‘ซิซซา’ จี้รัฐอัดแคมเปญกระตุ้นท่องเที่ยวกางแผนลงทุน 8 พันล้านหนุนภูเก็ต

ซิซซา กรุ๊ป วอนหลังจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ เร่งจัดแคมเปญกระตุ้นท่องเที่ยวภูเก็ตกลับคืน ช่วยดันภาคอสังหาฯโต  เปิดแผนลงทุนภูเก็ต 4 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 8 พันล้านบาท ชูจุดขาย “เมดิคอล เวลเนส รีสอร์ต” สอดรับมาตรการภาครัฐหนุนภูเก็ต เป็น “Medical Hub” ภูมิภาคอาเซียน ดึงบุคลากรการแพทย์ไทย-ต่างชาติ เสริมทีมแกร่ง

9 ก.ค. 2566 – นายอรรถนพ พันธุกำเหนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิซซา กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อ การลงทุนรูปแบบ “Investment Property” (IP) เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดท่องเที่ยวในจ.ภูเก็ต ว่าที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักท่องเที่ยว ซึ่งส่งผลดีต่อภาคธุรกิจอสังหาฯด้วย เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่แล้ว ก็อยากให้มีการส่งเสริมแคมเปญดึงนักท่องเที่ยวมาเที่ยวประเทศไทยและภูเก็ตมากขึ้น อีกทั้งควรดูแลเรื่องระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานในจ.ภูเก็ต ด้วยการเข้าไปลงทุนให้ดีมากขึ้นกว่าเดิม เพราะเมื่อการท่องเที่ยวดีก็จะส่งผลดีต่อภาคอสังหาฯอย่างต่อเนื่อง

 สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯในจ.ภูเก็ตตั้งแต่ปลายปี 2565 ถึงต้นปี 2566 มองว่านักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา ส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรม และที่อยู่อาศัย ทำให้เกิดการซื้อขายเพิ่มมากขึ้น โดยกลุ่มผู้ซื้อหลักยังเป็นชาวรัสเซียถึง 80% เนื่องจากหนีภัยสงครามมาหาซื้อบ้านหลังที่สองในจ.ภูเก็ต โดยเฉพาะตลาดพูลวิลล่า ระดับราคา 6-100 ล้านบาทขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกลุ่มลูกค้า

 ทั้งนี้ช่วงไตรมาส 3/2566 ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ตลาดภูเก็ตจะค่อนข้างเงียบเมื่อเทียบกับช่วงไฮซีซั่น จากเดิมที่คาดหวังว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมามากขึ้น แต่กลับไม่เป็นไปตามคาดการณ์  ซึ่งต้องรอดูช่วงไฮซีซั่นในปลายปีนี้อีกครั้งหนึ่ง  อย่างไรก็ตามการลงทุนของผู้ประกอบการในปี 2566 นี้ พบว่า มีการพัฒนาโครงการใหม่ๆ โดยเฉพาะพูลวิลล่ามากขึ้น ทั้งจากผู้ประกอบการในท้องถิ่นและจากกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เป็นตลาดแมส ระดับราคา 7-30 ล้านบาท โดยกระจายพัฒนารอบเกาะภูเก็ต 

 “ในช่วงที่ผ่านมานั้นความต้องการพูลวิลล่ามีมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มคนต่างชาติ ซึ่งหลังวิกฤติโควิด-19 คลี่คลาย ตลาดพูลวิลล่ามียอดขายที่ดีมาก  โดยทำเลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือโซนลากูน่า แถวหาดบางเทา หาดลายัน โซนถัดมาคือ ราไวย์ และในหาน ส่วนตลาดคอนโดฯมีการพัฒนาน้อยกว่าเดิม เนื่องจากในช่วงวิกฤติโควิด-19 ดีมานด์หันมาซื้อที่อยู่อาศัยประเภทบ้านและวิลล่ามากขึ้น และเป็นตลาดที่มีผู้ประกอบการจะไม่แข่งขันสูงเหมือนเช่นในกรุงเทพฯ” นายอรรถนพ กล่าว

 นายอรรถนพ กล่าวถึง ทิศทางการดำเนินการของ ซิซซา กรุ๊ป ในปี 2566 ว่าจะมีการเปิดตัวทั้งหมด 4โครงการ รวมมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท ประกอบด้วย

1. นาใต้ เมดิคอล เซ็นเตอร์ แอนด์ รีสอร์ต มูลค่าการลงทุน 3,300 ล้านบาท พัฒนาเป็นศูนย์สุขภาพและความงาม ควบคู่ไปกับรีสอร์ตหรูระดับ 6 ดาว ปัจจุบันเปิดให้บริการในส่วนของโรงแรมแล้ว ส่วนเมดิคอลฯจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 1/2567 

