สภาสูงโวเอาจริงสอบสตท.โหด

คกก.จริยธรรมวุฒิสภารับคำร้องสอบปม  ส.ต.ท.หญิงโหด เตรียมเรียก “วัชระ” ให้ข้อมูล 5 ก.ย. ก่อนเชิญ “ส.ว.ธานี” รายต่อไป “สิงห์ศึก” ย้ำไม่มีมวยล้ม ลั่นให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ยึดหลักฐานเป็นหลัก ขออย่านำความรู้สึกกระแสสังคมตัดสิน “แจ๊ก” บุกสภาแนะเชิญ “บิ๊กโจ๊ก” ให้ข้อมูล “เต้” เผย “กมธ.ทหาร” ขอเอกสารเพิ่มอีกเพียบ “ตร.” แจ้ง 2 ข้อหาเพื่อนตำรวจหญิง

ที่รัฐสภา วันที่ 2 กันยายน เวลา 09.00 น. พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมการจริยธรรม วุฒิสภา ประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณากรณีมีผู้ยื่นเรื่องขอให้สอบสวนสมาชิกวุฒิสภา  (ส.ว.) ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฝาก ส.ต.ท.หญิงเข้ารับราชการและทารุณทหารหญิง

พล.อ.สิงห์ศึกให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า การประชุมวันนี้เป็นกระบวนการขั้นตอนสืบเนื่องจากกรณีที่นายธานี อ่อนละเอียด ส.ว.ได้แถลงต่อสาธารณะ ซึ่งจะนำคำแถลงดังกล่าวมาสู่การพิจารณาของคณะกรรมการจริยธรรม  เป็นเรื่องธรรมดาที่สมาชิกวุฒิสภาทุกคนและเลขาธิการวุฒิสภามีความไม่สบายใจและกังวลใจ วันนี้ขั้นตอนดำเนินการตามข้อบังคับประมวลจริยธรรมและระเบียบการรับเรื่อง  การพิจารณารับเรื่อง การยื่นเรื่อง และวิธีพิจารณา ที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามขั้นตอนนั้น

“วันนี้เป็นการประชุมครั้งแรกหลังจากที่ได้รับเรื่องจากเลขาธิการวุฒิสภาเมื่อวันที่ 1 ก.ย. โดยคณะกรรมการทุกคนให้ความสนใจและรับผิดชอบต่อความเป็นไปต่อสังคม รวมถึงห่วงใยความรู้สึกของประชาชน จึงมาร่วมกันประชุมอย่างทั่วหน้าทั้งที่เป็นการนัดประชุมฉุกเฉิน โดยวาระการประชุมในวันนี้จะเป็นการเริ่มต้นว่าจะมีประเด็นอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรม” พล.อ.สิงห์ศึกกล่าว

ถามถึงกระแสข่าวจะมีการล้มกระบวนสอบจริยธรรม  พล.อ.สิงห์ศึกกล่าวว่า เรามีความกังวลใจที่มีกระแสข่าวดังกล่าว ซึ่งไม่เป็นความจริงเพราะกระบวนการยังไม่เกิด เมื่อกระบวนการเกิดก็จะเกิดจากหลักฐานของนายธานีที่แถลงไป โดยเราสามารถยึดตรงนั้นมาได้ แต่จะไปเกี่ยวข้องอย่างไรคงต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง และต้องขอบคุณนายวัชระ  เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่มีความเป็นห่วงและอยากให้องค์กรมีความโปร่งใส มีธรรมาภิบาล  เพียงแต่เลขาธิการวุฒิสภาก็บอกว่า อะไรที่ยังไม่ครบก็ขอให้ท่านส่งข้อมูลมาเพิ่ม ซึ่งท่านก็พยายามส่งมา เราก็ต้องนำมาพิจารณาร่วมด้วย

ถามว่า จะต้องเชิญนายธานีมาชี้แจงหรือไม่ พล.อ.สิงห์ศึกกล่าวว่า คณะกรรมการจริยธรรมฯ ต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งหากเกี่ยวข้องก็จะมีการเชิญแต่ละคนมาแน่นอน

ซักว่า กรณีมีการขอตัวทั้ง ส.ต.ท.หญิงและ ส.ท.หญิงมาช่วยงานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ตรวจสอบทุจริตฯ ของวุฒิสภา จะต้องเชิญประธาน กมธ.ชุดดังกล่าว คือ พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ มาสอบถามด้วยหรือไม่ พล.อ.สิงห์ศึกกล่าวว่า หากมีหลักฐานเกี่ยวข้องถึงใครจะเชิญมาชี้แจงทั้งหมด

เมื่อถามว่า กรณีที่ กมธ.การทหาร สภาผู้แทนราษฎร  ได้มีการสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ ส.ต.ท.หญิงและ ส.ท.หญิง  แล้วพบว่าทั้งคู่ถูกเรียกตัวมาทำงานที่ กมธ.ในวุฒิสภา พล.อ.สิงห์ศึกกล่าวว่า ตนก็ยังไม่ทราบรายละเอียด ต้องรอประชุมวันนี้ แต่คาดว่าน่าจะมีข้อมูลที่ประสานร่วมกันกับ  กมธ.ฝั่ง ส.ส.ทั้ง 3 คณะได้ ส่วนจะมีการนำข้อมูลที่ได้มาเชื่อมโยงเพื่อพิจารณาหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับที่ประชุม แต่เชื่อว่าสามารถบูรณาการร่วมกันได้ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนทุกคนมั่นใจว่าการพิจารณาในวันนี้จะทำให้เกิดประโยชน์ และทุกอย่างดำเนินการตามที่กฎหมายระบุอย่างถูกต้องแน่นอน

ส.ว.เริ่มสอบปมฉาว

เมื่อถามว่า การประชุมคณะกรรมการจริยธรรมของวุฒิสภาช้าไปหรือไม่ เพราะ กมธ.ในฝั่ง ส.ส.ได้มีการดำเนินการไปแล้วเบื้องต้น พล.อ.สิงห์ศึกกล่าวว่า ทางวุฒิสภาตนถือว่าไม่ช้า เพราะบอกเบื้องต้นแล้วว่าข้อบังคับประมวลจริยธรรม ระเบียบในการพิจารณาในการยื่นเรื่อง รับเรื่อง วิธีการพิจารณาในการร้องเรียนในด้านจริยธรรมเป็นกฎหมาย  ดังนั้นอะไรที่เราดำเนินการเป็นขั้นตอนที่ถูกต้อง เราก็ดำเนินการตามกฎหมายกำหนด เราจะไปเอาความรู้สึกหรือกระแสสังคมแล้วทำนอกกฎหมาย ซึ่งผมจะไปสั่งคณะกรรมการไม่ได้ เราจะต้องอาศัยอำนาจและหน้าที่ที่มีกฎหมายรองรับ

 “กรอบเวลาในการตรวจสอบตามที่ระบุไว้คือภายใน 60  วัน โดยการนับเมื่อวานนี้หรือวันนี้เป็นวันแรกก็ได้ แต่หากไปเกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่นก็อาจจะมีการลงมติในคณะกรรมการฯ ว่าให้ไปถามหน่วยงานนั้นๆ ส่วนหน่วยงานที่ตอบกลับมาจะช้าหรือเร็วก็เป็นเรื่องของหน่วยงานนั้น ซึ่งหากการประชุมยังไม่เสร็จสิ้นก็ยังไม่สามารถได้ข้อยุติได้” พล.อ.สิงห์ศึกกล่าว

ขณะที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ได้ทำหนังสือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแต่งตั้ง ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์  บัวแย้ม เพื่อนำมาเป็นข้อมูลประกอบในการซักถามผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหาในขั้นการพิจารณาของคณะกรรมการจริยธรรม วุฒิสภา แต่ขณะนี้ สตช.ยังไม่ได้ส่งข้อมูลมา

“การทำงานของกรรมการจริยธรรมฯ จะตรวจสอบว่าผู้ใดเสนอแต่งตั้งตำแหน่งต่างๆ อาทิ ที่ปรึกษาและที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ รวมถึงอยู่ในคณะกรรมการชุดใด ทั้งในส่วนของวุฒิสภาและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งการแต่งตั้งดังกล่าวอยู่ในสมัย สนช.มากกว่า ส.ว. ซึ่งในส่วนของ ส.ว.ดูในเบื้องต้นไม่ค่อยมี จะมีก็เกี่ยวข้องเล็กน้อย ทั้งนี้ได้กำชับสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ว่ามีใครได้รับแต่งตั้งบ้าง ขณะเดียวกันส่วนตัวไม่ได้มีการติดต่อหรือพบกับนายธานี” ประธานวุฒิสภากล่าว      

