หาร500ไม่จบพท.แซะก.ก.

แตกคอกันแล้ว! สูตรหารสภา 500 ไม่จบ เพื่อไทยเปิดศึกถล่มก้าวไกล "ภูมิธรรม" เดือด ซัด "ก.ก." ร่วมอาชญากรรมทางการเมือง "ปู้ยี่ปู้ยำ"  ประชาธิปไตยเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตน "รังสิมันต์" สวนกลับทันควัน "พี่อ้วน" ช่วยด่าก้าวไกลตรงๆ จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศมากกว่า "เจ๊หน่อย" ซีด พท.ดูดขุมกำลังกลับ

 เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2565 มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างคึกคัก หลังที่ประชุมรัฐสภาโหวตระบบการเลือกตั้งใหม่เป็นสูตรหาร 500 ซึ่งทำให้พรรคการเมืองบางพรรคเสียเปรียบ และมีบางพรรคได้เปรียบ นำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์โจมตีกันข้ามพรรค โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลที่จะเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกัน

 ทั้งนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรคเพื่อไทย ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว @phumtham ระบุว่า อาชญากรรมทางการเมืองที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล ร่วมกันก่อขึ้น มีพรรคฝ่ายค้านบางพรรคร่วม "ปู้ยี่ปู้ยำ" ประชาธิปไตยเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตน โดยไม่คิดคำนึงถึงหลักการประชาธิปไตยคือ เครื่องยืนยันว่าการเมืองคือ เรื่องประโยชน์เฉพาะตน เหนือสิ่งอื่นใดจริงมั้ย!!...ก.ก.

ต่อมา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทวีตข้อความตอบกลับระบุว่า ด้วยความเคารพนะครับพี่อ้วน ผมที่เพิ่งเป็นเพียง ส.ส.สมัยแรก ขอแนะนำพี่อ้วน ผู้อาวุโส ควรเลิกทวีตแซะพรรคก้าวไกลได้แล้ว ถ้ามีข้อมูลอะไรที่พี่อ้วนเชื่อว่าพวกเราทำในสิ่งที่เป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย ก็นำเสนอให้ประชาชนทราบ และช่วยด่าพรรคก้าวไกลตรงๆ จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศมากกว่า

ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการตั้งพรรคใหม่สู้สูตรหาร 500 ว่า เป็นเพียงแนวคิดที่เพื่อนสมาชิกพูดขึ้นมา ตนพูดในหลักการว่า หากหาร 500 เป็นจริง ต้องหากลไกวิธี การที่จะต่อสู้ให้ได้มาซึ่งความไว้วางจากประชาชนมากที่สุด แต่เป็นเรื่องรอง ฝ่ายบริหารยังไม่ได้คิด เราคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในสภาว่า เป็นการจงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ จงใจฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง จงใจทำลายล้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราจะสู้ให้ถึงที่สุดก่อนในศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้จะส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

นพ.ชลน่านกล่าวว่า จะทำคำร้องให้ศาลวินิจฉัยในข้อกล่าวหาของเรา นอกจากนี้ยังสามารถร้องผ่านช่องทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีจงใจฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานทางจริยธรรม รวมทั้งร้องผ่านคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีใช้ความเป็นคนนอกครอบงำชี้นำพรรคการเมือง โดยที่กรรมการบริหารหรือพรรคการเมืองยินยอมให้กระทำ ต้องสู้ หากกระบวนการต่อสู้สัมฤทธิผล ก็จะกลับมาหาร 100 ทั้งนี้ จะยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญภายหลังการอภิรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเสร็จสิ้น เพราะข้อกล่าวหาที่จะยื่นร้องต่อศาลเป็นข้อกล่าวหาเดียวกันกับที่จะใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

ยังมีอีกหลายวิธี

 “การตั้งพรรคใหม่เป็นเพียงวิธีคิด ยังมีอีกหลายวิธี เราอาจจะสู้ให้ได้เขตมากที่สุด จะลงทุนตั้งพรรคใหม่ทำไม อย่างมากสุดก็ได้ 40 คน หรือสู้ในนามพรรคเพื่อไทย เอาให้ได้ทั้งเขตและบัญชีรายชื่อ ตั้งเป้าให้ได้คะแนนบัญชีรายชื่อ 15 ล้านเสียงขึ้นไป ซึ่งมีโอกาสอยู่แล้ว ส่วนการตั้งพรรคใหม่ยังตอบไม่ได้ ต้องประเมินจากพี่น้องประชาชน ว่าทางไหนเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด” นพ.ชลน่านกล่าว

นอกจากนี้ นพ.ชลน่านและแกนนำพรรคให้การต้อนรับนายพงศกร อรรณนพพร อดีตประธานคณะกรรมการบริหารพื้นที่พรรคไทยสร้างไทย และนายพชรกร อรรณนพพร บุตรชายนายพงศกร นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย อดีตผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย อดีตผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. พรรคไทยสร้างไทย เข้าร่วมงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทย

นพ.ชลน่านกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าทั้งสองท่านจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนพรรคเพื่อไทยให้เป็นความหวังและสร้างโอกาสให้พี่น้องประชาชน นายพงศกร ที่จะเป็นกำลังสำคัญในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อไปสู่การแลนด์สไลด์ขอนแก่นในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง นายประภัสร์ ที่เป็นผู้มีความรู้ความสามารถทางด้านคมนาคม คนสำคัญ มาช่วยกันสร้างสรรค์นโยบายเพื่อพี่น้องประชาชน และสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นการส่งสัญญาณถึงผู้มีอำนาจว่าพรรคเพื่อไทยมีความพร้อม และมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถที่จะนำพาอนาคตพี่น้องประชาชนและประเทศชาติไปสู่ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน 

นายพงศกรกล่าวว่า ขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ให้โอกาสในการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ที่ผ่านมาได้มีโอกาสพบปะพี่น้องประชาชน และได้รับเสียงสะท้อนขอให้กลับมายังพรรคเพื่อไทยให้เกิดแลนด์สไลด์อย่างถล่มทลายอีกครั้ง ในฐานะที่เป็นตัวแทนประชาชน ต้องรับฟังเสียงสะท้อนของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก จึงตัดสินใจกลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย เพื่อความสุขของพี่น้องประชาชนอีกครั้ง

เคยอยู่พลังประชาชน

 นายประภัสร์กล่าวว่า ตนกับพรรคเพื่อไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีกันมาโดยตลอด เพราะเคยลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคพลังประชาชน ซึ่งภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ งานด้านการคมนาคมยังมีปัญหาอีกมากที่จะต้องเร่งแก้ไขเพื่อบรรเทาและแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมแตกแบงก์พันว่า ยังคิดไม่ออกว่าเขาจะทำอย่างไร เพราะกฎหมายยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เอาไว้รอให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ก่อนค่อยมาวิเคราะห์

"เขาก็ไม่ใช่คนที่พลิกเกมได้คนเดียวหรอก คนอื่นก็พลิกเกมได้เหมือนกัน มันไม่ได้ยากอะไร และกว่าจะถึงวันนั้นก็คงจะมีพรรคการเมืองหลายพรรคที่เสนอตัวเข้ามาให้ประชาชนเลือก ผ่านระบบบัญชีรายชื่อ และมีนโยบาย มีอุดมการณ์ต่างๆ มาแข่งขันกัน คงไม่ได้มีครอบครัวเพื่อไทยพรรคเดียว ก็ต้องมีพรรคของประชาชนคนอื่นเข้ามาแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องปกติ และผมก็ไม่เห็นว่าเป็นเรื่องแปลกอะไร" นายชัยวุฒิกล่าว

