“ครม.” เคาะขยายกรอบการดำเนินโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ 3 ปี เหตุการก่อสร้างล่าช้า จากผลกระทบโควิด-19 ระบาด
7 ธ.ค. 2565 – นางสาวทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2565 มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้ขยายกรอบการดำเนินโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ กรณีการปลูกสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ รูปแบบโครงการเช่าระยะสั้น (Rental) บนที่ดินราชพัสดุ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท. 5050 และ ส.กท. 827 (บางส่วน) แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. เนื้อที่ประมาณ 3-1-91 ไร่ มีระยะเวลาโครงการ 3 ปี
นอกจากนี้ ให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารออมสิน แยกบัญชีโครงการ เป็นโครงการตามนโยบายของรัฐบาล (Public Service Account: PSA) และไม่นับรวมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ที่เกิดจากการดำเนินโครงการ เป็นตัวชี้วัดผลการดำเนินงานของธนาคาร รวมทั้งให้สามารถนำค่าใช้จ่ายในการจัดทำโครงการฯ บวกกลับกำไรสุทธิ เพื่อการคำนวณโบนัสพนักงานได้ต่อไป โดยที่ ธอส. และออมสินจะต้องไม่ขอรับการชดเชยงบฯ สำหรับการดำเนินโครงการฯ ในอนาคต
สำหรับโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐแบบเช่าระยะสั้น (Rental) เป็นโครงการเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีรายได้ไม่เกินเดือนละ 20,000 บาท ในวันที่ยื่นขอรับสิทธิเช่าพักอาศัยเป็นรายเดือน ค่าเช่าอาคารชุดพักอาศัยไม่เกินเดือนละ 4,000 บาท และปรับปรุงค่าเช่าเพิ่มขึ้นไม่เกิน 15% ทุก 5 ปี และสามารถพักอาศัยได้เป็นเวลา 5 ปี
ทั้งนี้ เพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงรุ่นผู้อยู่อาศัย โดยเปิดโอกาสให้ผู้มีสิทธิรุ่นใหม่ ได้มีโอกาสเข้ามาอยู่อาศัยแทน ซึ่งผู้ประกอบการลงทุนก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัย จะได้สิทธิการเช่าที่ดินราชพัสดุและการบริหารอาคารชุดพักอาศัยระยะเวลา 30 ปี (ไม่รวมระยะเวลาก่อสร้าง)
อย่างไรก็ดี ได้เริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี 2559 โดยขณะนี้มีโครงการเช่าระยะสั้น หมายเลขทะเบียนที่ กท.5050 กทม. และ ส.กท.827 (บางส่วน) แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. ยังอยู่ระหว่างดำเนินการแต่ไม่แล้วเสร็จเกิดความล่าช้า เพราะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 และกำหนดโครงการสิ้นสุดไปแล้วเมื่อ 18 เม.ย. 2564 ที่ผ่านมา ที่ประชุม ครม. จึงมีมติให้ขยายกรอบการดำเนินโครงการ 3 ปีนับตั้งแต่วันที่ ครม. มีมติ เพื่อให้โครงการสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ธอส.โชว์ปี 67 ปล่อยสินเชื่อใหม่ทะลุ 2.3 แสนล้านบาท
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผยผลการดำเนินงาน ณ สิ้นปี 2567 สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้รวม 236,547 ล้านบาท โดยเป็นการปล่อยสินเชื่อใหม่สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท จำนวน 123,774 ราย ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 4/2567 เทียบกับ ณ สิ้นปี 2566 สินเชื่อคงค้าง 1,800,170 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.06%, สินทรัพย์รวม 1,884,372 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.53%, เงินฝากรวม 1,630,490 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.83% และมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 89,117 ล้านบาทคิดเป็น 4.95% ของยอดสินเชื่อรวม ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 สะท้อนการแก้หนี้ที่ตรงจุดให้กับลูกค้า ยืนยันพร้อมดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลัง เดินหน้าสนับสนุนคนไทยมีบ้านเพิ่มขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม
ออมสิน เปิดตัวกระปุก ‘น้องออมสินตัวตึง’ รับวันเด็ก
ออมสิน เปิดตัวกระปุก “น้องออมสินตัวตึง” ส่งเสริมการออมวันเด็กแห่งชาติ 2568จองสิทธิ์ฝากเงินรับกระปุก 6 – 9 ม.ค. 68 ที่เว็บไซต์/ Line : GSB Society และแอป MyMoพร้อมชวนเที่ยวสวนสนุกแห่งการออม ในวันเสาร์ที่ 11 ม.ค. นี้ ที่ออมสินสำนักงานใหญ่ พหลโยธิน
ทริสเรทติ้ง คงเครดิต ‘ธอส.’ ระดับ AAA 5 ปีติด
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผย ทริสเรทติ้ง ประกาศการจัดอันดับเครดิตองค์กรของ ธอส. ปี 2567 โดยคงอันดับเครดิตองค์กรในระดับ AAA เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน และแนวโน้มอันดับเครดิตของ ธอส. ที่ระดับคงที่ (Stable) ตอกย้ำความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงินและการเป็นผู้นำด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคาร
REIC ชี้ ไทยที่อยู่อาศัยคนแก่ขาดแคลนสวนทางประชากรสูงวัยโตพรวด
“REIC” เปิดผลสำรวจที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุ ปี 2567 ยังไม่เพียงพอรองรับความต้องการ หลังประชากรสูงวัยโตพรวด 4.89% กางทั้งประเทศมีโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุเพียง 916 แห่ง ส่วนใหญ่ปักหมุดในนกรุงเทพ-ปริมณฑล
ธอส.เอาใจผู้สูงวัยอยากมีบ้านจัดสินเชื่อ 4 โครงการ
'คารม' เผย ธอส. สนับสนุนผู้สูงวัยมีบ้านก่อนสิ้นปี จัดทำสินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุนำโดยอัตราดอกเบี้ย 3 เดือนแรก 0% ผ่อนชำระเพียงล้านละ 4,300 บาทต่อเดือน ยื่นได้ ธอส.ทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป