2 ส.ค.2565 - น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบในหลักการโครงการพัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม และอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 งบกลางรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการพัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม ภายในกรอบวงเงิน 1,249 ล้านบาท
โดยมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินโครงการ คาดว่าจะเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 12,490 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 3 เดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2565
สำหรับวัตถุประสงค์ของโครงการคือ การส่งเสริมและพัฒนาคนในชุมชนให้มีองค์ความรู้และทักษะที่จำเป็นในการประกอบอาชีพ และพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนเพื่อขับเคลื่อนฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ กลุ่มเป้าหมายแยกเป็น กลุ่มผู้รับประโยชน์โดยตรง จะเป็นคนในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ได้แก่ ผู้ประกอบการOTOP กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ประชาชนที่เกี่ยวข้อง ผู้ที่ถูกเลิกจ้างและกลับคืนถิ่น ตลอดจนประชาชนที่สนใจเพิ่มทักษะองค์ความรู้ให้ตนเองกว่า 700,000 คน และผู้รับประโยชน์โดยอ้อม จะมีชุมชนอย่างน้อย 400 พื้นที่ทั่วประเทศได้รับการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระดับชุมชนท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็งภายหลังโควิด 19
น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ในการดำเนินโครงการนี้จะจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพพื้นฐานและทักษะอาชีพที่จำเป็นต่อการประกอบธุรกิจ แบ่งเป็น 4 หลักสูตร ดำเนินการผ่านศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค 12 แห่ง และส่วนกลางคือที่กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย หลักสูตรที่ 1 พัฒนาทักษะอาชีพพื้นฐานด้านการผลิต เช่น กลุ่มอาชีพการทำของใช้ในครัวเรือน ไม้กวาดทางมะพร้าว น้ำยาล้างจ้านเป็นต้น จำนวน 350,000 คน วงเงิน 529.9 ล้านบาท
หลักสูตรที่ 2 พัฒนาทักษะอาชีพพื้นฐานด้านการบริการ เช่น กลุ่มอาชีพช่าง ซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซ่อมรถ ซ่อมแอร์ ช่างเย็บผ้า ตัดผม จำนวน 40,000 คน วงเงิน 67.56 ล้านบาท
หลักสูตรที่ 3 พัฒนาด้านผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์หรืออัตลักษณ์และแบรนด์สินค้า เพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่น สอดรับกับความต้องการของของตลาดและสามารถกระจายสินค้าและบริการได้อย่างกว้างขวาง จำนวน 270,000 คน วงเงิน 476.28 ล้านบาท และ
หลักสูตรที่ 4 พัฒนาต่อยอดทักษะที่จำเป็นต่อการประกอบธุรกิจ เช่น การบริหารจัดการเงินในภาคครัวเรือนหรือ ภาคธุรกิจ การจัดทำแผนธุรกิจ การบัญชี การตลาด เป็นต้น จำนวน 40,000 คน วงเงิน 48.56 ล้านบาท และมีค่าบริหารจัดการโครงการ เช่น ค่าประชาสัมพันธ์โครงการ ค่าใช้จ่ายในการจัดประชุม ได้แก่ ค่าเบี้ยเลี้ยง ที่พัก พาหนะ ค่าใช้จ่ายในการติดตามและประเมินผลโครงการ ค่าเปิดตัวโครงการ(Kick Off) ค่าจ้างเหมาบุคลากรเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน วงเงิน 126.99ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข้องใจ 'นายกฯอิ๊งค์' รู้หลักบริหารประเทศแค่ไหน?
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อุ๊งอิ๊ง รู้หลักบริหารประเทศแค่ไหน?
ยันขยับภาษี ‘ดีเซล-เบนซิน’ ไม่กระทบราคาขายปลีกน้ำมัน
“สรรพสามิต” ยืนยันขยับภาษีน้ำมันดีเซล-เบนซิน ขึ้น 1 บาทต่อลิตร ไม่กระทบราคาขายปลีกน้ำมัน เหตุมีการปรับลดเงินนำส่งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลง หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกชะลอต่อเนื่อง
มท. ลุยแก้กฎหมาย รองรับใช้ 'ตม.6' ออนไลน์ ตั้งแต่ 1 พ.ค.
มหาดไทยปรับปรุงกฎหมายรองรับการใช้ ตม.6 ออนไลน์ ตั้งแต่ 1 พ.ค. 68 อำนวยความสะดวกส่งเสริมการท่องเที่ยวภาคเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ
สาดงบฉ่ำๆ 7.4 พันล้าน รองรับภัยแล้ง 2,478 รายการ กระจายถ้วนหน้า 4 กระทรวง
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.อนุมัติตามที่สำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เสนอ เรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 68 ใช้งบกลางเพื่อการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริการจัดการทรัพยากรน้ำ
ครม. เห็นชอบ ไทย-กัมพูชา ทำเอ็มโอยูร่วมมือแก้มลพิษข้ามแดน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบ และอนุมัติตามที่
ปิดศูนย์ 7 วันอันตรายสงกรานต์ ดับ 253 ศพ อุบัติเหตุ 1,538 ครั้ง เทียบปี 67 ลดลง 25%
'อนุทิน' ขอบคุณทุกภาคส่วน ร่วมป้องกันลดอุบัติเหตุทางถนนช่วง 7 วันอันตราย สงกรานต์ 68 ยอดอุบัติเหตุรวม 1,538 ครั้ง เสียชีวิต 253 ราย บาดเจ็บ 1,495 คน ลดลงจากปี 67 เกือบ 1 ใน 4