5 ข้อควรคำนึง 'โควิด-19' เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย

31 ธ.ค.2565 - ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan มีเนื้อหาดังนี้

“โควิด 19 ข้อคำนึงการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ”

ขณะนี้เป็นเวลา 3 ปีแล้วในการระบาดของ covid 19 ความรุนแรงของโรคลดลงมาโดยตลอด ทั้งนี้เพราะประชากรส่วนใหญ่ติดเชื้อไปแล้ว ร่วมกับการฉีดวัคซีน เช่นเดียวกับประเทศไทย มีการติดเชื้อไปแล้วไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 แต่ก็ยังมีการฉีดวัคซีน 3 เข็ม เพียงร้อยละ 40 เท่านั้น

สิ่งที่จะต้องคำนึงในการเดินทางของนักท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศไทย

1.ประชากรทั่วโลก มีการติดเชื้อไปแล้วเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่มีการฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมาก และไม่เกี่ยวกับชนิดของวัคซีน เช่นในญี่ปุ่น เกาหลี ขณะนี้ติดเชื้อวันละเป็นแสนเสียชีวิตหลายร้อยคนต่อวัน ผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ทั่วโลกขณะนี้ มีอาการน้อย หรือจำนวนมากไม่มีอาการ และเป็นการยากที่จะตรวจกรองผู้เดินทางได้หมด การฉีดวัคซีนทั่วโลกครบ 3 เข็ม ไม่น่าจะถึงร้อยละ 10 ของประชากร 7,000 ล้านคน

2.สายพันธุ์ในแต่ละประเทศมีความจำเป็นมาก ที่จะต้องรู้ ประเทศไทยได้มีการระบาดสายพันธุ์โอมิครอนตั้งแต่ BA.1 จนถึง BA.4/5 และขณะนี้ เป็น BA.2.75 ซึ่งการระบาดตามหลังประเทศทางตะวันตก โดยเฉพาะอเมริกาและยุโรป สายพันธุ์ได้เดินหน้าก่อนเรา ซึ่งขณะนี้เป็น BQ.1 และ BQ.1.1 ซึ่งทั้ง 2 สายพันธุ์จะดื้อต่อวัคซีนเพิ่มขึ้น แต่ความรุนแรงไม่ได้เปลี่ยนแปลง เราเองก็ยังไม่อยากที่จะให้สายพันธุ์ BQ.1 และ BQ1.1 เข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทย แต่ในที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น เพราะเราไม่สามารถที่จะตรวจกรองได้หมด ในอดีตสายพันธุ์ที่พบในประเทศไทยจะตามหลังทางตะวันตกมาโดยตลอด

3.การเข้มงวดในแต่ละประเทศที่จะเดินทางเข้ามา จะต้องคำนึงถึงสายพันธุ์ โดยเฉพาะเป็นสายพันธุ์ที่ ประเทศไทยไม่มี และมีแนวโน้มที่จะมีการระบาดง่าย ถ้าสามารถป้องกันได้ ก็จะลดความเสี่ยงของเราลงได้

4.สิ่งที่สำคัญจึงต้องรู้เขารู้เรา ว่าประเทศต้นทางกำลังระบาดด้วยสายพันธุ์อะไรอยู่ ถ้าประเทศต้นทางเป็น BA.4, BA.5 หรือ BA.2.75 ซึ่งประเทศไทยได้ระบาดผ่านไปแล้ว และประชากรส่วนใหญ่ก็มีภูมิต่อสายพันธุ์นี้แล้ว ความวิตกกังวลก็จะน้อยลง

5.การควบคุมการเดินทางหรือมาตรการต่างๆที่จะเกิดขึ้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้หลักวิทยาศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ในแง่สายพันธุ์ ความรุนแรงของแต่ละสายพันธุ์ การดื้อต่อระบบภูมิต้านทาน ที่จะมาแพร่กระจายได้ง่าย จึงจำเป็นที่จะต้องมีข้อมูลอย่างละเอียดร่วมในการตัดสินใจ

หมายเหตุ ข้อมูลจาก Asahi Shimbun ญี่ปุ่นวันที่ 26 ธันวาคม กล่าวไว้ว่า สายพันธุ์ที่พบในจีน ที่ปักกิ่งเป็น BF.7 ซึ่งเป็นลูกของ BA.5 และสายพันธุ์ที่ระบาดทั่วประเทศจีนขณะนี้เป็น BA.5.2 ส่วนสายพันธุ์ที่กำลังระบาดอย่างมากในประเทศญี่ปุ่นคือ BF.7 และ BA.5.2 เช่นเดียวกัน

สิ่งที่สำคัญในการป้องกันการระบาดและลดความรุนแรง สำหรับประเทศไทย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปกป้องคนไทย ด้วยการสร้างภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีน และแนวทางการปฏิบัติสุขอนามัย เป็นเกราะกำบัง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอยง' ถูกนำภาพไปหลอกขายยา โพสต์เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และราชบัณฑิต โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว

'นพ.ธีระ' แนะยังต้องป้องกันตัวเองเพราะไทยมีผู้ติดโควิดระดับเกินพันต่อวัน

'หมอธีระ' เผยตัวเลขล่าสุดจากองค์การอนามัยโลก โอมิครอนยึดแล้ว 99.6% โดยสายพันธุ์ที่แรงที่สุดยามนี้คือ XBB.1.5 เผยไทยยังพบผู้ติดเชื้อใหม่ในระดับเกินพันต่อวัน

'นพ.ธีระ' ชี้เป็นความท้าทายในการอยู่กับโควิด19 ซึ่งย่างเข้าสู่ปีที่ 4

'หมอธีระ' ชี้เป็นความท้าทายของโควิด-19 ที่ย่างเข้าสู่ปีที่ 4 ว่าเราจะอยู่กันอย่างไร ย้ำใช้ชีวิตประจำวันโดยใส่ใจเรื่องสุขภาพ ในขณะที่ด้านวิทยาศาสตร์ก็ต้องเร่งศึกษาวิจัย

WHO ชี้ยอดสังเวยโควิดลดลง 8%ในรอบ 4 สัปดาห์

'หมอธีระ' เผย WHO ออกรายงานโควิด ชี้ผู้เสียชีวิตในรอบ 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาลดลงกว่าช่วงก่อนหน้าราว 8% โดยทวีปอเมริกา- แอฟริกา-เมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกยังแรงอยู่

ผลวิจัยเมืองผู้ดีแนะผู้ฉีดวัคซีนเชื้อตายควรกระตุ้นด้วย mRNA

'หมอธีระ' อัปเดตโควิด-19 บอกในจีนน่าจะมีคนติดเชื้อแล้ว 181 ล้านคน! ผลวิจัยเมืองผู้ดีแนะผู้ฉีดวัคซีนเชื้อตายควรกระตุ้นด้วย mRNA