ราคาที่ดินเปล่าขยับต่อเนื่อง โซนบางพลี-บางบ่อขึ้น 40% ส่วนบางใหญ่ ขึ้น 24%

‘ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์’ แจงไตรมาส 2/65 ดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนพัฒนาในกรุงเทพฯ-ปริมณฑยังขยับ พร้อมเปิด 5 ทำเลทองชานเมือง ปักหมุดโซนบางพลี-บางบ่อ-บางเสาธงราคาพุ่งแรง 40.5% ส่วนที่ดินแนวรถไฟฟ้ายังปังไม่ไหว

8 ส.ค. 2565 – นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) หรือ REIC เปิดเผยว่า ดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนา ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ในไตรมาส 2/2565 อยู่ที่ 354.5 จุด เพิ่มขึ้น 4% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 6.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนว่าราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนามีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นการปรับเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ราคาที่ดินเปล่ามีการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง มาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และล่าสุดยังได้รับผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซีย และยูเครน ที่อาจจะทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 2565 ขยายตัวลดลงกว่าที่คาดการณ์ ผู้ประกอบการที่รัฐบาลได้ประกาศจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเต็มอัตราโดยไม่ได้รับส่วนลด 90% เหมือนเช่นในปี 2562 – 2563 จึงทำให้ผู้ประกอบการต้องพิจารณาการซื้อที่ดินสะสมลดลง เพื่อควบคุมภาระภาษีที่ดินซึ่งเป็นต้นทุนในการพัฒนาโครงการในระยะต่อไป

นอกจากนี้ จะสังเกตได้ว่าในไตรมาส 2/2565 โซน 5 อันดับแรกที่มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ได้แก่ อันดับ 1. ที่ดินในโซนบางพลี-บางบ่อ-บางเสาธง มีอัตราการเปลี่ยนราคามากถึง 40.5%, อันดับ 2. ที่ดินโซนบางกรวย-บางใหญ่-บางบัวทอง-ไทรน้อย มีอัตราการเปลี่ยนราคา 24.2%, อันดับ 3. ที่ดินโซนเมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด มีอัตราการเปลี่ยนราคาราคา 23.6%, อันดับ 4. ที่ดินโซนพระโขนง-บางนา-สวนหลวง-ประเวศ มีอัตราการเปลี่ยนราคาราคา 12.3% และอันดับ 5. ที่ดินโซนเมืองสมุทรปราการ-พระประแดง-พระสมุทรเจดีย์ มีอัตราการเปลี่ยนราคาราคา 8.5%

“จากภาวะราคาที่ดินที่มีการเปลี่ยนแปลง สะท้อนให้เห็นว่า ที่ดินที่อยู่บริเวณพื้นที่ชานเมืองของกรุงเทพฯและปริมณฑลมีการเปลี่ยนแปลงของราคามาก เนื่องจากยังมีราคาไม่แพงและยังมีความต้องการนำไปใช้ในการพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบมากขึ้น ขณะที่ราคาที่ดินในเขตชั้นใน และชั้นกลางของกรุงเทพฯ มีราคาที่สูงอยู่แล้ว แม้ว่าจะมีการปรับตัวขึ้นบ้าง แต่ก็ทำให้อัตราการเปลี่ยนแปลงไม่มากสูงดังเช่นในพื้นที่ชานเมือง” นายวิชัย กล่าว

สำหรับราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาในแนวเส้นทางที่มีรถไฟฟ้าผ่านในไตรมาส 2/2565พบว่าเส้นทางรถไฟฟ้า 5 อันดับแรกที่มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นที่ดินที่อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าและเส้นทางที่มีแผนการก่อสร้างในอนาคต โดยอันดับ 1. สายสีแดงอ่อน (ตลิ่งชัน-ศาลายา) ซึ่งเป็นโครงการที่กำลังจะก่อสร้างในอนาคต มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 10.3% ราคาที่ดินที่ปรับเพิ่มขึ้นมากอยู่ในในเขตทวีวัฒนา และเขตตลิ่งชัน, อันดับ 2. สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มีความคืบหน้าการก่อสร้างไปแล้วกว่า90.7% ราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้น 10.2% เขตหลักสี่ และเขตคันนายาว เป็นบริเวณที่ราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้นมาก

