9 วัดเมืองกรุงเก่าต้องไป ต่อยอด’ลิซ่า’

อยุธยาสุดคึกคักด้วยบรรยากาศนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติมาชื่นชมโบราณสถานที่มากมายด้วยเรื่องราวและบันทึกประวัติศาสตร์แห่งอโยธยา  ความเป็นเมืองเก่ามีเรื่องเล่าขานมานานยังเป็นมนต์เสน่ห์ของเมืองอยุธยา  ยิ่งตอนนี้ท่องเที่ยวอยุธยามีสีสันมากขึ้น เกิดปรากฎการณ์ตามรอยลิซ่า แบล็คพิงค์ เที่ยวอยุธยา ศิลปินนักร้องชื่อดังระดับโลกไม่ไปแบบธรรมดา ใส่ผ้าซิ่นเป็นผ้าฝ้ายหมักโคลนย้อมครามแดนอีสาน ถือดอกไม้ธูปเทียนไหว้พระ  เป็นที่สนใจของคนทั่วโลก เกิดกระแสเที่ยววัดที่ลิซ่าแวะ มีวัดแม่นางปลื้ม  วัดหน้าพระเมรุราชิการาม  และวัดมหาธาตุ  ฟีเวอร์ไม่แพ้นักท่องเที่ยวแห่ตามรอยลิซ่าเที่ยวปราสาทพนมรุ้งเหมือนในเอ็มวี

อธิบดี ศน. พาทัวร์ไหว้พระอยุธยาตามลิสต์โครงการ”มหัศจรรย์วัดไทย”

กรมการศาสนา (ศน.) กระทรวงวัฒนธรรม ไม่ตกเทรนด์ จัดเส้นทางไหว้พระ 9 วัดเมืองกรุงเก่า ชวนเที่ยววัดตามรอยลิซ่า แต่ไม่ได้มีแค่ 3 วัดนะ มีถึง 9 วัดใน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ไม่ควรพลาด เพราะเป็นวัดสำคัญที่มีความงดงามสุดๆ และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ติดในลิสต์โครงการ “มหัศจรรย์วัดไทย” ที่ ศน. รวบรวมวัดที่เป็นศูนย์กลางของคนในชุมชนทั่วไทยที่มีความพร้อมด้านสถาปัตยกรรม พระพุทธรูปประจำวัด สภาพภูมิทัศน์ เอกลักษณ์เฉพาะที่โดดเด่น เอกลักษณ์ท้องถิ่น และได้รับความนิยมจากศาสนิกชนทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 250 แห่ง

วัดแม่นางปลื้ม วัดเก่าแก่สร้างสมัยอยุธยา

เส้นทางไหว้พระ 9 วัดเมืองกรุงเก่า วันเดย์ทริปครั้งนี้ นำทัพบุกเมืองกรุงเก่า ท้าแดด  โดยชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา  “ ลิซ่า แบล็คพิงค์  ศิลปินชื่อดังระดับโลก โพสต์ภาพสวมชุดไทยไหว้พระ กราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่วัดหน้าพระเมรุ วัดมหาธาตุ และวัดแม่นางปลื้ม อยุธยา ถือได้ว่าเป็นพลังขับเคลื่อน Soft power ที่สำคัญของไทย ปลุกกระแสการท่องเที่ยวในมิติศาสนา ส่งผลให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวตามรอย “ลิซ่า” เที่ยววัดสวมชุดไทยไหว้พระกันอย่างคับคั่ง  สอดรับกับโครงการ “มหัศจรรย์วัดไทย”ที่กรมขับเคลื่อนในปีนี้ ตามนโยบายส่งเสริม soft power ของกระทรวงวัฒนธรรม “ นายชัยพล กล่าวขณะพาคณะเยี่ยมชมวัดแรก วัดหน้าพระเมรุราชิการาม  วัดสำคัญของอยุธยา

