‘สันติ-เฮ้ง’ชิงเลขาฯ ‘ป้อม’นัดเคลียร์ก่อนถก‘กก.บห.พปชร.’ธรรมนัสดิ้นอยู่ต่อ

“ประยุทธ์” ไม่ตอบนั่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ส่วน “ประวิตร” รับกำลังคิดเรื่องปรับโครงสร้างใหม่ โฆษกพรรคย้ำทำเพื่อให้สอดคล้องยุทธศาสตร์ “ธรรมนัส” โยนให้พรรคตัดสินใจเรื่องเขี่ยออก สะพัด! บิ๊กป้อมแตะเบรก กก.บห.เซ็นลาออกปรับโครงสร้าง รอถก 28 ต.ค.ให้สะเด็ดน้ำก่อน หึ่ง! “สันติ-สุชาติ” ชิงดำเก้าอี้เลขาธิการพรรค “เรืองไกร-สนธิญา” ยื่นยุบเพื่อไทยอีกครั้ง

เมื่อวันอังคาร ยังคงมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในทางการเมือง โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล โดยก่อนการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 22 ผ่านระบบประชุมทางไกล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปฏิเสธตอบคำถามกรณีกระแสข่าวการปรับโครงสร้างพรรค พปชร.ที่จะไปนั่งเป็นหัวหน้าพรรค โดย พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว เพียงหันมายกมือทักทายสื่อมวลชนก่อนเข้าร่วมประชุม

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์เรียกหารือ 6 รัฐมนตรีจากพรรค พปชร. เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าเป็นการหารือเรื่องภายในพรรค พปชร.ว่า เป็นการหารือเรื่องการทำงาน การบริหารราชการแผ่นดิน รวมถึงการแก้ปัญหาต่างๆ ไม่ได้เกี่ยวการเมือง นายกฯ ทำหน้าที่บริหารราชการประเทศ ไม่ก้าวก่ายการทำงานของพรรค พปชร. การเมืองเป็นเรื่องของหัวหน้าพรรค นายกฯ เป็นบุคคลภายนอกพรรค ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง การกระทำการใดๆ เกี่ยวกับการเมือง นายกฯ ไม่สามารถทำได้ และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นายกฯ ระมัดระวังเรื่องนี้มาโดยตลอด

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.กล่าวถึงการปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค พปชร.ว่า ยังๆ กำลังคิดอยู่ และเมื่อถามย้ำว่า พล.อ. ประวิตรได้คุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ถึงการปรับโครงสร้างหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ก็ตอบไปแล้ว และเมื่อถามอีกว่ามีแนวโน้มที่ พล.อ.ประยุทธ์จะมาเป็นหัวหน้าพรรค พปชร.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่รู้ ไม่ได้มาพูดกับผม”

เมื่อถามว่า ไม่ได้มาพูดเรื่องนี้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “คุยกันแล้ว แต่ไม่เห็นพูดเรื่องนี้กับผม” และเมื่อถามว่าถึงเวลาต้องปรับเปลี่ยนเลขาธิการพรรคใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่รู้ ยังไม่รู้

ผู้สื่อข่าวถามกรณีรัฐมนตรีของพรรค พปชร.เข้าพบนายกฯ เมื่อวันที่ 25 ต.ค.พูดคุยกันถึงเรื่องการปรับโครงสร้างพรรค พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่รู้ สื่อรู้ก็บอกมา ทั้งนี้ เมื่อถามว่าในช่วงเย็นวันที่ 26 ต.ค.นี้จะประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครของพรรค พล.อ.ประวิตรย้อนว่า จะคุยเรื่องอะไร ผู้สื่อข่าวถามว่าคุยเรื่องภายในพรรค พล.อ.ประวิตรอุทานว่า “เฮอะ” พร้อมส่ายหัวเดินจากไปทันที

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวถึงความเคลื่อนไหวการปรับโครงสร้างพรรคอาจทำให้พ้นตำแหน่งเลขาธิการพรรคว่า เพิ่งทราบข่าว และยังไม่ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร เนื่องจากเพิ่งเดินทางกลับจากต่างจังหวัด

