ทุบสถิติ! คนกรุงใช้สิทธิ 74% 'ก้าวไกล' กวาด 32 เขต พท. 1 ที่นั่ง

15 พ.ค. 2566 – เมื่อเวลา 02.20 น. นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยความคืบหน้าการนับคะแนนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ว่า ขณะนี้รวมคะแนนแล้วเสร็จทั้ง 33 เขตเลือกตั้ง สำหรับการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต มีประชาชนผู้มาใช้สิทธิ 74.28% จำนวนบัตรดี 95.58% บัตรเสีย 1.46% และบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 2.96% โดยผลอย่างไม่เป็นทางการ เบื้องต้น ส.ส. แบ่งเขต อันดับ 1 ได้แก่ พรรคก้าวไกล 32 เขต อันดับ 2 ได้แก่ พรรคเพื่อไทย 1 เขต

ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนซึ่งเริ่มปฏิบัติงานกันตั้งแต่เวลา 04.00 น. จนกระทั่งตอนนี้ ด้วยความเสียสละ ทุ่มเท และขอขอบคุณประชาชนชาวกรุงเทพฯ ที่ใส่ใจและออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้ ซึ่งมีจำนวนมากกว่าปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เมื่อปี 2550 กรุงเทพมหานครมีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 4,139,894 คน มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต จำนวน 2,871,827 คน คิดเป็น 69.37% มาใช้สิทธิเลือกตั้งส.ส.แบบสัดส่วน จำนวน 2,808,911 คน คิดเป็น 67.85% เมื่อปี 2554 ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 4,260,951 คน มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต จำนวน 3,059,551 คน คิดเป็น 71.80% มาใช้สิทธิเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 3,059,476 คน คิดเป็น 71.80% และเมื่อปี 2562 ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 4,489,223 คน (หน่วยเลือกตั้ง 6,149 หน่วย) มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 3,255,232 คน คิดเป็น 72.51%

ด้าน นายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง กล่าวว่า ในกรณีของสำนักงานเขตบางพลัด ประเด็นที่ผู้สมัครหรือตัวแทนผู้สมัครพรรคการเมืองขออนุญาตเข้าไปไลฟ์ (แพร่ภาพสด) ในสถานที่ซึ่งเป็นห้องประมวลผลคะแนน เจ้าหน้าที่ไม่สามารถอนุญาตให้เข้าไปได้ เนื่องจากเป็นการไม่สะดวกต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการประมวลผล ประเด็นต่อมาคือข้อสงสัยเรื่องการประกาศผลรวมคะแนนนั้นจะให้สำเนาไปหรือเป็นเอกสารไปได้หรือไม่ ในส่วนนี้สามารถเปิดเผยได้ เป็นผลคะแนนที่ต้องประกาศให้รับทราบโดยทั่วไปอยู่แล้ว โดยประขาชนสามารถเข้ามาตรวจสอบได้ทางเว็บไซต์ของกรุงเทพมหานครภายใน 5 วัน

ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการนับคะแนนสามารถดำเนินการตามระเบียบว่าด้วยการเลือกตั้งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปี 2566 ข้อ 163 เรื่องการทักท้วงการนับคะแนน คือให้ผู้ที่สงสัยยื่นแบบทักท้วงตามแบบ ส.ส. 5/10
และเมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งกลาง ตรวจสอบแล้วว่าการเลือกตั้งนั้นมีความสุจริตและเที่ยงธรรม จะดำเนินการประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันเลือกตั้ง (14 พ.ค. 66) หลังจากนั้น จะเริ่มเรียกประชุมรัฐสภาครั้งแรกภายใน 15 วัน นับตั้งแต่ประกาศผลการเลือกตั้ง

สำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิ โดยมีเหตุจำเป็น อาทิ ต้องเดินทางไปยังพื้นที่ห่างไกล เจ็บป่วยและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ เป็นผู้พิการหรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้ เป็นผู้ที่พักอาศัยอยู่ต่างประเทศ พักอาศัยห่างไกลจากหน่วยเลือกตั้งเกินกว่า 100 กิโลเมตร ได้รับคำสั่งจากทางราชการให้ปฏิบัติหน้าที่นอกเขตเลือกตั้ง หรือเหตุผลอื่นๆ ต้องไปแจ้งเหตุภายในวันที่ 21 พ.ค. 66 โดยทำหนังสือชี้แจงเหตุที่ทำให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ได้ ระบุเลขบัตรประจำตัวประชาชนและที่อยู่ตามทะเบียนบ้านให้ชัดเจน ยื่นต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่นที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน โดยสามารถยื่นด้วยตนเองหรือมอบหมายผู้อื่น หรือส่งผ่านทางไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือแจ้งทางแอปพลิเคชัน “Smart Vote” หรือแจ้งทางเว็บไซต์ www.bora.dopa.go.th

ผู้ที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร เลือกตั้งล่วงหน้า หรือเลือกตั้งวันจริง 14 พ.ค. จะต้องแจ้งเหตุไปไม่ใช้สิทธิด้วย ไม่เช่นนั้นจะเสียสิทธิบางประการ ดังนี้ 1.ยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งส.ส. 2.ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมัครรับเลือกเป็นส.ว. 3.สมัครรับเลือกเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้าน 4.ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองและข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง และ 5.ดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยจะถูกจำกัดสิทธิ ทำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นเวลาสองปี นับแต่วันเลือกตั้งที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มท.2 ลั่นแบล็กลิสต์ผู้มีอิทธิพลคืบมาก แซะ 'เจ๊เจี๊ยบ' อยู่บัญชีคนสวยปากจัด

ไม่เลิกเจอแน่! 'ชาดา' แจงทำแบล็กลิสต์ผู้มีอิทธิพลคืบหน้ามาก ลั่นใครถูกกาหัวเป็นมาเฟีย ต้องโดนตรวจสอบครอบครองอาวุธปืน บอกติดตลก ‘เจี๊ยบ ก้าวไกล’ อยู่ในบัญชีคนสวยปากจัด

สัญญาณไม่ดี! ทำไม 'พิธา' บอก 'ชัยธวัช' ไม่ใช่ผู้นำขัดตาทัพ

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ทำไมนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ต้องบอกว่า นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล

ชัยธวัชมา-ปดิพัทธ์..? กับทางออก เก้าอี้รอง ปธ.สภาฯ

ก่อนที่ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะนำชื่อ ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลคนใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อให้ทรงแต่งตั้งเป็น ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ทางประธานสภาฯ คงรอให้ได้ข้อยุติในเชิงข้อกฎหมายเสียก่อน ถึงจะนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย

‘ไอติม’ ร่ายแผนก้าวไกล ชูทลาย 5 มายาคติ ดันฝ่ายค้านเปลี่ยนแปลงปท.

‘พริษฐ์’ร่ายแผนก้าวไกล ใช้กลไกสภาขับเคลื่อนความหวัง-ความฝันของปชช. หวังทลายมายาคติ 5 ข้อ ลั่น แม้เป็นฝ่ายค้านก็เปลี่ยนแปลงประเทศได้