
18 เม.ย. 2565 – นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่า สถิติคดีเข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติวันสุดท้ายของ 7 วันอันตรายช่วงเทศกาลสงกรานต์ 17 เมษายน 2565 มีคดีรวมทั้งสิ้น 1,337 คดี จำแนกเป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 1,222 คดี ติด EM 2 ราย และขับเสพ 115 คดี จังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสูงสุดมี 2 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์และกรุงเทพ จำนวน 398 คดี อันดับสองจังหวัดเชียงราย จำนวน 343 คดี และอันดับสามจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 330 คดี
ศาลสั่งติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวหรือกำไล EM คดีขับรถขณะเมาสุรายอดสะสม 7 วัน จำนวนทั้งสิ้น 13 ราย ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี (สาขาเดชอุดม) จำนวน 10 ราย รองลงมาสุโขทัย 3 ราย โดยมีเงื่อนไขห้ามออกจากที่พักอาศัย ตั้งแต่เวลา 19.00 น. – 05.00 น. เป็นเวลา 7 วัน
ทั้งนี้ สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศเฝ้าติดตามและควบคุมดูแลผู้กระทำผิดตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านศูนย์ควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (Electronic Monitoring Control Center – EMCC) เปรียบเทียบสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราช่วงสงกรานต์ ปี 2564 จำนวน 6,061 คดี ปี 2565 จำนวน 7,141 คดี สถิติคดีเพิ่มขึ้น 1,080 คดี คิดเป็นร้อยละ 17.82
ตลอดช่วง 7 วันอันตราย กรมคุมประพฤติโดยสำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ ได้ร่วมสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการให้บริการประชาชน และอำนวยความสะดวก ประจำจุดบริการประชาชน ด่านชุมชน และด่านตรวจค้น จำนวน 366 จุด และมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย อาสาสมัครคุมประพฤติ ประชาชน ภาคีเครือข่าย เจ้าหน้าที่ และผู้ถูกคุมความประพฤติ จำนวน 8,866 คน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ประจำจุดบริการ เพื่อให้ประชาชนเดินทางด้วยความปลอดภัย
อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมคุมประพฤติให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมาย พร้อมบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในสังคม ร่วมกันดูแลผู้กระทำผิดที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติ โดยเฉพาะผู้กระทำผิดในฐานความผิดขับรถขณะเมาสุราทุกราย จะต้องผ่านการคัดกรองแบบประเมินการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากพบว่า มีความเสี่ยงสูงในการติดสุรา กรมคุมประพฤติจะส่งเข้ารับการบำบัดรักษา ณ สถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข สำหรับผู้กระทำผิดที่มีความเสี่ยงต่อการกระทำผิดซ้ำ ต้องเข้ารับการแก้ไขฟื้นฟูแบบเข้มข้นในรูปแบบค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นระยะเวลา 3 วันต่อเนื่อง และยังคงต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขคุมความประพฤติ อาทิ รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ และทำงานบริการสังคม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘เพนกวิน’ เฮ! ได้ขึ้นเครื่องบินเสียที หลังถอดกำไล EM ไม่ติดคอก
เพนกวิน แกนนำม็อบราษฎร และผู้ต้องหาคดี 112 โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า เกือบสองปีแล้วที่ไม่ได้ขึ้นเครื่องบิน
ศาลอาญา อนุญาตปลดกำไล EM เพนกวิน
ที่ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษกนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ จำเลยที่ 1 คดีหมายเลขดำอ.287/2564 ยื่นคำร้องขอถอดอุปกรณ์กำไล EM ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราว โดยจำเลยได้ระบุถึงเหตุผลและ
ผู้สมัครก้าวไกล อ้างเพิ่งได้ถอดกำไลอีเอ็ม เพราะ 'ตะวัน-แบม' จุดชนวนสังคมตื่นตัว
น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ ลูกเกด ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล แกนนำกลุ่มราษฏร ผู้ต้องหาคดีม.112 และศาลมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราว โดยวางเงื่อนไขให้ติดกำไล EM ที่ข้อเท้า
3 นิ้วเฮลั่น! ศาลอนุญาตปลดกำไลอีเอ็ม ผู้ต้องหาคดี 112,116 รวม 5 ราย
ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก 5 จำเลยในคดีการชุมนุมเเละคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 เเละ116 ประกอบด้วย
'ผู้นำฝ่ายค้าน' มโน แผนอำมหิต ใช้ชีวิต 'ตะวัน-แบม' แลกกับการสืบทอดอำนาจเพื่อไม่มีเลือกตั้ง
ฝ่ายค้าน เสนอญัตติด่วน ‘ตะวัน-แบม ม.112’ อดอาหาร ‘ชลน่าน’ ขอศาลเมตตาวางเงื่อนไขประกันตัวเหมาะสม ชี้ติดกำไลอีเอ็มควบคุมพื้นที่24 ชม. เกินขอบเขต ลั่นคนไม่ใช่สัตว์ โยงแผนอำมหิต เอาชีวิตเด็กแลกกับการสืบทอดอำนาจเพื่อไม่มีเลือกตั้ง ‘รมว.ยุติธรรม’ พร้อมทบทวนระเบียบคุมขังที่บ้านได้
'พิ้งกี้' เฮลั่น! ศาลอนุญาตปลดกำไลอีเอ็ม คดีแชร์ Forex
ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก น.ส.สาวิกา หรือพิ้งกี้ ไชยเดช อายุ 36 ปี นักแสดงสาวชื่อดัง จำเลยที่ 7 คดีฉ้อโกงแชร์ FOREX-3D ได้เดินทางเข้ารายงานตัวต่อศาลครั้งที่ 2 ตามนัด หลังจากเมื่อวันที่ 30 พ.ย.65 ศาลอาญาอนุญาตให้