รฟท. เล็งชงครม.เคาะกู้เงิน 1.8 หมื่นล้านบาทเสริมสภาพคล่อง

การรถไฟฯ เตรียมชง ครม.อนุมัติกู้เงินเสริมสภาพคล่อง 1.8 หมื่นล้านบาท หนุนดำเนินกิจการปีงบประมาณ 2567 หลังประมาณการณ์รายรับรายจ่ายจ่อติดลบ เหตุยังมีภาระชำระดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายเงินกู้ครบกำหนด

25 พ.ค. 2566 – นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า จากการจัดทำประมาณการกระแสเงินสดประจำปี 2567 พบว่าผลการดำเนินงานในปีงบประมาณดังกล่าว ขาดกระแสเงินสดราว 18,000 ล้านบาท ส่งผลให้ ร.ฟ.ท.มีความจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อใช้ในการดำเนินงาน หรือทำมาเสริมสภาพคล่องการดำเนินกิจการ โดยขณะนี้ได้มีการเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) และได้รับการอนุมัติแล้ว

ขณะที่ขั้นตอนหลังจาหนี้ ร.ฟ.ท.จะต้องเสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมพิจารณาถึงความเหมาะสม เนื่องจากปัจจุบันอยู่ในช่วงรัฐบาลรักษาการ ดังนั้นต้องพิจารณาด้วยว่าจะสามารถเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติได้หรือไม่ ส่วนการจัดสรรวงเงินดังกล่าว จะเป็นอำนาจของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ในการพิจารณาความเหมาะสมของแหล่งเงินกู้

สำหรับปัจจุบัน ร.ฟ.ท.ยังมีภาระหนี้สะสมอยู่ที่ราว 2 แสนล้านบาท แต่ยอมรับว่าการดำเนินกิจการในข่วงที่ผ่านมาเนื่องจาก ร.ฟ.ท.มีภาระอัตราดอกเบี้ยจากเงินต้นที่กู้ยืมมาก่อนหน้านี้ ทำให้รายได้ที่ ร.ฟ.ท.บริหารกิจการมาแต่ละปี ต้องนำไปชดเชยดอกเบี้ยและภาระทางการเงินต่างๆ ส่งผลให้ภาพรวมการดำเนินงานของ ร.ฟ.ท.ยังคงมีกระแสเงินสดไม่เพียงพอต่อการดำเนินกิจการ

“ที่ผ่านมาการรถไฟฯ เราขออนุมัติจัดสรรเงินกู้เช่นนี้มาทุกปี ในวงเงินใกล้เคียงกับที่เสนอขอให้ปีงบประมาณ 2567 เพราะที่ผ่านมาเราต้องนำเงินไปชดเชยภาระทางการเงินที่มีหนี้สะสมอยู่ ทำให้ไม่เพียงพอต่อการดำเนินกิจการ ซึ่งขณะนี้การรถไฟฯ ยังอยู่ในช่วงฟื้นฟูกิจการ และมีความพยายามในการหารายได้เพิ่มอย่างต่อเนื่อง”นายนิรุฒ กล่าว

ทั้งนี้ จากข้อมูลประมาณการกระแสเงินสดในปี 2567 ของ ร.ฟ.ท.พบว่ามีการคาดการณ์รายรับรวม 10,661ล้านบาท โดยแบ่งเป็น รายได้จากการโดยสาร 2,957 ล้านบาท รายได้การขนส่งสินค้า 2,467 ล้านบาท รายได้จากการเดินรถไฟฟ้าสายสีแดง 327 ล้านบาท รายได้จากการบริหารทรัพย์สิน 3,736 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมการดำเนินงาน ICD ลาดกระบัง 499 ล้านบาท รายได้ค่าเช่าตลาดนัดจตุจักร 169 ล้านบาท และรายได้จาการดำเนินงานอื่นๆ 503 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามขณะที่รายจ่ายครบกำหนดชำระ คือ การชำระดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายเงินกู้ 5,436 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินกิจการอีกราว 24,195 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายยบำรุงทางอาณัติสัญญาณ และสิ่งปลูกสร้าง 3,514 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรถไฟฟ้าสายสีแดง 1,111 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายบำรุงรักษารถจักร และล้อเลื่อน 3,824 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการเดินรถขนส่ง 9,342 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 1,005 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายบำเหน็จบำนาญอีก 5,397 ล้านบาท ส่งผลให้การดำเนินงานในปีงบประมาณ 2567 ติดลบอยู่ที่ 18,970 ล้านบาท

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บอร์ด รฟท. ไฟเขียวรถไฟทางคู่เฟส 2 รวม 3 เส้นทาง 1.33 แสนล้าน

บอร์ด รฟท. ไฟเขียวรถไฟทางคู่เฟส 2 รวม 3 เส้นทาง 634 กม. 1.33 แสนล้าน ปากน้ำโพ-เด่นชัย, ชุมทางถนนจิระ-อุบลฯ, หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์‘ ชงคมนาคม ก.พ.นี้ ก่อนเสนอครม. ต่อไปเคาะ ยันรายงานอีไอเอผ่านฉลุย

รฟท.รุกบริการส่งสินค้าถึงหน้าบ้าน

การรถไฟฯ เพิ่มจุดให้บริการรับ-ส่ง พัสดุขนาดเล็ก น้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัม ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ คิดอัตราค่าบริการแบบเหมาจ่ายชิ้นละ 30 บาท เริ่มตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 มี.ค.67เล็งผุดบริการส่งสินค้าถึงหน้าบ้าน

มาแล้ว! 'วิษณุ' ชี้ช่องส่งกฤษฎีกาตีความ พรบ.กู้เงินดิจิทัล ระวังโดนคดีตามหลัง

นายวิษณุ เครืองาม คณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมถามกฤษฎีกา ถึงการออกร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เงินกู้ 5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ผิดกฎหมายหรือไม่ ว่า เป็นเรื่องที่ตอนนี้ยังตอบไม่ถูก และไม่มีใครตอบถูก เพราะรัฐบาลยังไม่ได้สอบถามมา จึงไม่ทราบว่าจะถามว่าอย่างไร

'เศรษฐา' ยันสัปดาห์นี้แน่! ส่งกฤษฎีกาตีความ 'พรบ.กู้เงิน' แจกหมื่นดิจิทัล

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร)

‘กรณ์’ ยกศาล รธน.เยอรมัน วินิจฉัยกู้เงินเกินเพดาน เตือนสติกู้มาแจก

ที่เยอรมัน ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า ‘รัฐบาลทำผิดกฎหมายจากการกู้เงินเกินเพดานเงินกู้ที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้’ รัฐบาลอาจอยู่ยากเพราะหลายโครงการที่พรรคร่วมคาดหวังว่าจะได้รับงบสนับสนุนต้องถูกยกเลิกไป