“มูดีส์” คงความน่าเชื่อถือประเทศไทยที่ Baa1 พร้อมคาดเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 3.4% ชี้นโยบายเศรษฐกิจแข็งแกร่ง ลุ้นโควิดคลี่คลาย-ท่องเที่ยวฟื้นหนุนโตยาว “บิ๊กตู่” ปลื้มต่างชาติมองบวก ลั่นเดินหน้าพัฒนาประเทศสู่เป้าหมาย
เมื่อวันศุกร์ 8 เมษายน นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ให้สัมภาษณ์ว่า บริษัท มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ Baa1 หรือเทียบเท่า BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของไทยที่ระดับมีเสถียรภาพ โดยมูดีส์ระบุว่าไทยมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ มีความหลากหลาย และมีประสิทธิผลของนโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่มีประสิทธิภาพและแข็งแกร่ง ทำให้มีความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจที่จะรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและแรงกระทบที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงในอนาคตได้ ซึ่งมูดีส์คาดว่าในระยะยาวการดำเนินการภายใต้โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จะสนับสนุนการลงทุนเพิ่มขึ้น และการเพิ่มผลผลิตเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
“มูดีส์คาดว่าในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย และภาคการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวขึ้น จึงคาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2565 จะขยายตัวที่ 3.4% และปี 2566 ขยายตัวต่อเนื่องที่ 4.8%” นางแพตริเซียกล่าว และว่า มูดีส์คาดอีกว่าช่วง 2-3 ปีข้างหน้ารัฐบาลจะยังคงดำเนินนโยบายการคลังแบบผ่อนคลาย เพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่มีความเปราะบาง โดยหนี้ภาครัฐบาล ปี 2565-2567 มีแนวโน้มสูงขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่ 52%-54% ของจีดีพี แต่เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวส่งผลทำให้การขาดดุลงบประมาณและภาระหนี้ลดลง ขณะที่สัดส่วนหนี้ภาครัฐบาลสกุลเงินต่างประเทศที่อยู่ในระดับต่ำมาก ประกอบกับเงินออมภายในประเทศมีจำนวนมาก จะทำให้ต้นทุนการกู้เงินต่ำลง ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยคงความสามารถในการชำระหนี้อยู่ในระดับสูง
นางแพตริเซียกล่าวอีกว่า ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้มูดีส์ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยคือ การเพิ่มระดับการลงทุนและขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่การเติบโตของผลผลิตอย่างยั่งยืน ซึ่งอาจช่วยลดผลกระทบจากปัญหาช่องว่างทางทักษะของแรงงานและโครงสร้างประชากรจากสังคมผู้สูงอายุได้ โดยการดำเนินการภายใต้อีอีซีดีกว่าที่คาดการณ์ ขณะที่ปัจจัยสำคัญซึ่งอาจกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือ คือตัวชี้วัดภาคการคลังและหนี้สาธารณะที่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญเกินกว่าที่มูดีส์คาดการณ์ในปัจจุบัน รวมถึงการดำเนินการตามแผนการคลังระยะปานกลาง ตลอดจนปัจจัยทางการเมืองที่อาจส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและภาคการคลังของประเทศ
ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับทราบรายงานจากกระทรวงการคลังถึงกรณีมูดีส์คงอันดับความน่าเชื่อถือของไทย โดยนายกฯ พอใจที่มูดีส์มีมุมมองค่อนข้างเป็นบวกต่อสถานะของไทย พร้อมกันนี้นายกฯ ได้ขอบคุณทุกภาคส่วนและทุกระดับของทั้งภาครัฐ ธุรกิจเอกชน ประชาสังคม ประชาชน ที่ร่วมกันทำงานอย่างหนักขับเคลื่อนประเทศ จนนักลงทุน นักท่องเที่ยว รวมถึงบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือมีความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย และระยะต่อไปจะมุ่งมั่นดำเนินงานตามแผนงานยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทในระดับต่างๆ เพื่อให้การเพิ่มศักยภาพของประเทศ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ลดความเหลื่อมล้ำในมิติต่างๆ ให้เป็นไปตามเป้าหมาย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คุก18ปี24เดือน อดีตผอ.สามเสน โกงค่าแป๊ะเจี๊ยะ
ศาลอาญาคดีทุจริตฯ สั่งจำคุก 18 ปี 24 เดือน "อดีต ผอ.-รอง ผอ.สามเสน"
บี้รบ.เปิดกว้าง ถามประชามติ จับตาเลือกสว.
"วันนอร์" ชี้ร่างแก้ไข รธน. ไม่ทันประชุมสภาวิสามัญ เหตุต้องทำประชามติก่อน
โผพท.ออก3เข้า4รทสช.ยังวุ่น
ปรับ ครม.ฝุ่นตลบ เพื่อไทยลงตัว ออก 3 เข้า 4 ขณะที่ “รทสช.”
โจ๊กพล่านร้องปปช.-ปปง. อึ้งหลอกนายกฯเซ็นคำสั่ง
"โจ๊ก" ดิ้นสุดตัว! เดินสาย "ป.ป.ช.-ปปง." โชว์ความบริสุทธิ์ ยื่นฟันอาญา "พล.ต.อ.ธนา" พร้อม พงส. 200 นาย
รัฐบาลไม่ฟัง‘ธปท.’ ดึงดันดิจิทัล‘เศรษฐพุฒิ’ห่วง4เรื่องใหญ่ทำประเทศเสี่ยง
ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต
ไฟเขียวพ.ร.ฎ.เลือกสว. สมัคร13พ.ค.รู้ผล2ก.ค.
ครม.คลอดร่าง พ.ร.ฎ. เลือก สว. เปิดรับสมัคร 13 พ.ค. ประกาศผล 2 ก.ค.