2. เมดิคอล เวลเนส รีสอร์ต ในพื้นที่ โรงแรม “วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต” (Wyndham Grand Nai Harn Beach Phuket) โดยเฟสแรกใช้งบลงทุนไป 70 กว่าล้านบาท ใช้พื้นที่ไปประมาณ 500 ตารางเมตร พร้อมเปิดให้บริการในส่วนของ “เพลนารีเวลเนส” (Plenary Wellness) ศูนย์สุขภาพและความงาม เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบแบบองค์รวม ประกอบด้วย โปรแกรมตรวจสุขภาพเชิงลึก,เวชศาสตร์ชะลอวัย,กายภาพบำบัด และเวชศาสตร์ความงาม สำหรับเฟส 2 จะเป็น Men’s Health และ Women Health เป็นการดูแลสุขภาพทั้งผู้ชายและผู้หญิงทั้งหมด  ส่วนเฟส 3 กำลังศึกษาข้อมูลว่าจะนำบริการรูปแบบไหนเข้ามาใช้บ้าง คาดว่าทั้งโปรเจกต์ (3 เฟส)จะใช้งบลงทุนรวมประมาณ 300 ล้านบาท 

 “เมดิคอล ถือเป็นโปรดักส์ใหม่ในตลาด เวลเนส รีสอร์ต ที่เป็นการให้บริการเรื่องดูแลสุขภาพในโรงแรม ส่วนอีกแบบหนึ่ง คือ การให้บริการเชิงการแพทย์ ที่มีคลินิกเฉพาะทาง โดยสิ่งที่บริษัทฯทำจะเป็นการนำ 2 รูปแบบมารวมกันเป็น “เมดิคอล เวลเนส รีสอร์ต”  เน้นเวชศาสตร์ป้องกันให้มีสุขภาพที่ดี และแข็งแรงตลอด บริษัทถือเป็นผู้ประกอบการรายแรกๆ ที่ดำเนินการในรูปแบบดังกล่าว และมีจุดแข็งในเรื่องบุคลากรทางการแพทย์จากประเทศไทยและต่างประเทศรวมไปถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย ซึ่งปัจจุบันยังถือว่ามีคู่แข่งที่น้อยมาก ส่วนผู้ประกอบการรายอื่นก็จะมีจุดขายที่แตกต่างกันไป” นายอรรถนพ กล่าว

3. พูลวิลล่า บริเวณหาดลายัน โดยยังไม่มีการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ ขณะนี้เรียกว่า “รายัน วิลล่า” โดยเฟส 1 ตั้งอยู่พื้นที่ 16 ไร่ เป็นวิลล่า จำนวน 26 หลัง ราคา 1-2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 35-70 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท  และ 4. ดิ เอท พูลวิลล่า เฟส 2 บริเวณอ่าวฉลอง ตั้งอยู่บนพื้นที่ 11 ไร่ เป็นวิลล่า จำนวน 60 หลัง ราคาตั้งแต่ 7-10 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 600-700 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตามในส่วนของ “วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต” (Wyndham Grand Nai Harn Beach Phuket) ช่วงไฮซีซั่นตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 – เมษายน 2566 ที่ผ่านมา พบว่ามีอัตราการเข้าพักเกิน 90% และช่วงเดือนที่ผ่านมาพฤษภาคม – มิถุนายน 2566 อัตราการเข้าพักลดลงมาอยู่ที่ 60-65% แม้จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าต่างชาติทั้งหมด หลากหลายเชื้อชาติ อาทิ ยุโรป, จีน, อินเดีย และ ตะวันออกกลาง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดักคอ 'เศรษฐา' เตรียมอุ้มอสังหาฯ หวังระบายสต๊อก เตือนผุดนโยบายเอื้อกลุ่มทุนพันตัว

"ก้าวไกล" เผย นายกเตรียมอุ้มอสังหาฯ หวังระบายสต๊อก อาจถูกมองเอื้อกลุ่มทุน ชี้คนที่ได้ประโยชน์คือกำลังซื้อต่างชาติ แนะถ้าจะกระตุ้นศก.ควรเริ่มจากราคาบ้านถูกกลางเมืองจับต้องได้

ซิซซา กรุ๊ปลุยขยายฐาน“เอเจนต์พัทยา”

ซิซซา กรุ๊ป เดินหน้าลุย ขยายฐานเอเจนต์พัทยาครั้งแรก หวังดึงนักลงทุนไทย-ต่างชาติ เพิ่มพอร์ตในโครงการ “วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต” จ่อจัดงานครั้งที่ 2 ต่อเนื่อง หวังร่วมต่อยอดธุรกิจโครงการอนาคตเพิ่ม

ยังไหวกันอยู่ไหม อสังหาฯ….

ต้อนรับเข้าสู่ปีใหม่ 2565 ด้วยข่าวดีและข่าวร้ายในวงการอสังหาฯ ที่ต้องพยายามทำใจมองโลกในในแง่ดีว่าถือเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ผู้ประกอบการแข็งแกร่งขึ้น เพราะเปิดต้นปีมาพร้อมๆกับ “โอไมครอน”