โพลชี้ 'กัญชา' มาถูกทาง ปลดล็อกใต้ดิน-ใช้ประโยชน์เปิดเผย

3 ก.ค.2565 - ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง กัญชาเพื่อใคร กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศโดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 2,250 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 86.7 รับรู้ว่า นโยบายกัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์ให้สามารถศึกษาค้นคว้า ใช้กัญชาทางการแพทย์ได้อย่างถูกกฎหมาย ลดการพึ่งพานำเข้ายาจากต่างประเทศ ในขณะที่ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 65.4 รับรู้ว่า กัญชามีประโยชน์สามารถเป็นพืชเศรษฐกิจได้ ปลูกให้ถูกประเภท ปลูกแล้วมีคนซื้อ ทำให้ประเทศไทยมีรายได้จากการส่งออกกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์แผนไทย

ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึงกลุ่มคนที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายกัญชาทำเพื่อใคร พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 56.7 ระบุ ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ และชาวบ้านทั่วไป ที่กัญชารักษาโรคได้ เช่น อาการปวดเรื้อรัง นอนไม่หลับ ซึมเศร้า เบื่ออาหาร และโรคกล้ามเนื้อ เป็นต้น ร้อยละ 54.1 ระบุ บุคลากรทางการแพทย์ที่ศึกษาค้นคว้าองค์ความรู้ใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์ทำได้อย่างถูกกฎหมายและเปิดเผย และร้อยละ 53.5 ระบุ ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะเกษตรกร ได้ประโยชน์จากการปลดล็อกกฎหมายกัญชา ทำให้สามารถปลูกและใช้เป็นยาประจำบ้าน รักษาโรคและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจชาติ

นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 65.8 สนับสนุน นโยบายกัญชา เพราะ เป็นนโยบายที่กล้าเปลี่ยนแปลง มาถูกทาง แก้ปัญหากัญชาใต้ดิน ลดอำนาจรัฐเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ช่วยเหลือชาวบ้านผู้ป่วยยากไร้มียาประจำบ้านรักษาโรคต่าง ๆ ให้ชาวบ้านเกษตรกรได้ปลูกได้ใช้ในครัวเรือนเพื่อสุขภาพอย่างถูกกฎหมาย ไม่ใช่ให้นายทุนกอบโกย ช่วยทำให้การศึกษาค้นคว้าใช้ประโยชน์กัญชาทางการแพทย์พื้นบ้านเป็นไปได้ไม่ผิดกฎหมาย สร้างความมั่นคงทางยา สร้างรายได้เข้าประเทศ เป็นต้น

ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 63.7 สนับสนุน พรรคภูมิใจไทย รัฐบาลและทุกภาคส่วน ร่วมเดินหน้า ผลักดันนโยบายกัญชาที่ดี กล้าเปลี่ยนแปลงช่วยแก้ปัญหาทุกข์ยากเดือดร้อนจากกฎหมายยาเสพติดที่เคยมีมาช้านาน เข้าใจแก้ปัญหายึดชาวบ้าน คนตัวเล็กตัวน้อยเป็นศูนย์กลาง ให้ได้ปลูกได้ใช้ในครัวเรือน ไม่หนุนกลุ่มนายทุนกอบโกย ลดอำนาจรัฐ สกัดกั้นเจ้าหน้าที่รัฐนอกลู่เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ที่เคยทำกันในอดีตก่อนปลดล็อกกัญชา ช่วยฟื้นคืนภูมิปัญญา หมอยาพื้นบ้านที่เคยมีมาช้านานในชุมชนชนบท กล้านำกัญชาที่เคยอยู่ใต้ดินมาไว้บนดินให้ได้ศึกษาได้ใช้อย่างเปิดเผย ภายใต้ความรู้ความเข้าใจและกำกับดูแลอย่างเหมาะสม เป็นต้น

ที่น่าสนใจคือ เมื่อจำแนกกลุ่มสนับสนุนออกตามภูมิภาค พบว่า คนอีสานส่วนใหญ่หรือร้อยละ 65.9 สนับสนุน พรรคภูมิใจไทย รัฐบาลและทุกภาคส่วนร่วมเดินหน้า ผลักดันนโยบายกัญชาที่ดี รองลงมาคือภาคกลาง ร้อยละ 63.2 ภาคเหนือร้อยละ 57.8 กรุงเทพมหานคร ร้อยละ 50.1 และภาคใต้ ร้อยละ 46.9 ตามลำดับ