เวลา 11.00 น. นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาที่รัฐสภาเพื่อยื่นหนังสือต่อ พล.อ.สิงห์ศึก ขอให้ตรวจสอบกรณี ส.ต.ท.หญิง  ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับ ส.ว.ทำทารุณทหารหญิง พร้อมแนบหลักฐานเพิ่ม

นายวัชระกล่าวว่า ตนมาตามที่ท่านพูดว่าขอให้ตนระบุชื่อ ตนเป็นคนซื่อ วันนี้จึงมาส่งชื่อพร้อมกับหลักฐานให้ท่าน  ทำให้ พล.อ.สิงห์ศึกรีบพูดว่า “ผมไม่ได้ท้าทายท่าน” จากนั้นนายวัชระกล่าวว่า วันนี้มาขอแจ้งชื่อนายธานี อ่อนละเอียด  ส.ว.ว่าเกี่ยวพันกับกรณี ส.ต.ท.หญิงดังกล่าวหรือไม่ หากท่านไม่ทราบว่านายธานีฝ่าฝืนข้อบังคับประมวลจริยธรรมข้อใด ตนยินดีมาให้ถ้อยคำต่อไป

“ผมเสนอคณะกรรมการให้เชิญ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.มาให้ข้อมูล เพราะท่านเป็นผู้สอบ ส.ต.ท.หญิงดังกล่าว ซึ่งดีกว่าไปขอสำนวนจาก สภ.ชะอำ สภ.หัวหิน และ สภ.ราชบุรี” นายวัชระกล่าว

พล.อ.สิงห์ศึกกล่าวขอบคุณนายวัชระ พร้อมระบุว่า คณะกรรมการจะรีบเร่งประชุมให้เสร็จโดยเร็ว และวันที่ 5  ก.ย.นี้อาจจะเชิญนายวัชระ ในฐานะผู้ร้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม

จากนั้นภายหลังการประชุมคณะกรรมการจริยธรรม วุฒิสภา นายสมชาย แสวงการ ส.ว. กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติรับคำร้องทั้ง 2 เรื่องของนายวัชระ ที่ยื่นให้ตรวจสอบจริยธรรมนายธานีที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์  โดยคณะกรรมการจริยธรรมฯ จะเริ่มพิจารณาในวันที่ 5  ก.ย., วันที่ 8 ก.ย. และวันที่ 10 ก.ย.นี้ ซึ่งจะใช้คณะกรรมการจริยธรรมฯ เต็มคณะ และพิจารณาอย่างรวดเร็วตามข้อบังคับกรอบ 60 วัน แต่หากได้ข้อยุติเร็วกว่านั้นก็จะรีบดำเนินการ หากมีประเด็นเพิ่มเติมก็จะพิจารณาว่าควรขยายวันพิจารณาหรือไม่

นายสมชายกล่าวว่า ที่ประชุมยังมีมติเรียกเอกสารข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.), กองบัญชาการกองทัพไทย, กอ.รมน. และ กอ.รมน.ภาค 4 สน. รวมทั้งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้าย อีกทั้งจะเรียกเอกสารทั้งหมดของ ส.ว.ในการแต่งตั้งบุคคลดังกล่าวว่าเกี่ยวข้องกับตำแหน่งใดๆ ใน กมธ.ชุดไหนอย่างไร โดยแบ่งเป็นช่วงที่เกี่ยวพันกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กับช่วง ส.ว. ทั้งนี้ ในวันที่ 5 ก.ย.นี้ คณะกรรมการจริยธรรมฯ จะเชิญนายวัชระเข้าให้ข้อมูลเป็นคนแรก ส่วนนายธานีนั้นเมื่อได้ข้อมูลแล้วจะเชิญมาให้ข้อมูลจากการประชุมนัดถัดไป 

