ม็อบส่อหัวทิ่ม! ผบ.สส.ออกกฎ ห้ามจัด‘ชุมนุม’

"บิ๊กตู่" ขอความร่วมมือผู้เห็นต่าง อย่าสร้างความรุนแรงบนท้องถนน หวั่นนักท่องเที่ยวไม่กล้ามา ขณะที่ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศห้ามชุมนุม-มั่วสุมทั่วราชอาณาจักร หลังจากมีการเปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้ ระบุฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี "รุ่ง" นำทีมร้องศาลแพ่งทันควัน ให้เพิกถอนและคุ้มครองม็อบสามนิ้ว 31 ต.ค.นี้

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตอนหนึ่งว่า เรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะขอร้องกันสำหรับผู้ที่เห็นต่าง หรือผู้ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นหรือการสร้างความรุนแรงบนท้องถนน

"ขอความร่วมมือเถอะครับ อย่าสร้างภาพความเสียหายต่อประเทศของเราในช่วงนี้เลย เพราะจะทำให้ประชาชนอื่นๆเดือดร้อนและลำบากไปด้วย และนักท่องเที่ยวก็จะกังวลไม่กล้ามา ภาพเหล่านี้มันออกไปต่างประเทศด้วยทุกครั้ง ขอให้ระมัดระวังอย่างที่สุด" นายกฯ กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 28 ต.ค. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่องห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 13) ลงนามโดย พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง มีรายละเอียดดังนี้

อาศัยอำนาจตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 18) ข้อ 3 และคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 4/2563 ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 เรื่องแต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ข้อ 3 (6) และข้อกำหนด คำสั่ง ประกาศที่เกี่ยวข้อง จึงให้ปฏิบัติดังนี้

1.ให้ยกเลิกประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่องห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 11) ลงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2564 และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่องห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 12) ลงวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2564

2.ห้ามมิให้มีการมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค หรือการกระทำอันเป็นการฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน หรือการกลั่นแกล้งเพื่อแพร่โรค ณ ที่ใดๆ ทั่วราชอาณาจักร

3.ห้ามมิให้มีการชุมนุม หรือการทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ในพื้นที่ที่มีประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง พื้นที่เฝ้าระวัง

4.ในพื้นที่ที่มีประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง พื้นที่เฝ้าระวัง ที่ได้มีประกาศหรือคำสั่งกำหนดให้เป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ห้ามมิให้มีการชุมนุม หรือการทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค เว้นแต่กรณีได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่หรือกิจกรรมที่ได้รับการยกเว้น

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศนี้ ต้องรับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 เป็นต้นไป

ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาฯ แกนนำกลุ่มราษฎร น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล, น.ส.กุลจิรา ทองคง, นายเสกสิทธิ์ แย้มสงวนศักดิ์ พร้อมทีมทนายความ ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด โดยขอให้ศาลเพิกถอนข้อกำหนดที่ออกในมาตรา 9 ข้างต้น และขอให้ศาลอนุญาตให้มีการไต่สวนฉุกเฉิน คุ้มครองชั่วคราว การชุมนุมวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ที่แยกราชประสงค์.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอนทองเขาบรรทัด' สินค้า GI รายการที่ 3 ของตราด

รัฐบาลมุ่งเพิ่มมูลค่าสินค้าท้องถิ่นไทย ขึ้นทะเบียนทุเรียนหมอนทองเขาบรรทัด เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ จังหวัดตราด เพื่อความเชื่อมั่นคุณภาพสินค้า ยกระดับรายได้ชุมชน

อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย! เศรษฐาห่วงใยสุขภาพประชาชน

นายกฯ ห่วงใยสุขภาพพี่น้องประชาชนจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ขอให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือพายุฤดูร้อนทางตอนบนของประเทศไทย ช่วง 3 - 7 พ.ค.นี้