล้ว 40 คน แต่กลับเจอ “ตอ” ถูกตัดตอนไม่ให้สาวไปถึงปลาตัวใหญ่ เด้งไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ที่ จ.ยะลา เป็นการกลั่นแกล้งให้ไปตาย ทั้งที่รู้ว่าพื้นที่ ศชต.ล้วนเต็มไปด้วยอิทธิพลของขบวนการค้ามนุษย์

ทำให้ต้องตัดสินใจลาออกจากตำรวจขอลี้ภัยต่างประเทศ ซ้ำยังกล่าวหาว่า พล.ท.มนัส เสียชีวิตคาเรือนจำคลองเปรมระหว่างต้องโทษจำคุก 82 ปี ถูกตัดตอนไม่ให้สาวไปถึงปลายน้ำ ทั้งที่กรมราชทัณฑ์ได้ชี้แจงไปแล้วว่าสาเหตุการเสียชีวิตมาจากหัวใจล้มเหลวอย่างเฉียบพลัน

ทางด้าน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ และ รมว.กลาโหม สวนกลับว่า การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ดีขึ้นต่อเนื่อง รัฐบาลจริงใจในการแก้ไขปัญหา ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ดีขึ้นเหมือนวันนี้ ถึงจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ต้องทำต่อไป รัฐบาลจริงใจในการแก้ไขปัญหา ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ดีขึ้นเหมือนวันนี้ ส่วน พล.ต.ต.ปวีณที่ลี้ภัย ตนไม่ได้ให้เขาออกไปไม่ใช่หรือ เขาออกไปเองไม่ใช่หรือ

ส่วนความปลอดภัย นายกฯ กล่าวว่า "ใครจะไปทำอะไรเขาได้ บ้านเมืองมีขื่อมีแป มีกฎหมายอยู่ ถ้าพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูก ทุกคนเวลาไปก็ไปเอง สมัครใจไปเอง พอจะกลับมาบอกไม่ปลอดภัย บางคนที่ไปก็มีกฎหมายค้างอยู่แต่อยากจะกลับมองตรงนี้"

ถึงกระนั้น ส.ส.รังสิมันต์ โรม ยังพยายามขุดคุ้ย “ตำรวจเลวได้ดี ตำรวจดีลี้ภัย” ทิ่มไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ “ตร.” ต้นสังกัดกดดันคุกคามกลั่นแกล้งดำเนินคดีจนต้องลาออกและลี้ภัยต่างประเทศเพื่อความปลอดภัย ทำให้ “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ต้องออกมาเคลียร์เรื่องนี้ว่า “ตอบในนามตำรวจ 2 แสนกว่าคน หากกลับมาจะดูแลความปลอดภัยให้ กลัวอะไรก็มาบอกกัน รับรองว่าไม่มีเรื่อง ไม่ต้องห่วง ไม่มีใครไปทำอะไร ตำรวจดูแลได้อยู่แล้ว ฝากบอกท่าน หากจะกลับมาจะดูแลความปลอดภัยให้ จากการตรวจสอบ พล.ต.ต.ปวีณไม่มีหมายจับ ไม่ได้ถูกดำเนินคดี ตนไม่ทราบสถานะพลเมืองของ พล.ต.ต.ปวีณ ที่ออสเตรเลีย แต่ถึงอย่างไรท่านเป็นคนไทย"

“ผบ.ปั๊ด” ซึ่งเป็นหนึ่งในฐานะทีมสืบสวนสอบสวนคดีโรฮีนจา ชี้แจงด้วยว่า การทำงานไม่มีแรงกดดัน คดีนี้ผู้ต้องหาเป็นร้อย คนทำคดีเป็นร้อยโดยมีอัยการสูงสุดเป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ไม่มีใครถูกข่มขู่ สำนวนการสอบสวนครบถ้วน ออกหมายจับเป็น 100 ราย ยังมีอีกประมาณ 30 คน ที่ยังจับไม่ได้ เร่งรัดจับกุมอยู่ กลุ่มที่ส่งฟ้องไปแล้ว ศาลลงโทษทุกราย

พล.ต.อ.สุวัฒน์ บอกว่า "ขณะนี้คดีนี้อยู่ในชั้นฎีกา คดีนี้คนเป็นร้อยๆ ใครทำอะไรก็คงปิดกันไม่ได้ ยืนยันว่าตำรวจไทยปราบปรามการค้ามนุษย์ต่อเนื่อง มีผลงานดีขึ้นตลอด และขบวนการค้ามนุษย์ไม่ได้มีอิทธิพลเท่าไหร่ ไม่ถึงขั้นมาเปลี่ยนแปลงประเทศ มันไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้น เรื่องปราบปรามค้ามนุษย์ เราตั้งใจทำพร้อมชี้แจงทุกประเทศ”

ต้องจับตาดูกันต่อไปคดีระดับประเทศที่ยังเหลืออายุความอยู่ ตำรวจโดยการนำของ “ผบ.ปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ ผบ.ตร.ยอดนักสืบที่จะเกษียณอายุอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะสามารถสืบสวนหาตัวคนร้ายที่อยู่เหนือขบวนการคดีมนุษย์ก๊วนนี้ได้เพิ่มเติมหรือไม่

หรือจะไปเจอ "ตอ" อย่างที่ พล.ต.ต.ปวีณกล่าวอ้างหรือไม่ หรือถ้ามีจริง “ผบ.ตร.” จะกล้าเดิมพันเก้าอี้กับเวลาที่เหลืออยู่หรือไม่ ในเมื่อมีข้อมูลทั้งหมดที่ชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีทำไว้กว่า 2 แสนหน้ากระดาษ เช่นเดียวกันกับ พล.ต.ต.ปวีณ ถ้าคิดว่าตัวเองถูกกลั่นแกล้งไม่ได้รับความเป็นธรรม ในเมื่อนายกฯ-ผบ.ตร.ออกมาการันตีความปลอดภัยให้แล้วก็กลับมาพิสูจน์ตัวเอง อย่างน้อยถึงแม้จะเกษียณอายุราชการไปแล้ว ความรู้ความสามารถในวิชาชีพที่สั่งสมมาทั้งชีวิตจะได้เปิดโปงขจัดขบวนการค้ามนุษย์ที่มีอยู่ให้สิ้นซาก ยกระดับจากกลุ่ม Tier 2 Watch List (บัญชีเฝ้าระวัง) ที่ถูกลดระดับลงมาจากเทียร์ 2

มิเช่นนั้นจะถูกครหาว่าไปซุกปีกนักการเมืองที่จ้องทำลายชื่อเสียงของประเทศ!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ส่อง“โมเดล”ดับไฟเมียนมา “ทักษิณ”พลิกธุรกิจสีเทาเข้าระบบ

ระดับแกนนำ“พรรคเพื่อไทย”ออกอาการอ้ำอึ้ง ไม่รู้ไม่เห็นกรณี “ทักษิณ ชินวัตร” ไปคุยกับชนกลุ่มน้อยเมียนมา ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์เป็นต้นมา แต่สื่อตะวันตกต่างนำเสนอข่าวอย่างครึกโครม

'รังสิมันต์' ชี้ปมทักษิณคุยกลุ่มชาติพันธุ์ตอกย้ำสภาวะ 1 ประเทศ 2 นายกฯ

'ปธ.กมธ.ความมั่นคงฯ' จ่อเรียกหน่วยงาน แจงปม 'ทักษิณ' เจรจากลุ่มชาติพันธุ์เมียนมา กังวล ผลผูกมัด รัฐบาล-ลดภาวะผู้นำเศรษฐา

กินข้าวค้างสต๊อกกลบจำนำข้าว แผนปูทาง"ยิ่งลักษณ์"กลับไทย?

หลัง ทักษิณ ชินวัตร-หัวหน้ารัฐบาลเพื่อไทยตัวจริง ได้ออกมาระบุเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ระหว่างการกลับไปเล่นน้ำสงกรานต์ที่จังหวัดเชียงใหม่ บ้านเกิดของตระกูล “ชินวัตร” ว่า สงกรานต์ปีหน้า ยิ่งลักษณ์คงได้มีโอกาสกลับมาทำบุญและเล่นสงกรานต์ที่เชียงใหม่ และไม่แน่ อาจกลับภายในปีนี้

เคาต์ดาวน์สว.5ปีอำลาเก้าอี้ จับตาเลือกตะลุมบอนรอบใหม่

เคาต์ดาวน์สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดปัจจุบัน ที่จะหมดวาระดำรงตำแหน่งในวันที่ 11 พ.ค.นี้ บางคนบอกลากันทีชุดลากตั้ง ที่มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นผู้ให้กำเนิด และมาพร้อมกับอำนาจพิเศษที่สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ด้วย

“อุ๊งอิ๊ง”เล่นใหญ่เกินเบอร์ ไล่ทุบ"แบงก์ชาติ"กระแสตีกลับ สงครามเย็น พท.-ธปท.จบยาก

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี-รมว.พาณิชย์ แกนนำรัฐบาลเพื่อไทย ออกมาดาหน้าปกป้อง อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร-หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นการใหญ่ หลังโดนวิจารณ์-ถล่มเละ กรณี อุ๊งอิ๊ง เล่นใหญ่เกินเบอร์ ใช้เวทีอีเวนต์การเมืองของพรรคเมื่อ 3 พ.ค. อ่านโพยตามสคริปต์ที่คนเขียนมาให้ ด้วยการ อัดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า