ปักหมุดวัดหน้าพระเมรุราชิการาม

วัดหน้าพระเมรุราชิการาม เชื่อว่า เป็นวัดเดียวในพระนครศรีอยุธยาที่ไม่ถูกพม่าข้าศึกเผาทำลายเสียหาย   ความงามของวัดหน้าพระเมรุฯ ที่ปรากฎเบื้องหน้าเรา เป็นสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาที่ยังสมบูรณ์ พระอุโบสถฐานแอ่นแบบสำเภา ยาว 50 เมตร กว้าง 16 เมตร เป็นแบบอยุธยาแท้ๆ ตรงข้ามกับพระราชวังหลวง สันนิษฐานเดิมเป็นสถานที่สร้างพระเมรุถวายพระเพลิงพระบรมศพของกษัตริย์พระองค์ใดพระองค์หนึ่งสมัยอยุธยาตอนต้น  อีกความสำคัญประดิษฐาน ”พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ”  ขึ้นชื่อเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยอยุธยาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ปรากฏในปัจจุบัน  ใครได้ยลต้องตะลึงกับความงดงามและสมบูรณ์ ปิดทองอร่ามตา ส่วนที่วิหารเล็กเราไปกราบหลวงพ่อศิลาสมัยทวารวดีอายุมากกว่า 1,300 ปี

งดงามพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยอยุธยาที่วัดหน้าพระเมรุราชิการาม

วัดที่สอง อธิบดี ศน. พาตามรอย ณ  วัดแม่นางปลื้ม วัดนี้สร้างสมัยอยุธยา แล้วยังมีตำนานผูกโยงกับตำนานพระนเรศวรมหาราช เล่าขานกันว่า วันหนึ่งพระนเรศวรทรงพายเรือโดยลำพัง เกิดฝนตก พระองค์หาสถานที่หลบฝน พบเรือนหลังหนึ่ง ซึ่งมีหญิงชรานั่งอยู่และขอขึ้นไปพักบนเรือน พร้อมขอเหล้ากินแก้หนาว นางปลื้มบอกว่า อย่าเสียงดัง พระเจ้าแผ่นดินไม่ชอบให้กินเหล้าวันพระ พระนเรศวรประทับใจ เชิญแม่นางปลื้มเข้าวัง ยกย่องให้เป็นผู้ที่ซื่อสัตย์จงรักภักดี ทรงสถาปนาวัดชื่อวัดแม่นางปลื้ม เป็นตัวแทนความกตัญญูต่อแผ่นดิน

ไหว้หลวงพ่อขาววัดแม่นางปลื้ม เสริมมงคล

เราเดินเที่ยวชมวัด เข้าไปไหว้หลวงพ่อขาว พระพุทธรูปขนาดใหญ่อายุ 646  ปี เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต  เช็คอินถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ที่วัด พระครูปลัดสวัสดิ์ สิริวฑโฒ เจ้าอาวาสวัดขึ้นป้ายไหว้พระ 9 วัด ขอบคุณโยมลิซ่า และคณะที่มาไหว้พระ  ขอให้ร่ำรวย เป็นมหาเศรษฐี   อายุยืน 100 ปี  อ่านแล้วก็ยิ้มตาม

นุ่งซิ่นตามรอยลิซ่าเข้าวัดแม่นางปลื้ม

จากนั้นเที่ยวชมวัดมหาธาตุ โบราณสถานเก่าแก่ที่มีสภาพสมบูรณ์ ภายใต้บรรยากาศร่มรื่น เป็นวัดหลวงกลางใจเมือง ถือเป็นสะดือของกรุงศรีอยุธยาก็ไม่ผิด ความโดดเด่นนอกจากร่องรอยความรุ่งเรืองของสถาปัตยกรรมวัด เจดีย์ พระปรางค์โบราณแล้ว มีแลนด์มาร์คที่ทุกคนไม่พลาด เป็นเศียรพระพุทธรูปเก่าที่มีรากไม้ปกคลุม ดูแล้วน่าอัศจรรย์ ที่นี่มีพระปรางค์องค์ใหญ่งดงามด้วยศิลปะอยุธยาตอนต้นผสมผสานศิลปะขอม ต่อมาสมัยพระเจ้าปราสาททองได้บูรณะพระปรางค์ให้สูงยิ่งขึ้น        ใจกลางพระปรางค์พบหีบศิลาข้างในบรรจุผอบเงิน ผอบทอง และผอบแก้วสีม่วงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ปัจจุบันอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุไปประดิษฐานที่พิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา อยุธยา  วัดนี้มีบรรยากาศตามรอยคนดัง สาวไทยสวนผ้าซิ่นสวยงามถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

