รัฐบาลไฟเขียวเว้นภาษีนำเข้า Car Seat ลดค่าใช้จ่ายประชาชน

ครม. ไฟเขียวเว้นภาษีนำเข้า Car Seat จนถึงสิ้นปี 2566 หวังช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายประชาชน และเป็นการส่งเสริมความปลอดภัยในชีวิตและร่างกาย

29 มิ.ย. 2565 – นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2565 มีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่….) เพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และเป็นการส่งเสริมความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของประชาชน ซึ่งมีสาระสำคัญในการยกเว้นอากรเฉพาะสำหรับที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (Car seat) ตามประเภทย่อย 9401.80.00 ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศในอัตรา20%ตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2566

สืบเนื่องจากร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 7 พ.ค 2565 ซึ่งสาระสำคัญส่วนหนึ่งของ พ.ร.บ. กำหนดไว้ในมาตรา 7ว่า ในขณะขับรถยนต์ คนโดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดให้นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 ก.ย. 2565 จึงได้มอบหมายให้กรมศุลกากรพิจารณามาตรการยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับสินค้าประเภทที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กในระยะสั้น เพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายและสนับสนุนความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของประชาชน

ทั้งนี้ กรมศุลกากร ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ปัจจุบันตลาดที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กส่วนใหญ่จะเป็นการนำเข้ามาจากต่างประเทศ และมีผู้ประกอบการไทยที่ผลิตที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กจำนวนน้อยราย จึงประสานกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) พบว่าประเทศไทยมีศักยภาพเพียงพอในการเป็นผู้ผลิตที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก แต่ที่ผ่านมาปริมาณความต้องการใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กในประเทศมีจำนวนไม่มากพอที่จะทำให้เกิดลงทุนในการผลิตสินค้า แต่หลังจากมีการบังคับใช้พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 แล้ว คาดว่าจะมีปริมาณความต้องการใช้ในประเทศสูงขึ้น และมีผู้ประกอบการหลายรายให้ความสนใจ ในการลงทุนเพื่อผลิตที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ส.อ.ท. จึงเห็นควรลดอัตราอากรขาเข้า สำหรับCar Seat เป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อสนับสนุนการลดราคาให้กับผู้บริโภค และให้ผู้ประกอบการภายในประเทศสามารถประเมินศักยภาพในการผลิตและความเป็นไปได้ในการดำเนินธุรกิจ

อย่างไรก็ดี หลังจากครบกำหนดระยะการลดอัตราอากรขอให้มีการหารือร่วมกับผู้ประกอบการในประเทศเพื่อประเมินศักยภาพในการผลิตต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภูมิธรรม' ลุยตลาดจีน MOU นำเข้าส่งออกสินค้าเกษตรไทย-จีน

“ภูมิธรรม”  ลุยตลาดจีน  ลงนาม MoU ระหว่างสมาคมนำเข้า-ส่งออกสินค้าเกษตรไทย-จีน กับสมาคมผู้นำเข้าผลไม้จากประเทศจีน มุ่งค้ำประกัน เพิ่มรายได้ โปรโมตคุณภาพสินค้าไทยในตลาดโลก

ครม. เห็นชอบต่ออายุลดอัตราอากรและยกเว้นอากร สำหรับรถ EV ราคาไม่เกิน 2 ล้าน

นางรัดเกล้า อินทวงค์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างกฎกระทรวง ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ จำนวน 2 ร่าง ดังนี้ 1.เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่สำเร็จรูปที่นำเข้ามาทั้งคัน

กฎหมาย 'คาร์ซีท' มีผลบังคับใช้แล้ว เตือนถ้าไม่มี ต้องปฏิบัติตามหลัก 3 ข้อ

รองโฆษกรัฐบาล เผยกฎหมายคาร์ซีท (Car Seat) สำหรับเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี มีผลบังคับใช้แล้ว ย้ำถ้าไม่มีคาร์ซีท ต้องปฏิบัติตามหลัก 3 ข้อ 'ขับช้า ปลอดภัย - เด็กนั่งที่นั่งตอนหลัง ถ้าเป็นกระบะห้ามนั่งท้าย -มีผู้ดูแลเด็ก' ละเลยมีโทษปรับ 2,000 บาท

ขนส่งฯแจงกม.บังคับใช้ 'คาร์ซีท' อยู่ในกำกับตำรวจ เล็งนำข้อกังวลถกหาทางออก

ขนส่งฯ แจงบังคับใช้คาร์ซีทเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก อยู่ในกำกับตำรวจ ย้ำดูแลเฉพาะ พ.ร.บ.รถยนต์ และ พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พร้อมนำข้อห่วงใยประชาชน หารือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หาทางออกต่อไป

'มอส ปฏิภาณ' ใจดีแจกคาร์ซีทให้ครอบครัวที่ลำบาก

หลังจากที่ราชกิจจานุเบกษา ประกาศให้เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี สูงไม่เกิน 135 ซม. ต้องนั่งคาร์ซีท (Car seat) ฝ่าฝืนปรับ 2,000 บาท นักร้องหนุ่ม มอส-ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความแจกคาร์ซีท ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของลูกสาวที่ปัจจุบันไม่ได้ใช้แล้ว