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า กัญชามีทั้งคุณและโทษ ให้เลือกใช้คุณที่เป็นประโยชน์ ให้คุมการใช้ที่เป็นโทษ เดินหน้านโยบายกัญชาไทยอย่างเหมาะสม เชื่อมั่นต่อนโยบายกัญชาของรัฐบาล ที่ยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นศูนย์กลาง ทั้งทางการแพทย์รักษาโรคและเศรษฐกิจ ปากท้องของชาวบ้าน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ลดอำนาจรัฐที่เคยใช้กฎหมายปิดกั้นโอกาสของประชาชนและเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ควรเร่งส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันการใช้ประโยชน์ต่อยอดภูมิปัญญาพื้นบ้านกัญชาของคนไทยทั้งการเตรียมดินที่ปลอดสารพิษ การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทางการเกษตรที่ดีกระบวนการผลิตและการตลาด รณรงค์กัญชาที่เป็นคุณประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า การเลือกใช้ประโยชน์จากนโยบายกัญชาที่ดีจะสำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่ควรจะรู้จักกัญชา ใช้กัญชา ให้เหมือนกับการใช้มีด ที่ทุกคนรู้จักใช้ประโยชน์และป้องกันไม่ให้มีดบาดมือ และน่าจะช่วยกันรณรงค์ให้เกิดความภูมิใจในกัญชาให้เป็นสมบัติชาติและสมบัติของประชาชนที่อยู่คู่แผ่นดินไทยมาช้านาน หมอยาพื้นบ้านและภูมิปัญญาไทยเป็นภาพสะท้อนได้ดีว่า กัญชาเพื่อใคร เพื่อชาวบ้านคนตัวเล็กตัวน้อย หรือผู้มีอำนาจทุน อำนาจรัฐ ที่ควรหันมาร่วมมือกันผลักดันนโยบายกัญชาที่ดีให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชาติบ้านเมืองและประชาชน

“ที่น่าห่วงคือ การเตะตัดขากันทางการเมืองของนักการเมืองและกลุ่มนายทุนใหญ่มุ่งทำลายนโยบายกัญชาที่ดีของประชาชนคนตัวเล็กตัวน้อยของสังคมไม่ให้ได้ประโยชน์จากการปลดล็อกกัญชาตามศาสตร์ภูมิปัญญาไทย ยิ่งไปกว่านั้นคือ ทุนต่างชาติที่เข้ามุ่งฉกฉวยกัญชาสมบัติชาติไทย ไม่ต้องการให้คนไทยพัฒนาเพื่อความมั่นคงทางยา จากกัญชาของคนไทยเอง แต่ต้องการให้คนไทยพึ่งพานำเข้ายาจากกัญชาที่ต่างชาติหรือบรรษัทข้ามชาติเป็นเจ้าของที่คนไทยคนตัวเล็กตัวน้อยต้องตกเป็นทาสหรือเบี้ยล่างใช้ยาแพงเหมือนที่เป็นอยู่เวลานี้ ดังนั้น มองเหรียญสองด้านของนโยบายกัญชาของรัฐบาลอย่างเข้าใจ เลือกใช้ด้านที่เป็นคุณเพื่อประโยชน์สำหรับชาวบ้านคนตัวเล็กตัวน้อยได้พึ่งพาตนเองเพราะแต่เดิมในอดีตอันช้านานมา กัญชา คือสมุนไพรที่คนไทยและหมอยาพื้นบ้านในชุมชนชนบท ปลูกและใช้และรู้ว่าใช้อย่างไรจึงเหมาะสมพอดี” ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘นิพิฏฐ์’ เล่าทานข้าว ‘ชวน’ เปรยสมัยนี้คนกล้าพูด เพื่อความถูกต้องมีไม่กี่คน

นิพิฏฐ์เล่าแวะไปทานข้าวมื้อเที่ยงกับท่านชวน หลีกภัย ที่บ้านของท่าน ที่จ.ตรัง เพื่อรายงานเรื่องบางเรื่องให้ท่านทราบ

แฉ!ใกล้เลือกตั้งท้องถิ่น นักการเมืองฉวยใช้งบภาษี ปชช. แฝงสร้างคะแนนนิยม

นับถอยหลังเลือกตั้งท้องถิ่น นักการเมืองที่ทำการเมืองเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน เพื่อปกป้องธุรกิจที่มีอยู่

เครือข่ายกัญชา จ่อบุกยุติธรรม หวดหนัก 2 รมต.สร้างความวิบัติไม่ใช้ข้อเท็จจริงกำหนดนโยบาย

“เครือข่ายกัญชา” จ่อบุกกระทรวงยุติธรรม 6 มีนาคม นี้ จี้  2 รมต. แจงต่อสาธารณะด้วยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เทียบชัด ๆ คุณ-โทษ กัญชา สุรา ยาบ้า และบุหรี่  อัดไม่ใช้ความรู้กำหนดนโยบาย

'ซูเปอร์โพล' ชี้ประชาชนพอใจให้โอกาส 'เศรษฐา' บริหารประเทศให้อยู่ครบวาระ

สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง ประเมินผลงานรัฐบาล 6 เดือน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศอายุ 18 ปีขึ้นไป

ห่วงรีบร้อน 'MOU 44' เค้นคอนักการเมือง อย่าเห็นแก่ได้ทุรยศแผ่นดิน

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และอดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าทุรยศแผ่นดิน

'หมอวรงค์' เปิดใจ! ทำไมต้องมี 'พรรคไทยภักดี'

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ทำไมต้องมีพรรคไทยภักดี คำถามที่หลายคนต้องการคำตอบ เพื่อความชัดเจนว่า ทำไมต้องมีพรรคไทยภักดี ตั้งใจอ่านให้จบนะครับ