เมื่อถามว่า จะตัดสินใจอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของหัวหน้าพรรคและ กก.บห.ตัดสินใจ และคงต้องรอการประชุม กก.บห.ในวันที่ 28 ต.ค. หัวหน้าพรรคได้นัดประชุมด่วนในเวลา 13.30 น. เพื่อชี้แจงถึงกระแสข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้เกิดความชัดเจน โดยจะเข้าร่วมประชุมด้วย และเมื่อถามว่ารู้สึกบั่นทอนหรือไม่กับข่าวที่ออกมา ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่บั่นทอนอะไร และจะไม่ดำเนินการอะไรเพื่อตอบโต้ ให้เป็นเรื่องพรรคต้องตัดสินใจ

ด้านนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในฐานะ กก.บห.พรรคปฏิเสธถึงการนัดพบ พล.อ.ประวิตรที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พร้อมปฏิเสธถึงข่าวที่กลุ่มสามมิตรพร้อมจะกลับมาคุมพรรคอีกครั้ง รวมถึงบอกว่าไม่รู้เรื่องปรับโครงสร้างพรรค

ส่วนนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวว่า เชื่อมั่นว่า พล.อ.ประวิตรมีแนวนโยบายและยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อเตรียมการเลือกตั้ง เพราะขณะนี้ผ่านมาแล้ว 2 ปี จาก 4 ปี เปรียบเสมือนการเดินลงภูเขา จึงต้องเตรียมการตลอดเวลา ซึ่งการปรับโครงสร้างนั้นอยู่ที่ กก.บห. ซึ่งพูดไม่ได้ เพราะมีแค่เสียงเดียว จึงต้องดูแนวคิดของผู้ใหญ่ด้วยว่าเป็นอย่างไร และพวกเราก็เคารพการตัดสินใจของหัวหน้าพรรค ส่วนที่มีความเคลื่อนไหวภายในพรรคช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมานั้น หลายพรรคการเมืองเขาก็ขยับ

นายสุชาติยังกล่าวถึงกรณีนายกฯ หารือ 6 รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่มีกระแสหารือปรับ ร.อ.ธรรมนัสออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคว่า นายกฯ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค จึงไม่ได้เกี่ยวพันกับเรื่องการเมือง ท่านจึงไม่ได้พูดเรื่องนี้ แต่พูดถึงเรื่องงานที่เกี่ยวพันกับกระทรวงแรงงานและเรื่องแฟลตดินแดง และคนตกงาน

เมื่อถามย้ำว่า พรรค พปชร.กำลังจะแตกหรือไม่ นายสุชาติยืนยันว่า ไม่ ทุกคนมีความรักและศรัทธาในหัวหน้าพรรค พรรคการเมืองก็เป็นสถาบันทางการเมือง ที่บางครั้ง การปรับเปลี่ยนอะไรที่ดีขึ้นเพื่อประเทศชาติ ซึ่งในอนาคตไม่มีอะไรจะอยู่คงที่ การปรับเปลี่ยนภายในพรรคทุกครั้งก็ดีขึ้นมาโดยตลอด ปรับเปลี่ยนเพื่อหาจุดสมดุล ถ้าครั้งนี้ปรับเปลี่ยนอีก ก็คงไม่เกิดกระแสการวัดพลัง

พปชร.ปรับโครงสร้างแน่

ถามถึงการปิดห้องคุยกับ พล.อ.ประวิตรนานครึ่งชั่วโมง นายสุชาติยิ้มก่อนกล่าวว่า พล.อ.ประวิตรชื่นชมทักษะของคนพิการที่ร่วมโครงการกับกระทรวงแรงงาน เมื่อถามย้ำว่าไม่ได้พูดการเมือง หรือให้มาช่วยงานในพรรค นายสุชาติหัวเราะแล้วตอบว่า "ผมก็อยู่กับท่านอยู่แล้ว" และเมื่อถามย้ำว่าจะได้รับความวางใจดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคหรือไม่ นายสุชาติตอบด้วยอาการเหนียมอายว่า “ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน”

น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.เขต 2 ในฐานะโฆษกพรรค พปชร. กล่าวในเรื่องนี้ว่า เป็นเรื่องที่กำลังพิจารณาอยู่ ขณะนี้ กก.บห.ได้หารือร่วมกันอย่างถี่ถ้วน และจะปรับโครงสร้างพรรคในเร็วๆ นี้ เพื่อให้การทำงานของ ส.ส.และสมาชิกของพรรคเป็นไปตามยุทธศาสตร์และแนวนโยบายของพรรค ส่วนความชัดเจนจะมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งใดหรือไม่นั้น ขอให้รอ กก.บห.พิจารณาแล้วเสร็จก่อน

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงกระแสข่าวกดดันให้ กก.บห.ลาออกจากตำแหน่ง ว่าตั้งแต่เห็นข่าวยังไม่มีการสั่งการใดจาก พล.อ.ประวิตร และ ร.อ.ธรรมนัส จึงยังไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไร และคิดว่าคงไม่ถึงขั้นเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรคเป็นนายสุชาติตามกระแสข่าว

เมื่อถามว่า กรณีนี้เกิดจากโพลที่มีต่อ ส.ส.ของพรรคหรือไม่ นายวิรัชกล่าวว่า วันนี้ต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่ง คือ พรรค พปชร.เกิดจากการหล่อหลอมของสมาชิกหลายส่วน บางครั้งการจะรวมกันได้ก็ต้องผ่านการเลือกตั้งกันมา และเชื่อว่าเมื่อผ่านไปหลายครั้งก็จะดีขึ้น ดังนั้น วันนี้คงไม่สามารถพูดอะไรไปได้มากกว่านี้ ถ้าตรงนี้แก้ไขแล้วเดินได้ดีก็ควรแก้ไข แต่ถ้าแก้ไขแล้วเกิดความวุ่นวายก็ไม่ควรแก้ไข และเหตุการณ์นี้ไม่ทราบว่าเป็นความพยายามของรัฐมนตรี 6 คนที่เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ ขอรอดูสถานการณ์ก่อน แต่ 6 รัฐมนตรีที่ไปพบนายกฯ ก็ไม่ได้เป็นเสียงส่วนมากของพรรค

นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรค พปชร. กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับเปลี่ยน กก.บห.พรรคว่า ขึ้นอยู่กับ กก.บห.ที่ต้องไตร่ตรอง ส่วนกรณีมีชื่อนายสุชาติจะมาเป็นเลขาธิการพรรคนั้น อยู่ที่สมาชิกส่วนใหญ่ ส่วนตัวเป็นใครก็ได้ ขอให้เป็นสมาชิกส่วนใหญ่เลือกขึ้นมา ไม่ได้แต่งตั้งใครในที่ลับ

มีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร​ได้นัดประชุมด่วน กก.บห.พรรคในวันพฤหัสบดีที่ 28 ต.ค.นี้ เวลาประมาณ 13.30 น. เนื่องจากเป็นห่วงกระแสข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้น จึงเรียกประชุม กก.บห.เพื่อทำความเข้าใจที่ตรงกัน

รายงานข่าวจาก พปชร.แจ้งว่า สำหรับความเคลื่อนไหวพรรค พปชร. หลัง 6 รัฐมนตรีพรรคเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ และ 3 ป. เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ขณะที่ช่วงเช้าวันที่ 26 ต.ค. พล.อ.ประวิตรยอมรับว่ามีแนวคิดที่จะปรับโครงสร้างพรรค และโฆษกพรรค พปชร.ได้ออกมายืนยันว่าเตรียมปรับโครงสร้าง ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. ร.อ.ธรรมนัสได้เดินทางเข้าพบ พล.อ.ประวิตร ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ หลังกลับจากการเดินทางไปพักผ่อนกับครอบครัวตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค. ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

มีรายงานอีกด้านแจ้งว่า การพบกันระหว่างนายกฯ และ 6 รัฐมนตรีนั้น ไม่ได้เป็นการเรียกเข้าพบ แต่ 6 รัฐมนตรีขอเข้าพบนายกฯ เอง

บิ๊กป้อมเบรก กก.บห.ไขก๊อก

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้มี กก.บห.บางส่วนได้เซ็นหนังสือลาออกเรียบร้อยแล้วเกือบกึ่งหนึ่ง โดยตลอดทั้งวันของวันที่ 26 ต.ค. กลุ่มที่เห็นด้วยที่จะให้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างพรรคยังได้พยายามโทรศัพท์ล็อบบี้ กก.บห.เป็นรายบุคคลให้เซ็นลาออกเพื่อให้ถึงกึ่งหนึ่ง โดยส่วนใหญ่เป็นรัฐมนตรีที่เข้าพบนายกฯ ขณะที่กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัสและนายวิรัชได้โทรศัพท์ล็อบบี้ยับยั้งการเซ็นออก ทำให้ กก.บห.หลายคนเกิดความสับสนไม่กล้าดำเนินการอะไร และระบุว่าจะรอฟัง พล.อ.ประวิตรเพียงคนเดียว กระทั่งช่วงเย็นของวันที่ 26 ต.ค. พล.อ.ประวิตรได้ต่อสายหา กก.บห.ทุกคนว่าอย่าเพิ่งลาออก ให้ไปพูดคุยวันที่ 28 ต.ค.นี้ ซึ่ง พล.อ.ประวิตรยังได้นัด กก.บห.และ ส.ส.บางคนเข้าไปพบที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ในช่วงบ่ายวันที่ 27 ต.ค.

โดยขณะนี้มี กก.บห.พรรคได้เซ็นใบลาออกจากตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว 8 คน ได้แก่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม, นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง และนายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี นอกจากนั้น กก.บห.อีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้เป็นคนสายตรง ร.อ.ธรรมนัส อยู่ระหว่างตัดสินใจ และบางส่วนรอสัญญาณที่ชัดเจนจาก พล.อ.ประวิตร

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับกลุ่มที่ต้องการปรับโครงสร้างพรรค โดยเฉพาะตำแหน่งเลขาธิการพรรค ได้นัดพูดคุยกันเองอีกครั้งในวันที่ 27 ต.ค.นี้ ก่อนประชุม กก.บห.พรรคในวันที่ 28 ต.ค. ที่พรรค พปชร. อาคารรัชดาวัน ถ.รัชดาภิเษกด้วย โดยหากปรับโครงสร้างพรรคสำเร็จ มีแคนดิเดต 2 คนที่พร้อมผลักดันให้เป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่คือ นายสันติและนายสุชาติ ที่ระยะหลังทำงานใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์

วันเดียวกัน ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี ที่ถูกขับออกจากพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยนายสมบัติ รัตโน อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรค พท.ได้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ภท.เรียบร้อยแล้ว โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค และนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคให้การต้อนรับ

ส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรค พปชร. ได้ยื่นหนังสือต่อ กกต. ขอให้พิจารณายุบพรรคเพื่อไทยในกรณีที่มีคลิปภาพและเสียงปรากฏระหว่างนายเกรียง กัลป์ตินันท์ ที่ได้วิดีโอคอลกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยอ้างว่าเป็นการเลี้ยงเนื่องในวันเกิด ซึ่งได้ไปเปิดวิกิพีเดียพบประวัติวันเกิดของนายเกรียงคือวันที่ 27 พ.ย. ไม่ใช่วันที่ 12 ต.ค.

ต่อมา นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เข้ายื่นต่อ กกต.เพื่อยุบพรรค พท.กรณีคลิปดังกล่าวเช่นกัน

ขณะที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรค พท.เพื่อไทย กล่าวว่า นักร้องยุบพรรคทั้งหลายอย่าเลือกปฏิบัติ จ้องยื่นร้องยุบแต่พรรคการเมืองอื่น กรณี พล.อ.ประยุทธ์ปิดตึกไทยคู่ฟ้าถกลับ 6 รัฐมนตรีเพื่อแก้ปัญหาภายในพรรค พปชร.เข้าข่ายมาก ต้องยื่นยุบพรรคด้วย

ที่พรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย จัดการประชุมเพื่อเตรียมพร้อมสนามเลือกตั้งในเขตพื้นที่ กทม. โดยมีผู้สมัคร ส.ส.และผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) 50 เขต เข้าร่วมประชุมคึกคัก โดยคุณหญิงสุดารัตน์ระบุว่า การสร้างพรรคไทยสร้างไทย จะเป็นภารกิจสุดท้ายเพื่อเป็นนั่งร้านสำหรับคนทุกช่วงวัย โดยพรรคมีนโยบายสำคัญคือ บำนาญประชาชน 3,000 บาท เพื่อช่วยลดภาระคนวัยทำงานและผู้สูงอายุ.