กมธ.กิจการฯพบแล้วน้ำรั่วรัฐสภาใหม่เหตุออกแบบไม่ครอบคลุมไร้หลังคา-ธรณีประตู สั่งเร่งแก้ไข

ประธานกมธ.กิจการสภาฯเผย อาคารรัฐสภาใหม่ 65 ห้องไม่เป็นไปตามรูปแบบ ส่วนน้ำรั่วเกิดขึ้นจากการออกแบบที่ไม่ครอบคลุม ระหว่างทางเชื่อมอาคารที่ไม่มีหลังคา -ไม่มีธรณีประตู สั่งประสานแก้ไขแล้ว

22 ต.ค.2564 - นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า การประชุมสัปดาห์ที่ผ่านมา กมธ.กิจการสภาฯ ได้ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ตลอดจนประเด็นที่สังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์ถึงความเรียบร้อยสมบูรณ์ของอาคารรัฐสภาที่มีการเผยแพร่ภาพน้ำรั่วซึมหลายจุดภายในอาคาร โดยได้เชิญผู้เดี่ยวข้องเข้าชี้แจง ประกอบด้วย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจการจ้างก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ, ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย, นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชปถัมภ์, ผู้ออกแบบกิจการร่วมค้า สงบ ๑๐๕๑, ผู้แทนกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาบริหารโครงการฯ (CAMA), ผู้แทนกลุ่มนิติบุคคลร่วมทำงาน ATTA ผู้แทนบริษัท ชิโน-ไทยเอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และนายดนุพล แก้วกาญจน์ หรือแจ้ นักร้องชื่อดัง ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ผ่านทางสังคมออนไลน์ เข้าร่วมประชุมในฐานะผู้สังเกตการณ์ด้วย

นายอนันต์ เปิดเผยว่า ผู้เกี่ยวข้องได้ชี้แจงถึงประเด็นปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น อาทิ เรื่องฝาผนังห้องประชุมคณะกรรมาธิการจำนวน 113 ห้อง ได้ดำเนินการติดตั้งเป็นไปตามรูปแบบ จำนวน 48 ห้อง แต่อีก 65 ห้องไม่เป็นไปตามรูปแบบ ซึ่งคณะกรรมการตรวจการจ้างก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ ได้แก้ไขปัญหา โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นสถาบันที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ดำเนินการทดสอบวัดค่ามาตรฐานทางอะคูสติก ของงานผนังกันเสียงและผนังดูดชับเสียงในห้องประชุมกรรมาธิการทั้งหมด ซึ่งปรากฎว่าค่าการทดสอบนั้นผ่านเกณฑ์มาตรฐาน แต่ทั้งนี้ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง รอบด้าน เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จึงสั่งการให้สำนักการคลัง และงบประมาณขอความเห็นเพิ่มเติมจากสำนักกฎหมายและสภาวิศวกรต่อไป

ในส่วนกรณีน้ำรั่วภายในอาคารรัฐสภานั้น นายอนันต์ กล่าวว่า ผู้เกี่ยวข้องชี้แจงว่า เกิดขึ้นจากการออกแบบที่ไม่ครอบคลุมคือ ระหว่างทางเชื่อมอาคารที่ไม่มีหลังคา ประกอบกับประตูทางเข้าอาคารไม่มีธรณีประตู เมื่อเกิดฝนตกหนักจึงส่งผลให้น้ำไหลลงสู่พื้นล่างจำนวนมากและไหลเข้าสู่อาคารรัฐสภา ทั้งนี้ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการปรึกษาบริษัทผู้ออกแบบ ให้ออกแบบหลังคาคลุมเพิ่มเติมระหว่างทางเชื่อม ซึ่งถ้าหากได้ดำเนินการก่อสร้างหลังคาคลุมเรียบร้อยแล้วปัญหาดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น ขณะที่ประเด็นเรื่องจุดเสี่ยงภัยตามที่เป็นข่าวนั้น ข้อเท็จจริงคือ ในขณะนั้นการก่อสร้างอาคารรัฐสภายังไม่แล้วเสร็จ และถ้าหากการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแล้วเสร็จสมบูรณ์ ทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะแจ้งให้สมาคมผู้ออกแบบอาคารมาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งต่อไป

กรณีที่ นายดนุพล แก้วกาญจน์ ในฐานะผู้สังเกตการณ์ ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงต้องย้ายอาคารรัฐสภาไปก่อสร้าง ที่แห่งใหม่คือบริเวณเกียกกาย อีกทั้งยังมีมูลค่าการก่อสร้างที่ค่อนข้างสูงนั้น นายอนันต์ กล่าวว่า ผู้เกี่ยวข้องได้ชี้แจงถึงสาเหตุที่ต้องย้ายอาคารรัฐสภานั้น ก็เพื่อลดความแออัด รวมทั้งข้าราชการและบุคคลในวงงานรัฐสภา ได้ปฏิบัติงานอยู่ตามอาคารสถานที่ต่างๆ ซึ่งเป็นการเช่า จึงส่งผลให้เป็นภาระงบประมาณของแผ่นดิน ประกอบกับการขยายตัวด้านเศรษฐกิจและสังคม จึงต้องดำเนินการย้ายที่ตั้ง อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ จะมุ่งเน้นเป็นอาคารที่ประหยัดพลังงาน บริเวณด้านหน้าอาคารจะเปิดกว้างให้ลมพัดผ่าน และเป็นสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าเทียบเท่าอารยประเทศ ซึ่งจะคงอยู่เป็นหน้าเป็นตากับประเทศไทยไปอีกนานส่วนประเด็นเรื่องมูลค่าการก่อสร้างที่ค่อนข้างสูงนั้น เมื่อเทียบกับงานก่อสร้างอื่นๆแล้ว ถือว่าคุ้มค่า เพราะในทุกๆ ตารางเมตรของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่นั้น จะประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อรองรับการทำงานของสมาชิกรัฐสภา และการมาใช้บริการของ
ประชาชนทุกคน

“หลังได้รับฟังคำชี้แจง คุณดนุพล ก็ยอมรับว่ามีความเข้าใจเหตุผลความจำเป็น และความเหมาะสมของงบประมาณมากขึ้น คุณดนุพลยังได้มีการเขียนข้อความถึงแฟนคลับด้วยว่า รัฐสภาใหม่สวยจริง ไม่แพงดังที่ว่า แต่กยังมีปัญหาอยู่บ้าง ซึ่งส่วนของจุดไหนที่มีความผิดพลาดหรือเกิดความเสียหาย กมธ.กิจการสภาฯก็ได้กำชับให้ผู้เกี่ยวข้องให้รีบเร่งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้เร็วที่สุด” นายอนันต์กล่าว