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ว่าถ้าเราไปวางหลักให้ใช้การหาร 500 ด้วยกระบวนการบางส่วนของสัดส่วนผสมมารวมกัน ก็จะทำให้เกิดกระบวนการที่เราไม่อยากให้มี คือกระบวนการแตกแบงก์พัน แต่วันนี้ถ้าเกิดกรณีแตกแบงก์พัน ก็มีความชอบธรรม เพราะเราไปแก้กฎหมายให้เขาแตกแบงก์พัน และเข้าใจว่าคนที่คาดหวังว่าจะทำให้เขาไม่ได้รับคะแนนเสียงแลนด์สไลด์กลับไป ทำให้เขามีคะแนนเสียงแบบแลนด์สไลด์มากยิ่งขึ้น เนื่องจากคะแนนบัญชีรายชื่ออันดับ 1 อันดับ 2 อันดับ 3 อาจเป็นพรรคที่สร้างชื่อเสียงของพรรคเองได้สูงลงมาตามลำดับได้ เมื่อใครตัดสินใจอย่างไรก็ต้องรับผิดชอบ

กลับสู่ยุคแตกแบงก์พัน

"ตัดประเด็นเรื่องการปัดเศษและการแตกแบงก์พันที่เคยมีมาแล้วออกไป ซึ่งเป็นเรื่องที่บิดเบี้ยวในกระบวนการทางการเมือง แต่เมื่อกลับไปสู่จุดนั้นอีก พรรคการเมืองก็มีสิทธิ์ที่จะแตกแบงก์พันได้ ถ้าเป็นอย่างนี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องแลนด์สไลด์ที่กลัวกันได้ ผมยืนยันว่ากระบวนการในการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือกระบวนการทางการเมืองใดก็แล้วแต่ กระบวนการที่ตรงไปตรงมาและยึดหลักนิติธรรม เป็นกระบวนการที่ดีที่สุด” นายชินวรณ์กล่าว

ขณะที่นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ไม่แปลกใจที่พรรคประชาธิปัตย์พลิกพลิ้วคว่ำร่างตัวเองเช่นกัน เพราะเคยทำมาแล้วกรณีมาตรา 44 ที่เสนอผ่านสภาแต่มาคว่ำร่างตนเอง ซึ่งตนทำไม่ได้ เพราะการเมืองเป็นเรื่องประเทศชาติ จะพลิกไปพลิกมาเหมือนเรือที่ใกล้ล่มตนทำไม่ได้ ตนพูดมาหลายครั้งว่านี่คือเหตุผลที่ตนถูกมติเถื่อนประกาศที่ จ.ปัตตานี ว่าจะไม่ส่งตนลงสมัครรับเลือกตั้ง

 “วันนี้เห็นได้ชัดว่าอำนาจบริหารสามารถใช้ให้เสียงข้างมาก ผลักดันความต้องการของฝ่ายบริหารได้ ผมขอให้ระวัง เพราะอดีตเสียงข้างมากที่กระทำการฝืนความรู้สึกประชาชน จนประชาชนลงถนนแล้วเกิดการปฏิวัติ 2 ปีที่ผ่านมา ผมเรียกร้องให้การแก้ไขปัญหาอยู่ในสภา ไม่อยากให้เกิดม็อบ การบาดเจ็บล้มตาย และไม่อยากให้เพิ่มสถิติการฉีกรัฐธรรมนูญในการปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งเดิมก็ติดอันดับ 1 ของโลกอยู่แล้ว”

นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่...) พ.ศ.... รัฐสภา กล่าวว่ารายละเอียดดังกล่าวมีผลที่เกี่ยวโยงกับมาตราอื่นในร่าง พ.ร.ป. ดังนั้นอาจจะทำให้มีปัญหาได้หากไม่แก้ไขให้สอดคล้องกัน ดังนั้นตนขอให้ กมธ.เสียงข้างน้อยที่เป็นผู้ชนะในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรับผิดชอบที่จะดูแลแก้ไขปัญหาดังกล่าว ได้ตรวจดูรายละเอียดมาตราที่รัฐสภาลงมติผ่านไปแล้ว และมาตราที่รอการพิจารณาด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง