‘กรุงไทย’ ประกาศขึ้นดอกเบี้ยกู้-ฝาก มีผล 1 ก.พ.

ธนาคารกรุงไทย ยืนหยัดดูแลลูกค้าทุกกลุ่ม เร่งปรับตัวรับมือความท้าทายเศรษฐกิจ ทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบค่อยเป็นค่อยไป ตามทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย โดยปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อย 0.10%ต่อปี ดอกเบี้ยเงินกู้รายใหญ่ ปรับขึ้น 0.15%-0.20%ต่อปี พร้อมปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด 0.25%ต่อปี เพื่อส่งเสริมการออมเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน มีผล 1 ก.พ.นี้

31 ม.ค. 2566 – นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เพื่อให้สอดคล้องกับการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% และได้ทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง ที่สอดคล้องกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของประเทศนั้น ธนาคารจึงมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้สะท้อนทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศ และต้นทุนการเงินในระบบที่เพิ่มสูงขึ้น โดยได้พิจารณาอย่างรอบคอบ และให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ฝากเงิน และกลุ่มเปราะบางที่รายได้ยังไม่กลับมาปกติ มีภาระหนี้สูง และอ่อนไหวต่อภาระค่าครองชีพที่ปรับสูงขึ้น โดยมีนโยบายปรับอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างเหมาะสม เพื่อให้เวลาลูกค้าปรับตัว และสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพ

ธนาคารประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 0.05%-0.25% ต่อปี เพื่อส่งเสริมการออม สร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว ให้ผู้ฝากเงินมีรายได้เพิ่มขึ้นในภาวะที่ค่าครองชีพสูงขึ้น และปรับอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) เพิ่มขึ้น 0.20% ต่อปี เป็น 6.35% ต่อปี ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทวงเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) เพิ่มขึ้น 0.15% ต่อปี เป็น 6.87% ต่อปี และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อย (MRR) 0.10% ต่อปี เป็น 6.87%ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ธนาคารยืนหยัดดูแลช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้ไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด พร้อมสนับสนุนให้เกิดการเร่งปรับตัวอย่างต่อเนื่อง รองรับการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจ จากปัจจัยความท้าทายรอบด้าน เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน เพื่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ผ่านมาตรการความช่วยเหลือแบบเฉพาะกลุ่ม เพื่อให้ลูกค้าได้รับความช่วยเหลือแบบตรงจุดและทันท่วงที และมาตรการช่วยเหลือพิเศษเพื่อแก้หนี้อย่างยั่งยืน สำหรับลูกค้าประเภทบุคคลและลูกค้าธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ ผ่านเครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย ทั้งลดอัตราดอกเบี้ย ลดค่างวดการชำระหนี้แบบ Step Up พักชำระเงินต้นและชำระเฉพาะดอกเบี้ย ขยายระยะเวลาชำระหนี้เปลี่ยนประเภทหนี้ วงเงินกู้หมุนเวียน (Revolving Loan) เป็นวงเงินกู้แบบมีกำหนดระยะเวลา (Term Loan) ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และการเพิ่มสภาพคล่อง เป็นต้น โดยการพิจารณาลูกค้าแต่ละรายเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด โดยธนาคารจะเสนอแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ที่เหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้และความเสี่ยงของลูกค้า

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จะเอาให้ได้! 'เศรษฐา' เรียก 4 แบงก์ยักษเข้าทำเนียบฯ คุยลดดอกเบี้ย หลังธปท.ไม่เล่นด้วย

ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้เรียก 4 ธนาคารเข้าพบ

กรุงไทย คว้า 67 รางวัลแห่งความสำเร็จ ปักธงผู้นำนวัตกรรม เดินหน้าสู่ความยั่งยืน

นับเป็นการสร้างสถิติครั้งสำคัญสำหรับธนาคารกรุงไทย ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำระดับประเทศ ที่เป็นมากกว่าธนาคารและอยู่เคียงข้างคนไทยมาเกือบ 6 ทศวรรษ

'รัฐบาล' ยกระดับคนรุ่นใหม่ ทำปศุสัตว์จับเงินล้าน

"รัดเกล้า" เผย กระทรวงเกษตรฯ ผนึกพันธมิตรเครือข่ายมหาลัยภาคเหนือ ผุดโครงการ “ยุวเกษตรกรเงินบาทแรกของแผ่นดิน” มุ่งเป้าพัฒนาลูกหลานไทยยุคใหม่ ทำปศุสัตว์จับเงินล้าน ดันไทยสู่ครัวโลก

“รวมไทยสร้างชาติ” เดินหน้าเสนอแก้กฎหมายปลดล็อคประชาชนติดเครดิตบูโรยาวนานให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ง่าย ลดปัญหาถูกขึ้นบัญชีดำ จนหันไปกู้เงินนอกระบบ

เมื่อวันที่ 10 มกราคม ที่รัฐสภา นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วย สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ประกอบด้วย รศ.ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร นายพงษ์มนูญ ทองหนัก สส.พิษณุโลก

‘สว.สถิตย์’ แนะแบงก์ชาติ สร้างความเป็นธรรมผู้บริโภค หลังปรับดอกเบี้ย

สว.สถิตย์ แนะธนาคารแห่งประเทศไทย สร้างความเป็นธรรมผู้บริโภค-คู่แข่งขันทางสถาบันการเงิน หลังปรับดอกเบี้ยท่ามกลางเงินเฟ้อ-ธนาคารฟันกำไร