คาดฝุ่นพิษปี 66 พุ่งจากสภาพอากาศ

คาดการณ์ฝุ่นพิษปี 66 สูงจากสภาพอากาศหนาวเย็น ลมสงบ บวกแห้งแล้งจากลานีญา เปิดมาตรการรับมือช่วง ธ.ค. 65 – เม.ย.66

8 พ.ย.2565 – นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานมอบนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ปี 2566 โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยผู้แทนจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 76 จังหวัด เข้าร่วมรับฟังนโยบาย โดย คพ. ได้สรุปภาพรวมสถานการณ์ฝุ่นละอองที่ดีขึ้นเมื่อเทียบปีที่ผ่านมาทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและ 17 จังหวัดภาคเหนือ รวมถึงจำนวนจุดความร้อนของประเทศไทย 3 ปีที่ผ่านมา มีจำนวนลดลงถึง 80% 

นายวราวุธ กล่าวว่า การคาดการณ์แนวโน้มฝุ่นละอองปี 2566 สถานการณ์อาจมีแนวโน้มสูงกว่าปีที่ผ่านมาอันเนื่องมาจากสภาพอุตุนิยมวิทยาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้จนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2566 จะมีสภาพเพดานการลอยตัวอากาศต่ำ สภาวะอากาศที่นิ่ง ลมสงบ สอดคล้องกับกรมอุตุนิยมวิทยาที่คาดการณ์ว่าจะมีอากาศหนาวเย็น ปริมาณฝนน้อย และเป็นไปในทิศทางเดียวกับการคาดการณ์ของศูนย์พยากรณ์สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกาที่คาดว่าปรากฎการณ์ “ลานีญา” จะเริ่มน้อยลง หรือมีสภาวะแห้งแล้งมากขึ้น ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แหล่งกำเนิดของฝุ่น PM2.5 ยังคงมีปริมาณเท่าเดิมต่อเนื่องทุกปี แต่เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงนี้จะมีความกดอากาศ อากาศนิ่ง ลมสงบ ทำให้ปริมาณฝุ่นไม่สามารถระบายออกได้เกิดการสะสมของฝุ่นแหล่งกำเนิดฝุ่นละอองหลักเกิดจากการจราจรและรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล สำหรับมาตรการรับมือในปี 2566 ขอความร่วมมือผู้ประกอบการค้าน้ำมันจัดจำหน่ายน้ำมันที่มีปริมาณกำมะถันต่ำในช่วงเดือนธันวาคม-เมษายน ผู้ประกอบการยานยนต์จัดกิจกรรมตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องในราคาพิเศษ และเข้มงวดกับการตรวจควันดำรถยนต์ของหน่วยงานราชการที่เข้มข้นกว่ารถทั่วไป 

นายวราวุธ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ภาคเหนือ การประเมินจำนวนจุดความร้อนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่า จำนวนจุดความร้อนลดลงไปกว่า 80% ส่งผลให้ปริมาณเชื้อเพลิงที่สะสมอยู่ในพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น จึงขอให้เร่งจัดการเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเผา เร่งดำเนินโครงการชิงเก็บ ลดเผา เปลี่ยนเชื้อเพลิงเหล่านั้นให้มาเป็นเชื้อเพลิง RDF หรือเพิ่มมูลค่า ซึ่งจะช่วยลดปริมาณเชื้อเพลิงและการเกิดไฟป่า ส่วนพื้นที่การเกษตร ให้มีการเคาะประตูบ้านเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเผาเพื่อไม่ให้มีการเผา และการรับมือหมอกควันข้ามแดน ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของประเทศไทย สิ่งที่ทางประเทศไทยจะดำเนินการคือการส่งเอกสารไปยังสำนักงานเลขาธิการอาเซียนในการขอความร่วมมือไปยังรัฐบาลประเทศต่างๆ นอกจากนี้ ยังขอฝากแนวทางให้ภาคราชการ ภาคเอกชน และสื่อมวลชนทำความเข้าใจกับประชาชนในประเด็นที่เกี่ยวกับการรายงานข้อมูลสถานการณ์ที่เป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อไม่ให้ประชาชนรับทราบข้อมูลที่คลาดเคลื่อน จนอาจสร้างความตื่นตระหนก หรือแหล่งกำเนิด PM2.5 ที่ทุกคนมีส่วนร่วมในการระบาย  


นายปิ่นสักก์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5 เป็นปัญหาที่รัฐบาลให้ความสำคัญและมีการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง ตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” อีกทั้งได้มีการยกระดับความเข้มงวดการดำเนินงานในทุกปี โดยการจัดทำเป็นแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ตั้งแต่ปี 2564 จนถึงปัจจุบันซึ่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ได้ให้ความเห็นชอบแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2566 โดยในปีนี้ มุ่งเน้นยกระดับความเข้มงวดการดำเนินงานภายใต้หลักการ 3 พื้นที่ ได้แก่  พื้นที่เมือง พื้นที่ป่า และ พื้นที่เกษตรกรรม 7 มาตรการ ตามกรอบ “สื่อสารเชิงรุก ยกระดับปฏิบัติการ สร้างการมีส่วนร่วม” ดังนี้1.เร่งรัดการประชาสัมพันธ์เชิงรุกและแจ้งเตือนล่วงหน้า 7 วันทุกพื้นที่2.ยกระดับมาตรการการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” และแผนอื่นที่เกี่ยวข้อง3.ยกระดับการบริหารจัดการเชื้อเพลิงแบบครบวงจร (ชิงเก็บ ลดเผา และ Burn Check)4.กำกับดูแลการดำเนินการในทุกระดับอย่างเข้มงวด ติดตามผลการดำเนินการและประเมินสถานการณ์เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง5.ลดจุดความร้อน ป้องกันและควบคุมการเกิดไฟในทุกพื้นที่ และพัฒนาระบบพยากรณ์ความรุนแรงและอันตรายของไฟ (Fire Danger Rating System : FDRS)6.ผลักดันกลไกระหว่างประเทศ เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนมีประสิทธิภาพสูงสุด7.ให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนและดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละออง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เชียงใหม่วิกฤต! ฝุ่น PM2.5 ทะลุ 400 เกินค่ามาตรฐาน 22 เท่า

ปํญหาหมอกควันไฟป่าภาคเหนือและเชียงใหม่กลับมาวิกฤต! พุ่งสูงอีกระลอกทะลุ 400 ความเข้มข้น PM2.5 เกิน 22 เท่าค่ามาตรฐาน รั้งอากาศแย่ที่ 5 โลก

'นาซา' นำเครื่องบินเก็บตัวอย่างอากาศเหนือน่านฟ้าไทย แก้ฝุ่นพิษในระยะยาว

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.)(NARIT) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ร่วม NASA ศึกษาปัญหามลภาวะอากาศในไทย ภายใต้โครงการ Airborne and Satellite Investigation of Asian Air Quality หรือ ASIA-AQ เก็บตัวอย่างอากาศเหนือน่านฟ้าไทย

ฝนตกทั่วบึงกาฬ ช่วยลดฝุ่นหมอกควัน อากาศดีในรอบปี ไทย-ลาวเดินเรือขนส่งสะดวก

ที่จังหวัดบึงกาฬ เช้าวันนี้สภาพอากาศดีมาก ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไร้หมอกควันฝุ่นละอองขนาดเล็ก หลังตลอด 2 วันที่ผ่านมา พายุฤดูร้อนได้นำพาฝนมาตกในพื้นที่ทั้ง 8 อำเภอของจังหวัดบึงกาฬ ช่วยลดฝุ่นและหมอกควันลงได้มาก โดยเช้าวันนี้ ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ สวนสาธารณะหนองบึงกาฬ ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ที่วัดโดยกรมควบคุมมลพิษ ค่าฝุ่น PM2.5 เช้าวันนี้ วัดได้ 6.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) ค่าคุณภาพอากาศโดยรวม AQI (Air Quality Index) อยู่ที่ 11 อยู่ในเกณดีมาก (สีฟ้า)

รัฐบาลซัดกลับ 'พิธา' ไม่รู้กาลเทศะ จ้องด้อยค่านายกฯ

'รองโฆษกรัฐบาล' ย้ำชัดรัฐบาลมีแผนป้องกันภัยชัดเจน ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติต้องรอบคอบ โต้กลับ 'พิธา' ไม่รู้กาลเทศะ จ้องด้อยค่านายกฯ ดิสเครดิต รบ.