
กรมศาสนาจัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล-บรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนเฉลิมพระเกียรติ 70 พรรษา ถวายพระราขกุศลแด่กรมสมเด็จพระเทพ ฯ เยาวชนทั่วไทยแสนคนร่วมบวชเณรศึกษาธรรมะ
1 เม.ย. 2568 – กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคลและพิธีบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนเฉลิมพระเกียรติถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยนายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมการศาสนา ผู้บริหารหน่วยงานและผู้บริหารสถานศึกษา นาคสามเณร ผู้ปกครอง และพุทธศาสนิกชนเข้าร่วม ณ พระอุโบสถ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ร่วมกับคณะสงฆ์ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทุกจังหวัด ตลอดจนพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศจัดพิธีบรรพชาสามเณรและบวชศีลจาริณีภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2568 ในปีนี้พระองค์ทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา การดำเนินงานโครงการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยมและความเป็นไทย
มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และประชาชน ได้ศึกษา ฝึกฝนอบรมหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจะช่วยให้เกิดค่านิยมเป็นคนดี มีคุณธรรมจริยธรรม มีวินัย จิตสาธารณะ มีความกตัญญู ส่งผลให้เด็ก เยาวชน มีจิตใจที่เข้มแข็งเป็นพลเมืองที่ดี มีคุณภาพ โดยการบวชใช้หลักสูตร ศาสนศึกษาสำหรับผู้บวชระยะสั้นของคณะกรรมการการศึกษาของคณะสงฆ์ พ.ศ. 2539 เป็นหลักสูตรตามมติของมหาเถรสมาคม มติที่ 49/2561 ซึ่งในหลักสูตรประกอบด้วย วิชาธรรม วิชาวินัย วิชาพุทธประวัติ วิชาเทศนา วิชาศาสนพิธีและวิชาภาวนา

นางสาวสุดาวรรณ กล่าวต่อว่า ในส่วนกลาง ได้จัดพิธีบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนเฉลิมพระเกียรติถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ พระอุโบสถ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2568 ถึงวันที่ 15 เมษายน 2568 รวม 15 วัน โดยผู้เข้าร่วมโครงการฯ เป็นกุลบุตรที่สมัครเข้ารับการบรรพชา ซึ่งมีอายุระหว่าง 8 – 18 ปี จำนวน 104 คน หลังจากที่บรรพชาแล้ว ระหว่างวันที่ 2 – 14 เมษายน 2568 สามเณรจะมีการอบรมภาคทฤษฎี โดยมีเนื้อหาวิชาการที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาประกอบด้วย วิชาพุทธประวัติ
วิชาธรรม – ศาสนพิธี วิชาเบญจศีล – เบญจธรรม และวิชาพอเพียง
สำหรับภาคปฏิบัติจะเป็นการฝึกเกี่ยวกับการทำวัตรสวดมนต์เช้า – เย็น ฝึกปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน กิจวัตรบิณฑบาต กิจกรรมส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรม กิจกรรมสนทนาธรรม และกิจกรรมฝึกเทศนาธรรม ณ สำนักปฏิบัติธรรม “ธมฺมรํสี” สาขาวัดพระเชตุพน อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และจะมีพิธีมอบวุฒิบัตรและพิธีลาสิกขา ในวันที่ 15 เมษายน 2568 ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ทั้งนี้ ในส่วนภูมิภาค มีการจัดพิธีบรรพชาสามเณรใน 4 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ บรรพชาสามเณร ณ วัดใหม่กรงทอง จังหวัดปราจีนบุรี ในวันที่ 21 มีนาคม 2568, บวชนาคช้าง เส้นทางสายบุญ หนุนสัมพันธ์ไทย-ลาว ณ วัดอัมพวัน (บ้านหินโคน) จังหวัดบุรีรัมย์ ในวันที่ 26 มีนาคม 2568, บวชลูกแก้วงามสง่า รักษาคุณค่าประเพณี วัดพระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน ในวันที่ 30 มีนาคม 2568 และบรรพชารวมใจไทย-พม่า กราบพระพุทธเสตังคศิลาคู่เมือง ณ วัดสุวรรณคีรีวิหาร จังหวัดระนอง ในวันที่ 7 เมษายน 2568

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับคณะสงฆ์ จังหวัด สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด และสถานศึกษา รวม 72 จังหวัดทั่วประเทศ ดำเนินการจัดกิจกรรมแบบบูรณาการ เน้นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมถึงการนำประเพณีการบวชและศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น การแสดงพื้นบ้าน การท่องเที่ยว และการแต่งกายท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว เมื่อนำมาบูรณาการกันจึงทำให้เกิดทุนทางวัฒนธรรม (Soft Power) ที่สามารถต่อยอดเป็นรายได้ และส่งเสริมความเข้มแข็งให้กับชุมชนท้องถิ่น รวมทั้งความเข้มแข็งของเครือข่ายด้านศาสนาและวัฒนธรรม

ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 กระทรวงวัฒนธรรมมีกรอบแนวคิดขับเคลื่อนนโยบายงานวัฒนธรรมเพื่อเสริมสร้างสังคมเข้มแข็งและสนับสนุนเศรษฐกิจวัฒนธรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยเสริมพลังสร้างสรรค์ให้คน เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวัฒนธรรมและสังคม เพื่อให้เกิดการบูรณาการและมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ให้เกิดภาพความสำเร็จของการบวชในวงกว้างทั่วประเทศ และมหาเถรสมาคมในคราวประชุม ครั้งที่ 4/2568 เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 ได้มีมติที่ 167/2568 เห็นชอบโครงการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยมและความเป็นไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ให้วัดในราชอาณาจักรไทยที่มีความพร้อมจัดกิจกรรมบรรพชาอุปสมบทและบวชศีลจาริณีภาคฤดูร้อน เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน ระหว่างเดือนมีนาคม 2568 ถึงเดือนพฤษภาคม 2568 มอบเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และเจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัด ทั้ง 2 ฝ่าย แจ้งวัดในเขตปกครองที่มีความพร้อมจัดบวชภายในห้วงเวลาดังกล่าว
” ปีนี้คาดว่าจะมีเด็กและเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมทั่วประเทศรวมกว่า 100,000 คน เยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมตามหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาที่มีความเหมาะสมกับวัย ได้เรียนรู้ เห็นถึงคุณค่าและเข้าใจในพระพุทธศาสนาอย่างถูกต้อง อีกทั้งยังได้ฝึกการอยู่ร่วมกันเป็นหมู่เป็นคณะ รู้จักการทำงานเป็นทีม รู้จักการเสียสละ มีจิตอาสา มีน้ำใจ เช่น ช่วยกันล้างจาน ช่วยกันทำความสะอาดที่พัก ช่วยกันห่มจีวร ซึ่งการได้ฝึกอยู่ร่วมกับคนหมู่มากจะสามารถปรับตัวได้ดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น และไม่ก่อปัญหาให้ผู้อื่น เป็นการพัฒนาสติปัญญาและนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ให้เป็นผู้มีความกตัญญูรู้คุณต่อบุพการี ผู้มีอุปการะคุณ รวมทั้งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ส่งผลให้เด็ก เยาวชนเป็นพลเมืองดีของสังคมและประเทศชาติสืบไป ” นางสาวสุดาวรรณ กล่าว