ดื่มด่ำกับโบราณสถานวัดมหาธาตุ วัดสำคัญอยุธยา

เช้าถึงเที่ยงเราตามรอยครบ 3 วัดดังแล้ว ไปอิ่มอร่อยเติมพลังกับเมนูกุ้งเผาอยุธยา เนื้อแน่น เด้งๆ น้ำจิ้มแซบที่ตลาดกลางอยุธยา ก่อนจะลุยต่อกับวัดต่างๆ ในเส้นทางไหว้พระ 9 วัดเมืองกรุงเก่า ชื่นชมความงามของสถาปัตยกรรม พร้อมสักการะพระพุทธรูปประจำวัด  ประกอบด้วยวัดตะโก ไหว้หลวงพ่อสมหวังในอุโบสถ เพื่อให้ชีวิตสมหวังทุกประการ พร้อมกราบสักการะสังขารที่ไม่เน่าเปื่อยของ “หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก” พระเกจิอาจารย์ผู้เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมสูงแห่งอยุธยาฯ  

อธิบดี ศน. นำทีมปิดทองหลวงพ่อรวยที่วัดตะโก  

สายบุญไปต่อที่วัดท่าการ้อง ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ นามว่า “พระพุทธรัตนมงคล” หรือ “หลวงพ่อยิ้ม”  แล้วเดินทางไปวัดนิเวศธรรมประวัติ พระอุโบสถคล้ายโบสถ์ศาสนาคริสต์ ถือเป็นโบสถ์สวยในอยุธยาที่ต้องไปเยือนสักครั้ง ภายในประดิษฐานพระประธาน “พระพุทธนฤมลธรรมโมภาส”

สักการะสังขารที่ไม่เน่าเปื่อย ‘หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก’

พิกัดต่อมา วัดพนัญเชิง ไหว้“พระพุทธไตรรัตนนายก” หรือที่คนนิยมเรียก หลวงพ่อโต หนึ่งในพระพุทธรูปปูนปั้นงดงามคู่บ้านคู่เมืองอยุธยามาแต่อดีต ชาวจีนนับถือ นิยมเรียกท่านว่า ซำปอกง หมายถึง แก้วสามประการ หรือพระรัตนตรัย ภายในพระอุโบสถวัดมีพระพุทธรูปสำคัญ 3 องค์ คือพระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปปูน และพระพุทธรูปนาค

บรรยากาศนักท่องเที่ยวคึกคัก เพลิดเพลินกับเส้นทางเที่ยววัดสวย

อีกวัดสวย วัดกษัตราธิราช ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธกษัตราธิราช ผู้คนมักไปขอพรเรื่องเมตตามหานิยม ตลอดจนเสริมบารมีในหน้าที่การงาน สายมูจะมากราบพระพุทธชนะมารและนิยมไปห่มผ้าขอพรให้ได้รับความสุข เสริมสิริมงคล ค้าขายรุ่งเรือง ไร้อุปสรรค

วัดสะตือ ต้องห้ามพลาด  สร้างในสมัย ร. 5 ปี  ภายในวัดโดดเด่นด้วย “พระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่” หรือ หลวงพ่อโต ประดิษฐานอยู่หน้าวัด มีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวแวะเวียนมากราบไหว้สักการะไม่ขาดสาย  รวมถึงมีพระปรางค์นาคปรกสมัยทวาราวดี มีรอยพระพุทธบาทจำลองอายุ 100 ปี

เศียรพระพุทธรูปเก่าที่มีรากไม้ปกคลุม มหัศจรรย์ที่วัดมหาธาตุ

ส่วนวิหารพระมงคลบพิตร ประดิษฐาน “พระมงคลบพิตร” มีขนาดหน้าตักกว้าง 9.55 เมตร และสูงถึง 12.45 เมตร นับเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่องค์หนึ่งในประเทศไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นพลังความเชื่อทางศาสนาที่ไม่อาจจะแยกออกได้จากอุดมคติในทางสังคมและการเมือง ทั้งเป็นประจักษ์พยานถึงความรู้ในเรื่องเกี่ยวกับศาสตร์แห่งโลหะและความสามารถในการหล่อโลหะโดยเฉพาะสำริดซึ่งเป็นโลหะที่สำคัญที่สุดชนิดหนึ่งในสมัยอยุธยา