อันดับ 3. สายสีม่วง (บางใหญ่-เตาปูน) ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2559 มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 8.53% ราคาที่ดินในอำเภอเมืองนนทบุรี และอำเภอบางบัวทอง เป็นบริเวณที่มีราคาปรับเพิ่มขึ้นมาก, อันดับ 4. สายสีเขียว (สมุทรปราการ-บางปู) ซึ่งเป็นโครงการที่กำลังจะก่อสร้างในอนาคต และสายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ) ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดให้บริการแล้ว โดยราคาที่ดินทั้ง 2 เส้นทาง มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 8.51% โดยพบว่าอำเภอเมืองสมุทรปราการ เป็นบริเวณที่มีราคาที่ดินเพิ่มขึ้นมาก และ อันดับ 5. สายสีน้ำเงิน (บางแค-พุทธมณฑล สาย 4) ซึ่งเป็นโครงการที่กำลังจะก่อสร้างในอนาคต มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 8.1% โดยราคาที่ดินในเขตหนองแขม และเขตบางแค เป็นบริเวณที่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นมาก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ธอส. ยิ้ม ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร ระดับ AAA 4 ปีซ้อน

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผย ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรในระดับ AAA เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน และแนวโน้มอันดับเครดิตของ ธอส. ที่ระดับคงที่ (Stable) สะท้อนความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงินของธนาคาร

'ธอส.' เตรียมวงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท ปล่อยกู้ดอก 0% 3 เดือน ผ่อนเริ่มต้น 3,300 บาท

“ธอส.” เตรียมกรอบวงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท จัดทำ 3 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ 0% นาน 3 เดือนแรก ชูผ่อนชำระเงินงวดล้านละ 3,300 บาทต่อเดือน หนุนคนไทยมีบ้านเป็นของตัวเอง

ธอส. เผย 9 เดือนแรก ปล่อยสินเชื่อ 1.74 แสนล้านบาท

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผยผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ถึง 138,184 บัญชี 174,272 ล้านบาท คิดเป็น 74% ของเป้าหมายในปี 2566 ที่ตั้งไว้ 235,480 ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 มียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,669,492 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 1,721,295 ล้านบาท เงินฝากรวม 1,475,077 ล้านบาท หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 70,809 ล้านบาท คิดเป็น 4.24% ของยอดสินเชื่อรวม ตั้งสำรองเตรียมพร้อมรองรับหนี้เสียจำนวน 141,808 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL สูงถึง 200.27% พร้อมตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไว้ในระดับปัจจุบันต่อไป

ราคาเหล็กลดวูบ หนุนดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้าน Q3 เพิ่มเพียง 1.5%

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) รายงานดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน ไตรมาส 3 ปี 2566 มีค่าดัชนีเท่ากับ 134.2 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 (QoQ) และเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

'ธอส.' พร้อมปล่อยกู้อุ้มลูกค้าประกันสังคมหลังพบค้างท่ออื้อ

“ธอส.” รอประกันสังคมหมุนเงินเพิ่มอุ้มลูกหนี้บ้านตรึงดอกเบี้ย 1.99% หลังครบวงเงิน 3 หมื่นล้านบาท หลังพบลูกค้าลงทะเบียนค้างท่ออีกเพียบ แจงสรรหาเอ็มดีใหม่ยังเดินหน้าต่อเนื่องไม่ชะงัก คาดเรียกสัมภาษณ์ภายในเดือน ส.ค. นี้ มั่นใจปีนี้ปล่อยกู้ทะลุเป้าหมาย 2.35 แสนล้านบาท

ดัชนีราคาที่ดินเปล่าไตรมาส 2 ขยับเพิ่ม 6.2% แต่เริ่มโตลดลง จากปัญหาศก. -หนี้ครัวเรือน

ดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนา ในกรุงเทพฯ - ปริมณฑล ไตรมาส 2 /2566 ภาพรวมเพิ่มขึ้น 6.2% แต่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยก่อนโควิด-19