ข่าวดี! ครม.เคาะแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาล่วงละเมิดทางเพศ

ครม.ผ่านร่างแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาล่วงละเมิดทางเพศ บูรณาการทุกภาคส่วน สังคมต้องไม่เพิกเฉย

21 ธ.ค.2565 - นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ครม.เห็นชอบเห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศ ระยะ 6 ปี (พ.ศ. 2565 - 2570) ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันนำไปขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติให้บรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

แผนปฏิบัติการดังกล่าว ได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ เช่น เครือข่ายการทำงานสตรี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานภาครัฐ ประกอบด้วย 3 กลยุทธ์ คือ กลยุทธ์ที่ 1 ปรับความรู้และทัศนคติของสังคม มี 3 เป้าหมาย คือ 1.ปรับระบบความคิดที่ไม่เพิกเฉยต่อปัญหาการข่มขืนกระทำชำเรา ล่วงละเมิดทางเพศ และลดมายาคติของสังคม เช่น อบรมถ่ายทอดความรู้และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย กลไกการป้องกัน และสิทธิคุ้มครองตามกฎหมาย ปรับเนื้อหาหลักสูตรโปรแกรม การสอนเพศวิถีให้เข้าใจง่ายและเหมาะสมกับผู้เรียนและประชาชนทั่วไป 2.สร้างกลไกการป้องกันที่มีคุณภาพ และเฝ้าระวังความรุนแรงทางเพศ การข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศ และ 3.สร้างพื้นที่สาธารณะที่ปลอดภัย เช่น กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะ และจัดให้มีช่องทางการร้องทุกข์ แจ้งข้อมูลพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัย/พื้นที่เสี่ยง

กลยุทธ์ที่ 2 ปรับปรุงระบบงานเพื่อสร้างความเป็นธรรม มี 2 เป้าหมาย คือ 1.ผู้เสียหายได้รับการคุ้มครองสิทธิและสวัสดิภาพ เข้าถึงบริการที่เป็นมิตรและเป็นธรรม เช่น พัฒนาระบบการให้บริการบำบัด ฟื้นฟู และเยียวยา 2.ปรับพฤติกรรมผู้กระทำความผิดและป้องกันการกระทำผิดซ้ำ เช่น จัดทำฐานข้อมูลบันทึกประวัติผู้กระทำความผิด เพิ่มมาตรการลงโทษในคดีเกี่ยวกับเพศ โดยใช้ยาเพื่อปรับฮอร์โมน

กลยุทธ์ที่ 3 ปรับมาตรการทางวินัย กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายมี 3 เป้าหมาย คือ 1.ปรับปรุงเนื้อหาของกฎหมายคุ้มครองสิทธิและสวัสดิภาพผู้เสียหายในความผิดเกี่ยวกับเพศ เช่น เผยแพร่ความรู้ด้านกฎหมายและเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม 2.ปรับกระบวนการยุติธรรม เพื่อคุ้มครองสิทธิและสวัสดิภาพของผู้เสียหายให้มีประสิทธิภาพ เช่น ปรับปรุงระบบการสอบสวน จัดทำคู่มือมาตรฐานและแนวทางที่เหมาะสมในการนำเสนอข่าว และ 3.มีมาตรการให้สามารถลงโทษทางวินัยร้ายแรงแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ล่วงละเมิดทางเพศ เช่น สนับสนุนให้ผู้หญิงเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการสอบสวนวินัย จัดทำแนวทางการกำหนดโทษทางวินัยร้ายแรง

นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า ผลสำรวจสถานการณ์ความรุนแรงต่อเด็ก และผู้หญิงพิการ ปี 2564 พบว่า ผู้หญิงถูกล่วงละเมิด ไม่น้อยกว่า 7 คน/วัน ขณะที่มีผู้หญิงที่เข้ารับการบำบัดรักษา แจ้งความร้องทุกข์ ประมาณปีละ 30,000 ราย จึงเป็นเรื่องที่สังคมทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันเพื่อการป้องกันและแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างยั่งยืน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วราวุธ' ชี้ปมน้องไนซ์เชื่อมจิต ส่งทีมประเมินสภาพจิตใจ ยึดพรบ.คุ้มครองเด็ก

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์กรณีความคืบหน้า กระทรวง พม. กับ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ. ) ดำเนินการตรวจสอบเรื่องน้องไนซ์เชื่อมจิ

14 พ.ค.ได้ลุ้น คกก.ค่าจ้างฯ ถกค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ

'คารม' ย้ำขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ พิจารณาอย่างเหมาะสมและรอบคอบ เผย 14 พ.ค.นี้ คกก.ค่าจ้างฯ เตรียมประชุมพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ

รัฐบาลกวักมือเรียกผู้กู้ กยศ.ที่ถูกดำเนินคดีเร่งปรับโครงสร้างหนี้ด่วน!

รัฐบาลเชิญชวน ผู้กู้ยืม กยศ. ถูกดำเนินคดีในปี 2557 ที่ยังมีภาระหนี้ค้าง เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อขยายระยะเวลาชำระหนี้ ปลดภาระผู้ค้ำประกัน

ไฟเขียวเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ ไม่ถือเป็นวันลา!

รัฐบาลร่วมแสดงความจงรักภักดี และถวายพระราชกุศล เห็นชอบให้รัฐวิสาหกิจ ลาเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ โดยไม่ถือเป็นวันลา

รัฐบาลห่วงยอดโควิดพุ่ง แต่ขอให้มั่นใจโรงพยาบาลพร้อมรับมือ!

'เกณิกา' เผยรัฐบาลห่วงใยยอดโควิดยังพุ่งหลังสงกรานต์ ขอให้ประชาชนมั่นใจโรงพยาบาลทุกแห่งมีความพร้อมรับมือผู้ป่วยโควิด แนะใส่หน้ากากอนามัยในพื้นที่แออัด รีบตรวจ ATK หากมีอาการคล้ายหวัด