ยังมีอีกหลายวัดที่ไม่ได้ไป ด้วยเวลาจำกัด อย่างวัดหน้าต่างนอก กราบสักการะ “หลวงพ่อจง พุทธสโร” เกจิแห่งยุคสงครามอินโดชื่อดัง ซึ่งเป็นที่โจษจันกันว่าทหารที่พกเสื้อยันต์ ตระกุดของหลวงพ่อ เมื่อถูกยิงล้มลง แต่กลับลุกขึ้นมายืนได้อีก  ภายในวัดยังมีพระธาตุเจดีย์ศรีบางไทร ซึ่งมีดรรชนี (นิ้วชี้) ของหลวงพ่อจงบรรจุในสถูปเจดีย์เพื่อให้บูชา  นอกจากนี้คนแห่มาสักการะท้าวเวสสุวรรณ หรือ ท้าวกุเวน ขอพรร่ำรวยอีกด้วย และวัดบึงลัฏฐิวัน ชวนชมความสวยงามของ “พระมหาเจดีย์ศรีอยุธยาสัมมาสัมโพธิญาณ” สีขาวบริสุทธิ์ที่ตั้งอยู่กลางวัด ภายในมีพระบรมสารีริกธาตุ พระพุทธปรินิพพาน และภาพจำลองของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเทวดาและพระพุทธรูปงดงาม 

ไหว้พระขอพรท่องเที่ยวมิติศาสนา

ก่อนจบทริป“เส้นทางไหว้พระ 9 วัดเมืองกรุงเก่า” กลับกรุงเทพฯ อธิบดี ศน. บอกกับเราว่า หวังให้เป็นกิจกรรมที่นักท่องที่ยวได้เปิดประสบการณ์ สัมผัสมนต์เสน่ห์ความงดงามของวัดต่างๆ ที่โดดเด่นทั้งความเชื่อ ความศรัทธาและเอกลักษณ์ท้องถิ่น  ทำให้วัดสวยในอยุธยาเป็นที่รู้จักมากขึ้น  ส่งเสริมท่องเที่ยวมิติศาสนา เกิดรายได้หมุนเวียนแก่คนในชุมชน ปลุกกระแสเส้นทางจาริกบุญในกลุ่มคนรุ่นใหม่

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

วธ.จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ

25 เม.ย.2567 - นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า เนื่องในโอกาสคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร 29 เมษายน นับเป็นโอกาสอันดียิ่งที่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าจะได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมห

บำเพ็ญกุศลอุทิศถวายบูรพกษัตริย์ งาน242ปี กรุงรัตนโกสินทร์

21 เม.ย.2567 - เวลา 07.00 น. พระเทพวชิรโมลี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช

'ใจถึงธรรมะ' ท่องแดนพุทธภูมิ (1)

เป็นอีกครั้งในชีวิตที่ออกเดินทางไปยังประเทศอินเดียและเนปาล เพื่อค้นหาคำตอบบางอย่าง ซึ่งตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าจะพบมั้ย แต่เชื่อมั่นว่า จะทำให้ตัวเองในฐานะชาวพุทธได้พบกับความสุขสงบในจิตใจและได้เว้นวรรคจากวิถีชีวิตที่เร่งรีบ ห่างไกลจากสิ่งเร้ารอบตัว ตามโปรแกรมจะไปครบทั้ง 4 สังเวชนียสถาน

วธ.ตั้งรองอธิบดีกรมศิลป์-กรมศาสนา 4 ตำแหน่ง

8 เม.ย.2567 - นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้ลงนามคำสั่งกระทรวงวัฒนธรรมที่ 58/2567 เรื่อง ให้โอนข้าราชการพลเรือนสามัญ จำนวน 1 ราย ได้แก่ นางสาวขนิษฐา โชติกวณิชย์

ตามรอยสังเวชนียสถาน แดนพุทธภูมิอันศักดิ์สิทธิ์

เดินทางข้ามพรมแดนไปลุมพินี 1 ใน 4 สังเวชนียสถานที่เนปาล   พระภิกษุและผู้แสวงบุญเข้าสักการะภายในวิหารมายาเทวึ สถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ  รอยพระบาทแรกของพระพุทธเจ้าประทับ ณ สถานที่แห่งนี้ ต่อมาตรัสรู้เป็นพระศาสดาของศาสนาพุทธ

ผู้แสวงบุญอินเดียเพิ่ม ขยายศูนย์ดูแลพุทธศาสนิกชน

ปี 2567 มีพุทธศาสนิกชนชาวไทยไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นคนเดินทางมาจาริกแสวงบุญดินแดนพุทธภูมิ ณ สังเวชนียสถาน ประเทศอินเดีย-เนปาล นำมาสู่แผนการขยายศูนย์อำนวยความสะดวกดูแลผู้แสวงบุญดินแดนพุทธภูมิให้มีเพิ่มมากขึ้น พระมหานิพนธ์ ญาณวีโร