กรมพัฒน์ฯ หาแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการฟู้ดทรัค

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หารือ ผู้ประกอบการฟู้ดทรัค รับฟังปัญหาอุปสรรค และหารือแนวทางการส่งเสริมธุรกิจระยะยาว พบ 2 ปัญหาหลัก : ขาดเงินทุนหมุนเวียน และข้อจำกัดด้านสถานที่จอดรถจำหน่ายสินค้า ขอภาครัฐให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้น กรมฯ เตรียมหารือและขอความร่วมมือสถาบันการเงินออกโครงการเงินกู้อัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับผู้ประกอบการฟู้ดทรัคโดยเฉพาะ ผ่านการใช้ประโยชน์จากกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ

14 ส.ค. 2566 – นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “กรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้การสนับสนุนธุรกิจฟู้ดทรัคมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจเพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น เนื่องจากฟู้ดทรัคเป็นกิจการประเภทหนึ่งที่สามารถนำมาใช้เป็นหลักประกันการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยที่ผ่านมา กรมฯ ได้สร้างความรู้ความเข้าใจ ชี้แจงรายละเอียด และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของกฎหมายฯ แก่ผู้ประกอบการฟู้ดทรัค พร้อมเชิญสถาบันการเงินมาให้คำปรึกษาแนะนำถึงแนวปฏิบัติและเทคนิคการขอสินเชื่อให้ได้รับการอนุมัติ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการฟู้ดทรัคและนักลงทุนหน้าใหม่เป็นจำนวนมาก

เพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่ผู้ประกอบการและธุรกิจฟู้ดทรัคอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมชัดเจน กรมฯ ได้ลงพื้นที่ เพื่อรับฟังปัญหาอุปสรรคและหารือการส่งเสริมธุรกิจ โดยมอบหมายให้กองทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ ซึ่งเป็นหน่วยงานของกรมฯ ที่รับผิดชอบดูแลกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ พบปะหารือกับผู้ประกอบการโดยตรง ณ จุดจอดรถจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มของผู้ประกอบการฟู้ดทรัค เพื่อรวบรวมประเด็นปัญหาอุปสรรค และหารือแนวทางการส่งเสริมธุรกิจระยะยาว ก่อนนำเสนอกรมฯ เพื่อกำหนดมาตรการต่างๆ ให้สอดรับกับปัญหาอุปสรรคที่ได้รับฟังมา รวมทั้ง กำหนดแนวนโยบายการส่งเสริมธุรกิจให้มีความเข้มแข็งระยะยาว

จากการพูดคุยพบปัญหาอุปสรรคหลักของผู้ประกอบการฟู้ดทรัค คือ 1) ขาดเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ เนื่องจากผู้ประกอบการฟู้ดทรัคส่วนใหญ่เป็นธุรกิจรายย่อย เงินทุนมีจำนวนจำกัด และใช้เงินลงทุนเกือบทั้งหมดไปกับการตกแต่งรถให้สวยงามโดดเด่นเพื่อดึงดูดความสนใจผู้บริโภค ตลอดจนซื้ออุปกรณ์สำหรับจำหน่ายอาหาร จึงไม่มีเงินสำรองหรือเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอสำหรับใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจระยะยาว และ 2) ข้อจำกัดด้านสถานที่จอดรถจำหน่ายสินค้า เช่น ทำเลที่จอดรถต้องไม่ผิดกฎหมายและต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของสถานที่ก่อนจึงจะทำการขายได้ ฯลฯ โดยผู้ประกอบการขอให้หน่วยงานภาครัฐให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาที่กำลังประสบอยู่