แจ้ง 2 ข้อหาเพื่อน ตร.หญิง

 “ส.ว.ให้ความสำคัญในการตรวจสอบเรื่องนี้ จะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา รวดเร็ว ตามกฎหมาย ปฏิบัติตามข้อจริยธรรม ยืนยันว่าเราให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เพราะนายธานีก็เป็น ส.ว.ด้วยกัน และท่านก็แถลงข่าวว่า ไม่ได้ใช้อำนาจหน้าที่ไปหาผลประโยชน์ใดๆ” นายสมชายกล่าว

ถามถึงข้อเสนอของนายวัชระที่ขอให้เชิญ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์มาให้ข้อมูล นายสมชายกล่าวว่า ที่ประชุมยังไม่ได้พิจารณา ถือเป็นข้อมูลหนึ่งที่อาจพิจารณาว่าจะเชิญหรือไม่  ซึ่งต้องดูตามเอกสารที่เราจะขอไปก่อนตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าเพียงพอหรือยัง

วันเดียวกัน นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กมธ.ได้ทำหนังสือเพื่อขอเอกสารเพิ่มเติมไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับคำสั่งแต่งตั้ง ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ส่วนของ ส.ท.หญิง ปัทมา ศิริรัตน์ ก็ขอคำสั่งแต่งตั้งต่างๆ เช่นกัน รวมทั้งการบรรจุเข้ารับราชการจากกองบัญชาการกองทัพไทย

 “ในสัปดาห์หน้า กมธ.ป.ป.ช.จะมีการเรียกสอบเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน และจะมีการสอดประสานงานกันระหว่าง กมธ.การทหาร และ กมธ.ป.ป.ช. ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมที่ กมธ.การทหารมีข้อมูลอยู่ หาก กมธ.ป.ป.ช.ต้องการให้ กมธ.ทหารส่งตัวแทนร่วมประชุม หรือประชุมร่วมทั้ง 2 คณะพร้อมกันก็ยินดี เป็นการปฏิรูปกระบวนการรับฝากข้าราชการทหาร ตำรวจในระบบปัจจุบัน เพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาวในอนาคต” นายมงคลกิตติ์กล่าว

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ  รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในการดำเนินคดีอาญา ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรีได้ยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอเบิกตัวผู้ต้องหาไปทำการตรวจจิตเวช เพื่อนำผลการตรวจมาประกอบสำนวนคดี และพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำพยานไปแล้วหลายปาก อยู่ระหว่างรอผลตรวจและทำการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนของกฎหมาย

นอกจากนี้ ในส่วนการดำเนินคดีของ สภ.ชะอำ จว.เพชรบุรี พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างดำเนินการสอบปากคำผู้ต้องหาที่เรือนจำราชบุรีเพิ่มเติม และสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติม รวมถึงได้ทำการเก็บตัวอย่างส่งตรวจเปรียบเทียบทางนิติวิทยาศาสตร์ และทำการสอบปากคำพยานประกอบคดีไปแล้วหลายปาก โดยอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนกฎหมาย

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาเพื่อน ส.ต.ท.หญิง ผู้ต้องหาเพิ่ม 2 คน คือ อดีตตำรวจคนสนิทและเพื่อน ซึ่งกำลังรอผู้เสียหายให้ข้อมูลว่าถูกทำร้ายไปทั้งหมดกี่ครั้ง เพื่อประกอบสำนวน แจ้งข้อหาต่างกรรมต่างวาระต่อไป

“วันนี้สำนวนการสอบสวนใกล้จะสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงผลตรวจจิตเวชจากแพทย์จากโรงพยาบาลราชบุรีที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างว่ามีโรคป่วยทางจิต คาดได้รับผลตรวจหลังวันที่ 9 ก.ย. เนื่องจากต้องผ่านกระบวนการทางการแพทย์  หากได้รับผลตรวจทางการแพทย์ทางพนักงานสอบสวนจัดส่งสำนวนการสอบสวนในการสั่งฟ้อง หากพบว่ามีปัญหาทางจิตจริงก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ต้องหาจะไม่ถูกดำเนินคดี  แต่จะส่งตัวไปบำบัดก่อนกลับมารับโทษต่อไป” ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง