นายกฯ หารือผู้บริหารสโมสรฟุตบอลบาเยิร์น มิวนิก


4 เม.ย 2567 - ที่ห้อง 206 อาคารรัฐสภา นายมิชาเอล ดีเดอริช (Mr. Michael Diederich) รองประธานกรรมการบริหารสโมสรฟุตบอลบาเยิร์น มิวนิก (FC Bayern München AG) พร้อมนาย Roy Makaay นักฟุตบอลในตำนานของสโมสรฯ เข้าเยี่ยมคารวะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง

โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญจากการหารือว่า
นายกฯยินดีที่รองประธานกรรมการบริหารสโมสรฟุตบอลบาเยิร์น มิวนิก (FC Bayern München AG) ได้มาเยือนประเทศไทย และได้พบหารือในวันนี้ โดยสโมสรฟุตบอลบาเยิร์น มิวนิก นับเป็นสโมสรฟุตบอลชั้นนำของเยอรมนีและของโลก และยินดีที่ทราบว่ามีความสนใจขยายธุรกิจมายังภูมิภาคเอเชีย โดยได้จัดตั้งสำนักงานในประเทศไทย เมื่อปี 2565 หวังว่าจะได้ร่วมมือกันมากขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะด้านการฝึกอบรมฟุตบอลสำหรับเยาวชนไทย

นายชัย กล่าวว่า ด้านรองประธานกรรมการบริหารสโมสรฯ ได้ยินดีที่ได้มาเยือนไทย สโมสรฟุตบอลบาเยิร์น มิวนิก มีแฟนคลับ และเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ได้ร่วมมือกับพันธมิตรจัดตั้งสำนักงานในไทยเมื่อปี 2565 ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพและความเหมาะสมของไทยในการขยายธุรกิจเพิ่มเติมในอนาคต และเพื่อกระชับความสัมพันธ์กับแฟนคลับในไทย และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นายชัย กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงการขยายโอกาสทางธุรกิจในไทย โดยรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางของบริษัทต่างชาติ มีสิทธิประโยชน์ในการลงทุน รวมถึงนโยบาย long term visa รวมถึงไทยมีความได้เปรียบทางด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ ซึ่งสโมสรฯ จะได้หารือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อศึกษารายละเอียด โดยนายกฯหวังว่าจะได้กระชับความร่วมมือกับสโมสรฯ เพิ่มเติม โดยเฉพาะความร่วมมือในการฝึกอบรมนักฟุตบอล และบุคลากรในวงการฟุตบอลไทยให้มีฝีมือและทักษะในระดับโลก

ทั้งนี้ ทางสโมสรบาเยิร์น มิวนิค ได้มอบเสื้อฟุตบอลชุดเหย้าให้นายกฯ โดยสกรีนชื่อสกุลของนายเศรษฐา ว่า Thavisin พร้อมหมายเลข10 ซึ่งเป็นเบอร์เสื้อของรอย มาคาย สมัยที่ยังค้าแข้งกับสโมสรแห่งนี้ และยังได้มอบเสื้อสโมสรชุดทีมเยือนพร้อมลายเซ็นนักฟุตบอลให้นายกฯ อีกด้วย

ขณะที่ นายเศรษฐา โพสต์ผ่าน X ระบุว่า “พบคุณมิชาเอล ดีเดอริช (Michael Diederich) รองประธานกรรมการบริหารสโมสรฟุตบอลบาเยิร์น มิวนิก (FC Bayern München AG) ซึ่งทางสโมสรมีประสบการณ์สร้างหลักสูตรการพัฒนาฟุตบอลให้เด็กๆ ในหลายประเทศ และมีความสนใจมาพัฒนาฟุตบอลโปรแกรมในเมืองไทย

นี่คือโอกาสดีที่ไทยเราจะได้มีความร่วมมือกับสโมสรฟุตบอลระดับโลก ในการดึงบริษัทสปอนเซอร์ของสโมสรมาลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาเยาวชนไทยเรื่องฟุตบอล และถ้าในอีก 5 ปี ข้างหน้าสามารถส่งเสริมผลักดันให้เยาวชนไทยไปเล่นลีคเยอรมันได้ จะเป็นฝันที่เป็นจริงเลยครับ”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สเปอร์ส' ตกลงขาย 'เคน' ไปบาเยิร์น หลังได้ข้อเสนอมูลค่า 95 ล้านปอนด์

"ไก่เดือยทอง" ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ บรรลุข้อตกลงปล่อยตัว แฮร์รี เคน กองหน้าตัวเก่งไปให้กับ บาเยิร์น มิวนิก เรียบร้อยแล้ว ด้วยค่าตัวราว 95 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 4.2 พันล้านบาท

'บาเยิร์น' ไม่ยอมแพ้ล่า 'เคน' ร่วมทัพ ยื่นข้อเสนอใหม่มูลค่าเกือบ 100 ล้านปอนด์

"เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิก ยังไม่ละความพยายามที่จะดึงตัว แฮร์รี เคน หัวหอกทีมชาติอังกฤษ ไปล่าตาข่ายในศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี ถึงแม้ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ จะยืนยันว่าพวกเขาต้องการค่าตัวไม่ต่ำกว่า 100 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 4,400 ล้านบาท

'ทูเคิล' ยอมรับตรงๆ อยากได้ 'เคน' ร่วมทัพ 'เสือใต้' ซัมเมอร์นี้

โธมัส ทูเคิล เฮดโค้ชชาวเยอรมันของทีม บาเยิร์น มิวนิก ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่ากองหน้าระดับ แฮร์รี เคน ใครก็อยากจะได้ตัวไปร่วมทีม หลัง "เสือใต้" มีข่าวเชื่อมโยงกับดาวยิงทีมชาติอังกฤษรายนี้ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

'บาเยิร์น' ปิดดีลคว้าตัว 'คิม มิน แจ' คุมแนวรับ เซ็นสัญญายาว 5 ปี

"เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิก ทีมแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี ฤดูกาลล่าสุด ประกาศคว้า คิม มิน แจ ปราการหลังชาวเกาหลีใต้มาร่วมทัพเป็นที่เรียบร้อย หลังบรรลุข้อตกลงกับ นาโปลี ยักษ์ใหญ่จากกัลโช เซเรีย อา อิตาลี เซ็นสัญญากัน 5 ปี

'ทูเคิล' เดินทางพบ 'เคน' ถึงบ้าน ถกชวนย้ายซบ 'เสือใต้' ล่าแชมป์แรกในอาชีพ

โธมัส ทูเคิล กุนซือคนเก่งของทีม "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิก เดินทางไปพบกับ แฮร์รี เคน กองหน้า ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการย้ายทีม ตามรายงานข่าวจาก "บิลด์" สื่อชื่อดังของประเทศเยอรมนี

'คิม มิน แจ' หักอก 'ผีแดง' เลือกซบ 'บาเยิร์น' ค่าตัว 43 ล้านปอนด์

คิม มิน แจ ปราการหลังชาวเกาหลีใต้ของนาโปลี หักอก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และกำลังจะย้ายไปร่วมทีม บาเยิร์น มิวนิก แชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี ด้วยค่าตัว 43 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1,930 ล้านบาท