เบื้องต้น กรมฯ ได้กำหนดแนวทางเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการฟู้ดทรัค ประกอบด้วย 1) ส่งเสริมให้ใช้ประโยชน์จากกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ นำธุรกิจมาเป็นหลักประกันการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน อย่างไรก็ตาม กรมฯ จะหารือและขอความร่วมมือจากสถาบันการเงินเพิ่มเติมเพื่อออกโครงการเงินกู้อัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับธุรกิจฟู้ดทรัคโดยเฉพาะ รองรับผู้ประกอบการที่ต้องการใช้สิทธิผ่านโครงการฯ ดังกล่าว 2) เจรจากับหน่วยงานพันธมิตรเอื้อเฟื้อสถานที่ให้รถฟู้ดทรัคจอดจำหน่ายสินค้า หรือ คิดค่าใช้จ่ายโดยให้ส่วนลดเป็นกรณีพิเศษ รวมทั้ง กรมฯ จะจัดมหกรรมฟู้ดทรัคอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการได้มีสถานที่จำหน่ายสินค้า เป็นการเปิดตลาดใหม่ พบปะลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ สร้างการจดจำแบรนด์ ตลอดจน เปิดเวทีให้ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจฟู้ดทรัค และการใช้ประโยชน์จากกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายมากขึ้น พร้อมเชิญชวนนักลงทุนหน้าใหม่เข้าสู่ธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการจ้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

และระหว่างวันที่ 16 – 17 สิงหาคม 2566 กรมฯ เตรียมนำผู้ประกอบการฟู้ดทรัค ออกงานแสดงและจำหน่ายสินค้า ภายในงาน ‘อร่อยกู๊ด ฟู้ดทรัค’ ณ บริเวณลานจอดรถชั้น G อาคารจอดรถมหิดลสิทธาคาร ภายในมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ภายในงานได้รวบรวมผู้ประกอบการฟู้ดทรัคของไทยกว่า 30 ร้านค้า มาจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายสไตล์ให้นักชิมได้ลิ้มรสอาหารชั้นเลิศ รวมทั้ง ได้เชิญผู้บริหารธุรกิจฟู้ดทรัคทีมช้างมาถ่ายทอดประสบการณ์ วิเคราะห์จุดอ่อน-จุดแข็ง และโอกาสการเติบโตของธุรกิจฟู้ดทรัคแก่นักลงทุนหน้าใหม่หรือผู้สนใจ เพื่อเป็นข้อมูลก่อนตัดสินใจเข้าลงทุนในธุรกิจ และได้เชิญธนาคารไทยพาณิชย์มาให้คำแนะนำการจัดทำแผนธุรกิจ และการขอสินเชื่อเพื่อเป็นใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือขยายการลงทุนของธุรกิจ

ขอเชิญชวนนักชิม ผู้สนใจ และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงาน ‘อร่อยกู๊ด ฟู้ดทรัค’ วันพุธที่ 16 – วันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม 2566 เวลา 7.00 – 15.00 น. ณ บริเวณลานจอดรถชั้น G อาคารจอดรถมหิดลสิทธาคาร ภายในมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จ.นครปฐม

ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 7 สิงหาคม มิถุนายน 2566) มีผู้นำกิจการมาจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจแล้ว จำนวน 10,021 สัญญา มูลค่ารวม 1,446 ล้านบาท ผู้ประกอบธุรกิจที่สนใจ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร 0 2547 4939 e-Mail : [email protected] สายด่วน 1570 และ www.dbd.go.th” อธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้าย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชัย' ฟุ้งแค่ไตรมาสแรกต่างชาติลงทุนในไทยกว่า 3 หมื่นล้าน!

โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ชื่นชมผลจากความสำเร็จรัฐบาล ไตรมาสแรกปี 2567 ต่างชาติลงทุนในไทยกว่า 3 หมื่นล้านบาท ส่งเสริมโอกาสการประกอบอาชีพ เพิ่มรายได้ให้คนไทย

พาณิชย์ โชว์ ม.ค. ต่างชาติลงทุนในไทย 7,171 ล้าน

เบิกฤกษ์..มกราคม 2567 ต่างชาติลงทุนในไทย 7,171 ล้านบาทญี่ปุ่นลงทุนอันดับหนึ่ง 3,793 ล้านบาท ตามด้วย สิงคโปร์ 1,083 ล้านบาท และจีน 768 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 172 คน