หมอปลารับผิดชอบเอง ฟอก ‘นักข่าว’ ทำตามสั่ง

"หมอปลา" และคณะเปิดบ้าน เชิญคู่หู 2 ทิดร่วมพิธีกรรมขอขมาต่อหน้ารูป "หลวงปู่แสง ญาณวโร" ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียว วางแผนเองจัดการเอง นักข่าวไม่รู้เรื่องอะไรเลย   โบกมือลาเวิร์คพอยท์ ไม่ต้องสงสารเพราะทัวร์ลงบ่อย

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 ที่บ้านพักในพื้นที่ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี นายจีรพันธ์ เพชรขาว (หมอปลา) พร้อมด้วย น.ส.รภัสสรณ์ ฤทธิธนไพบูลย์ (น้ำฟ้า), ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์, นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ (กัน จอมพลัง), นายอรรถพล ไข่ทอง (เบลล์ ขอบสนาม), ได้ร่วมกันทำพิธีขอขมาต่อหน้ารูป "หลวงปู่แสง ญาณวโร" โดยมีนายไพรวัลย์ วรรณบุตร และนายสมปอง นครไธสง ช่วยดำเนินพิธีกรรม

นายจีรพันธ์กล่าวว่า ก่อนอื่นพวกเราทั้ง 5 คนและทีมงาน เราขอขมาหลวงปู่แสงด้วยความจริงใจอย่างบริสุทธิ์ ถามว่าทำไมทีมงานหมอปลาถึงเลือกที่บ้านหมอปลา เนื่องจากว่ามีบรรดาลูกศิษย์และบรรดา ส.ส.ในพื้นที่ไม่ให้ทีมงานของเราเข้าพื้นที่ เราก็หลีกเลี่ยงที่จะเกิดการปะทะ ก็เลยทำพิธีขอขมาครั้งนี้

ทั้งนี้ ตนได้ติดต่อทิดไพรวัลย์และทิดสมปองเข้ามาในการเป็นผู้นำพิธีกรรมในครั้งนี้ เพื่อให้รู้ว่าเจตนาของเราที่เราลงพื้นที่ไปวันนั้น เราทำเพื่อวัตถุประสงค์อะไร แต่เหตุการณ์นี้มีเอฟเฟกต์เกิดขึ้นหลายอย่าง ตนจะเล่าให้ฟังว่า บรรดาทั้งหมดนี้ 5 คน ตนเป็นผู้นำ ทุกคนรู้ไหม ซึ่งทุกคนมีหน้าที่แตกต่างกันไป

"ส่วนเรื่องการวางแผน ผมเป็นคนจัดแจงเอง เนื่องจากว่าตัวผมเองได้รับเรื่องร้องเรียนมา 2 เรื่องในเรื่องของหลวงปู่แสง มีคนเข้าไปไหว้หลวงปู่แสงและเจอลวนลาม เกิดขึ้น 2 เคส ซึ่ง 2 เคสนี้ก็เล่าเหมือนกัน เราก็เลยส่งน้องทีมงานไป 2 คน เพื่อสังเกตการณ์ เข้าไปในพื้นที่ แต่พอน้องเข้าไปตัวแม่ชีบอกว่าหลวงปู่แสงท่านอาจจะมีการจับนู่นนี่นั่น แต่ข้อมูลที่เราได้มา 2 คนแรกไม่มีการบอก เหมือนพระลูกศิษย์เรียกเข้าไปจับเลย แต่ทีมงานเราไปเก็บข้อมูล ปรากฏว่ามีการบอกกล่าวก่อนเมื่อครั้งแรก มันเป็นแบบนี้  เราก็เลยไปครั้งที่สอง

โดยน้องสองคนที่ไปเริ่มเกิดการกลัวและกังวลเกิดขึ้น เพราะเนื่องจากว่ามีพระผู้ชายเยอะและมีต้นไม้เยอะประมาณนั้น  เราก็เลยวานน้องนักข่าวผู้หญิง ซึ่งน้องไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย แต่ให้ไปเป็นเพื่อน เท่านั้น แต่เมื่อพอไปถึงแล้วเขาเรียกน้องเข้าไปแทน มันจึงเกิดภาพปรากฏตามที่เราเห็นในคลิป"

หมอปลาอ้างว่า ตนเองกล้ายืนยันไม่ได้มีการไปสร้างหลักฐานใดๆ ทั้งสิ้น แล้วน้องนักข่าวผู้หญิงก็ไม่รู้เรื่องนี้ ส่วนกรณีดรามาเบลล์ ขอบสนาม ซึ่งตนก็ให้เบลล์ทำคลิป ก็ทำหน้าที่พากย์ฟุตบอลไป ส่วนทนายไพศาลเนี่ยเราเป็นทีมเดียวกัน แต่ทุกคนไม่รู้เรื่องเลย แม้กระทั่งตัวของสื่อมวลชนเอง

เขายังบอกว่า มันไม่แฟร์สำหรับบุคคลเหล่านี้ ซึ่งเขาไม่รู้ แต่ตอนนี้ที่น้องมันพูด เพราะมันสงสารหมอปลา เรื่องนี้ไม่ต้องสงสาร เพราะทัวร์มาลงบ่อย ขอยอมรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งสื่อไม่รู้ แต่ก็พยายามให้ช่องอื่นทำ ให้บทลงโทษบ้าง ซึ่งเมื่อคืน เพราะรู้ว่าน้องนักข่าวผู้หญิงโดนเวิร์คพอยท์ไล่ออก ตนก็โทร.ไปหาผู้บริหารคนหนึ่ง อธิบายให้ฟัง แต่เขาไม่ฟังแล้ว แต่ก็อธิบายไปว่าต้องแสดงความรับผิดชอบ เพราะเรื่องที่ทำให้น้องถูกไล่ออก มันเกิดจากหมอปลา มันไม่ได้เกิดจากน้องนักข่าวผู้หญิง

"งั้นผมขอแสดงสปิริต ด้วยการขอกล่าวขอโทษพี่ พร้อมพี่หม่ำ จ๊กมก พี่นุ้ย เชิญยิ้ม พี่บอล เชิญยิ้ม และทุกๆ คนที่ผมเคยร่วมงานกับช่องนี้ ผมกราบขอโทษด้วย แต่จริงๆ ผมรักพวกพี่นะ แต่ผมต้องแสดงสปิริตทุกสิ่งทุกอย่าง ผมจะไม่ขอไปก้าวล่วงช่องนี้ ถ้าผมยังจะออกไปเสนอหน้าช่องนี้อยู่ ถ้าน้องมันเห็นมันจะคิดยังไง นักข่าวสาวคนนี้ไม่ใช่เป็นเหยื่อหมอปลา แต่หมอปลาใช้น้องไปจริงๆ"

หมอปลากล่าวต่อไปว่า แล้วตนรู้สึกว่าบทลงโทษอันนี้มันรุนแรงเกินไปไหม ตนอธิบายในมุมตนไปแล้ว ซึ่งตนยอมรับผิดชอบทุกอย่าง คือเจตนาของตนมันเป็นแบบนี้จริงๆ และไม่ได้มาปกป้องใคร แล้วก็เปรียบเทียบกับว่า น้องก็เหมือนหมาตัวหนึ่ง ที่คาบเหยื่อไปให้เขา สุดท้ายพอคุณได้เหยื่อเสร็จคุณก็ฆ่าหมาตัวนั้นตาย ตนก็แสดงสปิริตตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะไม่ไปยุ่งกับช่องของคุณอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นรายการไหนรายการหนึ่ง แม้กระทั่งรายการรับเชิญ

"แล้วก็กราบขอโทษรายการที่ติดต่อมาก่อนหน้านี้ ผมไม่สามารถที่จะร่วมงานกับช่องคุณได้ และผมก็ขอกล่าววิงวอนเพจหรือสื่อต่างๆ ให้คุณลงข้อเท็จจริง"

หมอปลากล่าวด้วยว่า อีกประเด็นหนึ่งสำหรับลูกศิษย์บางคนของหลวงปู่แสง ตอนนั้นคุณไปอยู่ไหน ถ้าคุณออกมาก่อนตอนที่จะเป็นข่าว เชื่อว่าหลวงปู่แสงจะไม่เป็นเหยื่อของบรรดาลูกศิษย์ แต่วันที่พอตนลงพื้นที่ ตนโดนเยอะ น้อมรับ แต่กลับมีคนออกมาเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองในพื้นที่ สิ่งที่คุณทำคุณต้องการหาเสียงเหรอ หน้าที่ ส.ส. มันทำได้มากกว่านี้ไหม

"อย่าเอาเรื่องหลวงปู่แสงมาเป็นคอนเทนต์ มาเป็นแสงเพื่อหาคะแนนเสียงเลย ผมว่ามันไม่ถูกต้อง ผมน้อมรับคำติ ผมบอกแล้วว่าผมพลาด ผมคิดตื้นมากว่าพระป่วยจะต้องรักษา และไม่คิดว่าท่านป่วยจริงๆ ถ้าคำพูดอะไรที่ไม่เหมาะสม วันนี้ทีมงานหมอปลาพร้อมขอขมาด้วยใจอย่างยิ่ง เพราะเราเพิ่งรู้ตอนนั้นจริงๆ และต้องให้ความเป็นธรรมกับสื่อทุกช่องด้วยอย่ากดดัน ผมแสดงสปิริตแล้ว" หมอปลากล่าว

วันเดียวกันนี้ นายนิพนธ์ จันทเวช เลขาธิการสภาทนายความฯ ในฐานะโฆษกสภาทนายความฯ เผยว่า เรื่องนี้ทางสภาทนายความฯ ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวเเล้ว เเละก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทันทีที่ปรากฏเป็นข่าว ทางสภาทนายความฯ ก็ตรวจสอบข่าวเรื่องกรณีที่มีคนอาชีพทนายความถูกกล่าวหาว่าไปร่วมทำเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าว โดยเตรียมจะส่งให้คณะกรรมการมรรยาททนายความพิจารณา เเละหากพบว่าการกระทำดังกล่าวมีการกระทำความผิดตามมรรยาททนายความจริง ทางกรรมการมรรยาทก็จะมีการลงโทษตามระเบียบข้อบังคับเเละกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเเน่นอน ซึ่งทางสภาทนายความฯ เตรียมที่จะเเถลงการณ์เรื่องนี้ต่อสาธารณชนต่อไป ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่

วันเดียวกันนี้ โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี แถลงเกี่ยวกับประวัติอาการอาพาธของหลวงปู่แสง ญาณวโร ตั้งแต่เริ่มเข้ารับการรักษาเมื่อปี 2552 จนถึงปัจจุบัน โดยพบว่าอาพาธด้วยโรคประจำตัว ในกลุ่มผู้ป่วยสูงอายุทั้งหมด 10 กลุ่มโรค ได้แก่ ทางเดินอาหารผิดปกติ ท้องผูก โรคหัวใจโตช่องล่างด้านซ้าย ความดันโลหิตสูง ภาวะต่อมลูกหมากโต กระดูกสันหลังคด โรคเกาต์ กระดูกพรุน โรคนอนหลับยาก ภาวะสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์ ระยะที่ 1 หรือ 2 และภาวะพฤติกรรมอารมณ์ผิดปกติจากภาวะสมองเสื่อม

 ซึ่งข้อจำกัดด้านการรักษา คือเข้าถึงตัวหลวงปู่ได้ยาก ฉันยาไม่ต่อเนื่อง จากนี้ทีมแพทย์จะเข้มงวดการรักษาให้ละเอียดมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการควบคุมการฉันยา รวมถึงเร่งหาสาเหตุของโรคว่าเกิดจากเชื้อซิฟิลิส จนทำให้เกิดภาวะความจำเสื่อมหรือไม่ เพราะในอดีตเคยติดเชื้อมาลาเรียขณะออกเดินธุดงค์.