อุ้มกลุ่มเปราะบาง ลดค่าไฟฟ้า-ก๊าซ ลุยออกพรก.กู้ยืม

กบง.จ่อขยายมาตรการช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้ไฟเกิน 300 แต่ไม่เกิน 500 หน่วย/เดือน ชง ครม.ให้ส่วนลด 15-75% แบบขั้นบันไดถึงสิ้นปี พร้อมขยายเวลาส่วนลดค่าก๊าซหุงต้มสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ อีก  3 เดือน ในอัตรา 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ด้าน “กุลิศ” เผยเดินหน้า พ.ร.ก.ให้คลังค้ำประกัน

เมื่อวันจันทร์ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 22 ส.ค.65 ว่า กบง.ได้พิจารณาขยายแนวทางช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 301-500 หน่วยต่อเดือน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของราคาไฟฟ้าซึ่งเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน โดยการให้ส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) เดือน ก.ย.-ธ.ค.65  แบบขั้นบันไดในอัตรา 15-75% เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยลดภาระค่าครองชีพของผู้ใช้ไฟฟ้า

ทั้งนี้ เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่ได้มีการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าในกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของราคาไฟฟ้าได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้า 92.04 สตางค์ต่อหน่วย เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือน ก.ย.-ธ.ค.65 (ประกอบด้วยส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่าเอฟทีเดือน พ.ค.-ส.ค.65 จำนวน 23.38 สตางค์ต่อหน่วย และส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่าเอฟทีเดือน ก.ย.-ธ.ค.65 จำนวน 68.66 สตางค์ต่อหน่วย)

 “มาตรการช่วยเหลือกลุ่ม 1 และ 2 ซึ่งเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ของ กฟน.และ กฟภ.จะครอบคลุมผู้ใช้ไฟฟ้าประมาณ 80% ของผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ หรือคิดเป็น  89% ของผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย และจะครอบคลุมบ้านที่อยู่อาศัยที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยของ กฟผ. และผู้ใช้ไฟฟ้าของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณรวม 2,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือประมาณ 8,000 ล้านบาทสำหรับ 4  เดือน ซึ่งจะนำเสนอเรื่องการขอใช้งบกลางของปีงบประมาณ 2565 ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบภายในเดือน ส.ค.นี้ ส่วนที่เหลือจะขอใช้เงินจากงบประมาณประจำปี 2566 ตั้งแต่เดือน ต.ค.เป็นต้นไป” นายสุพัฒนพงษ์กล่าว นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า ขณะที่ราคาแอลพีจียังคงอยู่ในระดับสูง กบง.จึงมีมติขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาผลกระทบด้านราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือก๊าซหุงต้ม  (แอลพีจี) ที่ให้ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มแก่ผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการฯ) จาก 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน เพิ่มขึ้นอีก 55 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน  เป็น 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ออกไปอีก 3 เดือน  เริ่มประมาณกลางเดือน ต.ค.-ธ.ค.65 จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.65

โดยมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานนำเรื่องเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบในหลักการเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาโครงการ และจัดทำคำขอรับงบประมาณเพื่อใช้สำหรับดำเนินโครงการเสนอสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการติดตามความคืบหน้าของโครงการบรรเทาผลกระทบด้านราคาก๊าซหุงต้ม พบว่าตั้งแต่เดือน ก.ค.-14 ส.ค.65 มีผู้ใช้สิทธิ์ 3,741,994 ราย

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า  สำหรับความคืบหน้าการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.)  ให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ... และการกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) กรอบวงเงิน  1.5 แสนล้านบาทนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียด

 “การออก พ.ร.ก.ค้ำประกันให้กองทุนกู้เงิน เพื่อสร้างความมั่นใจให้สถาบันการเงินปล่อยกู้มาเสริมสภาพคล่องของกองทุน ซึ่งไม่ได้กู้ครั้งเดียวทั้งหมด 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งช่วงนี้สถานการณ์ราคาดีเซลที่ปรับตัวลดลงบางช่วง ช่วยลดการชดเชยของกองทุนและยังสามารถเก็บเงินเข้ากองทุนได้ จากที่เคยอุดหนุนสูงถึงวันละ 12 บาทต่อลิตร” นายกุลิศกล่าว

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการ สกนช.กล่าวว่า  คณะอนุกรรมการบริหารสภาพคล่องเงินกองทุนที่รองปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน มีกำหนดการพิจารณาในวันที่ 5 ก.ย.นี้ เบื้องต้นกองทุนจะกู้เงินก้อนแรกวงเงิน  30,000 ล้านบาทตามความเหมาะสมก่อน แบ่งเป็นการกู้ผ่านพระราชบัญญัติกองทุน 20,000 ล้านบาท และผ่านพระราชกฤษฎีกาวงเงิน 10,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้เตรียมทำหนังสือแจ้งไปยังธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สถาบันการเงินว่ากองทุนมีกระทรวงการคลังค้ำประกัน แต่จะกู้ธนาคารใด วงเงินเท่าไหร่ ยังอยู่ระหว่างพิจารณา ส่วนการชำระหนี้ทั้งหมดจะอยู่ในความรับผิดชอบของกองทุนอยู่แล้ว ไม่ใช่หน้าที่ของกระทรวงการคลัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวเลขส่วนลดแบบขั้นบันไดในอัตรา 15-75% ในส่วนของกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 301-500 หน่วยต่อเดือน เบื้องต้นต้องรอ ครม.อนุมัติอีกครั้ง คือการใช้ไฟตั้งแต่ 301-350  หน่วยต่อเดือน ได้ส่วนลด 75% ของค่าเอฟที หรือได้รับส่วนลดค่าเอฟทีประมาณ 51.50 สต.ต่อหน่วย มีผู้ใช้ไฟประมาณ 919,163 ราย กรณีใช้ไฟตั้งแต่ 351-400 หน่วยต่อเดือน ได้ส่วนลด 45% หรือได้รับส่วนลดค่าเอฟทีประมาณ 30.90 สต.ต่อหน่วย มีผู้ใช้ไฟประมาณ 741,199 ราย กรณีใช้ไฟตั้งแต่  401-500 หน่วยต่อเดือน จะได้ส่วนลด 15% หรือได้รับส่วนลดค่าเอฟทีประมาณ 10.30 สต.ต่อหน่วย มีผู้ใช้ไฟประมาณ 1.06 ล้านราย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง