เพื่อไทยยิ้มร่า! 8 พรรคฉายหนังม้วนเก่า ส่งชื่อ 'พิธา' ให้ ส.ว. เชือดรอบ 2

มติ 8 พรรคร่วม ส่งชื่อ "พิธา" ชิงนายกฯต่อ ชี้ยังไม่มีชื่อสำรองหากวืดเก้าอี้ มั่นใจสว.ที่ไม่ได้มาโหวตรอบแรกจะสนับสนุนเสียงเพิ่ม ไม่กังวลศาลตัดสินหุ้นสื่อ

17 ก.ค.2566 - เวลา 18.30 น. ที่อาคารไทยซัมมิท นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยแกนนำพรรคร่วมอีก 7 พรรค อาทิ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายทวี สอดส่อง เลขาธิการ พรรคประชาชาติ, พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช พรรคเสรีรวมไทย, นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม, นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย, นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง และตัวแทนจากพรรคพลังสังคมใหม่

โดยนายพิธากล่าวภายหลังการหารือของ 8 พรรคร่วมในวันนี้ ว่า การหารือของ 8 พรรคร่วมในวันนี้ มีข้อสรุปอยู่ 3 ข้อ ได้แก่ 1.วันที่ 19 ก.ค.ที่จะถึงนี้ 8 พรรคมีมติส่งตนเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย 2.การหารือในเรื่องเกี่ยวกับการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ของพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลได้เสนอเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอีก 7 พรรคที่เหลือ 3.หารือในข้อบังคับรัฐสภา ข้อที่ 41 ที่มีกระแสข่าวว่าวุฒิสภา (ส.ว.) จะตีความตามข้อบังคับข้างต้น ซึ่งในที่ประชุมมีความเห็นทางกฎหมายว่าไม่น่าจะเข้าข่าย เป็นเรื่องเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ไม่เกี่ยวกับข้อบังคับแต่อย่างใด ไม่ถือว่าเป็นญัตติ ในการเสนอชื่อผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่อาจจะมองเห็นต่างกับส.ว.ในเรื่องนี้ อีกทั้งยังมีการเตรียมการในส่วนของรายละเอียดในการเข้าสู่วันที่ 19 ก.ค.ที่จะถึงนี้

เมื่อถามว่า จะตั้งหลักอย่างไร หากวันที่ 19 ก.ค. มีเสียงสนับสนุนไม่เพียงพอ นายพิธา กล่าวว่า อย่างที่ได้แถลงผ่านวิดีโอไป หากสมรภูมิแรก ถ้าคะแนนไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เราก็พร้อมที่จะถอยให้กับประเทศชาติ ถอยให้พรรคอันดับ 2 ที่อยู่ใน MOU ร่วม ซึ่งก็คือพรรคเพื่อไทย ขณะเดียวกันยังมีเรื่องของม.272 ที่ได้ยื่นเข้าไปแล้ว และต้องบรรจุภายใน 15 วัน ซึ่งต้องมาดูกันอีกทีว่าเป็นการเสนอของพรรคก้าวไกลเพียงพรรคเดียว ไม่ได้ผูกมัดกับพรรคอื่น

เมื่อถามต่อว่า หากมีการตีความตามข้อบังคับรัฐสภา ที่ทำให้ไม่สามารถเสนอชื่อนายพิธาซ้ำได้ ทาง 8 พรรคจะดำเนินการอย่างไรในวันนั้น นายพิธา กล่าวว่า มีข้อสรุปในทางกฎหมายเพียงฝ่ายของเรา พรุ่งนี้จะมีการประชุมวิปอีกครั้ง ซึ่งถ้ามีการประชุมวิปก็น่าจะเห็นตรงกัน

เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ของพรรคร่วม ในขณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง นายพิธา กล่าวว่า เป็นไปได้ด้วยดี มีความพยายามที่จะตั้งรัฐบาลของประชาชนให้ได้ จึงมีมติที่จะเสนอชื่อตนเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง

ซักว่า มีความต้องการเสียงสนับสนุนจากพรรคชาติไทยพัฒนา หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่เป็นมติของ 8 พรรค

ถามอีกว่า ได้มีการเตรียมชื่อสำรองไว้หรือไม่ กรณีที่ชื่อของนายพิธาไม่สามารถเสนออีกต่อไปได้ นายพิธา กล่าวว่า ยังไม่มี ยังเป็นชื่อตนเพียงคนเดียวอยู่

เมื่อถามถึงความคืบหน้าของการหาเสียงสนับสนุนจากส.ว. ในการโหวตให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี นายพิธา กล่าวว่า หลังจากวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการพูดคุยกับส.ว. โดยมีทั้งคนที่ไม่ได้มาร่วมโหวตออกเสียงในวันนั้น ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะโหวตสนับสนุน

ถามต่อว่านายพิธาได้ต่อสายตรงคุยกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ท้อเท็จจริงและท่าทีเป็นอย่างไร นายพิธากล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่หารือถึงประเด็นทางการเมืองกับเพื่อนส.ส. และส.ว. ในสภา หรืออยากจะหาข้อมูลก็จะมีการพูดคุยกัน ไม่มีการเชิญเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งที่มีกระแสข่าวออกมาว่าคุยกับทุกพรรค ยกเว้นพรรคลุง ได้มีโอกาสพูดคุยว่าสถานการณ์นี้มีความคิดเห็นอย่างไร เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมือง ไม่มีการโทรไปขอคะแนนเสียง ยืนยันเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนทางการเมือง ไม่มีการพูดถึงเรื่องการขอเสียงสนับสนุน เป็นเรื่องปกติที่มีการคุยกับหัวหน้าพรรคทุกพรรค ไม่ใช่มาเริ่มพูดคุยสัปดาห์นี้ ส่วนที่มีรายงานข่าวว่านายพิธาโทรไปเพื่อขอคะแนนเสียงนั้น นายพิธากล่าวว่า ยังไม่เห็นรายละเอียด เป็นแค่การหารือประเด็นการเมือง

ซักว่า การโหวตนายกฯ ครั้งที่ 2 หากตัวเลขไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญก็จะมีการวางมือให้พรรคอันดับ 2 ส่วนตัวเลขที่มีนัยยะสำคัญจะเป็นตัวเลขที่เท่าไหร่ นายพิธากล่าวว่า ตนคิดว่าถ้าให้เหมาะสมต้องเพิ่มขึ้นเป็น 344-345 เสียง ก็น่าจะเป็นตามลักษณะนี้ ไม่ได้ตั้งใจที่จะกั๊กไว้ว่าเป็นนัยยะสำคัญที่ไม่ได้คิดตัวเลขไว้ในใจ ก็จะเป็นตัวเลขที่ไม่ฝืนสายตาประชาชน ส่วนการโหวตนายกฯ รอบ 2 ที่จะมีการเสนอชื่อนายกฯ แข่ง มีการประเมินเรื่องนี้อย่างไรนั้น จากที่ได้ฟังสัมภาษณ์จากพรรคเสียงข้างน้อย ทุกคนพูดว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหนเาพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายอนุชา นาคาสัย ส.ส.ชัยนาท พรรค รทสช. จากที่เห็นในสื่อก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้ ส่วนเสียงที่จะได้เพิ่มมาในการโหวตนายกฯ ครั้งที่ 2 จะเป็นทั้งจากส.ว. และส.ส. ก็ต้องรอดูด้วยกัน ตนก็ยังทำงานในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ได้ทิ้งไปและตนยังสู้อยู่

กระแสข่าวว่าจะมีการเสนอชื่อพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แข่งนายกฯ สามารถรวมเสียงได้หรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ต้องฝากนักข่าวไปถามพล.อ.ประวิตร ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีการเรียกส.ส.ไปพูดคุยเพื่อซื้องูเห่านั้น ทางฝั่งของพรรค ก.ก. ได้ติดตามและคอยเช็กตลอด มั่นใจว่าทุกคนได้รับบทเรียนของการเป็นงูเห่า ยืนยันว่าพรรค ก.ก. ไม่มี และคิดว่าทางพรรค พท. ก็จะเป็นแบบนั้นเช่นกัน

เมื่อถามถึงกรณีหากพรรค ก.ก. ยอมถอยเรื่องแก้ไขมาตรา 112 เพื่อให้พรรคอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมายกมือโหวตให้ นายพิธากล่าวว่า ในมุมของตน สิ่งที่ตนคิดว่ามาตรา 112 เป็นข้ออ้างที่อยู่ข้างหน้า แต่ว่าข้างหลังก็คงมีหลายเรื่อง ตามที่สื่อมวลชนวิเคราะห์ในหลายรายการ ก็เห็นตรงกันว่าจริง ๆ แล้วมีหลายเรื่องที่จะไปมีผลกระทบต่อสัมปทานและผลประโยชน์การปฏิรูปกองทัพ กอ.รมน. ที่พรรค ก.ก. ต้องการ ที่จะให้ถ่างออกจากการเมืองให้ได้ ซึ่งเชื่อว่ามาตรา 112 ก็เป็นเรื่องที่อ่อนไหว เป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่าง คิดว่าถ้าเรื่องนี้หายไปเรื่องอื่นก็จะมาอีกทาง เรื่องที่สำคัญคือตนต้องการที่จะรักษาคำพูด ก่อนหาเสียงพูดไปอย่างไร หลังหาเสียงก็ไม่ใช่ว่าต้องการที่จะเข้าสู่อำนาจด้วยทุกวิถีทาง ถ้าเป็นเรื่องที่มีน้ำหนักจริงก็อาจจะคิด แดต่ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องที่มีน้ำหนักเท่ากับเรื่องต่างๆ ที่อาจจะไปกระทบต่อผลประโยชน์ของแต่ละคน

ถามถึงการรับมืออย่างไรหากถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน นายพิธากล่าวว่า ผลจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ ไม่ได้ทำให้ความเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของตนหายไป เมื่อเทียบกับกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ในขณะนั้น ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลใจแต่อย่างใด

 

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

’พิธา‘ ยัน ’ก้าวไกล‘ ไม่ได้ฉกฉวยหวังผลการเมือง จากการเสียชีวิตของ 'บุ้ง ทะลุวัง'

’พิธา‘ ยัน ’ก้าวไกล‘ ไม่ได้ฉกฉวย หวังผลการเมือง วอนสังคมตั้งสติ รอฟังข้อเท็จจริง ปม ’บุ้ง‘ เสียชีวิต พร้อมสื่อสารนักกิจกรรม-เยาวชน เอาชีวิตตัวเองก่อนการต่อสู้ บอกเป็นห่วง ’ตะวัน‘

‘พิธา‘ คุยหาก ’ก้าวไกล‘ เป็นรัฐบาล สามารถเปลี่ยนระเบิดเวลามาจุดศักยภาพประเทศไทย

‘พิธา‘ เทียบหาก ’ก้าวไกล‘ เป็นรัฐบาล จะเปลี่ยนระเบิดเวลามาจุดศักยภาพประเทศเป็นโอกาส ด้าน ’วีรยุทธ‘ แจงเตรียมงานนาน ไม่เกี่ยวจัดชน ‘เดือนที่ไม่รอ ไปต่อให้เต็ม 10’

’พิธา‘ ยัน ‘ก้าวไกล’ มีเจตนาดี ‘แก้ม.112’ ย้ำไม่ได้ล้มล้างการปกครอง

’พิธา‘ ขู่ พรรคที่จ้องจะดูด สส. บอกไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่รู้เรื่อง ยัน ‘ก้าวไกล’ มีเจตนาดี ‘แก้ม.112’ หวังสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง ปชช.สถาบันฯ ไม่ได้ล้มล้างการปกครอง

'บุ้ง ทะลุวัง' สังเวยการเมือง บีบรัฐบาลเพื่อไทยเร่งคลี่คลายสถานการณ์

การเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร เสน่ห์ หรือ บุ้ง ทะลุวัง จากอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ระหว่างถูกคุมขังที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์

'คารม' แจง ป.ป.ช. พยานคดี สส.ก้าวไกล แก้ 112 ชี้นิรโทษยกเข่งรอดหมด

'คารม' แจง 'ป.ป.ช.' ในฐานะพยาน ปม สส.ก้าวไกล ลงชื่อแก้ ม.112 พร้อมถามใครเจ้ากี้เจ้าการ เชื่อนิรโทษล้างผิดยกเข่ง 'ผู้นำจิตวิญญาณ - สส.พรรคส้ม' รอดหมด

'ชัยธวัช' โทษการไม่ให้สิทธิประกันตัว 'บุ้ง' ต้นเหตุอดอาหารตาย ปัด 'ก้าวไกล' อยู่เบื้องหลัง

'ชัยธวัช' ชวนสังคมมองต้นเหตุของโศกนาฏกรรม ‘บุ้ง ทะลุวัง‘ คือการไม่ให้สิทธิประกันตัว ยัน 'ก้าวไกล' ไม่ได้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหว