คุก2ปี‘นิว-จตุพร’ แคตวอล์กราษฎร ล้อเลียนสถาบัน

ศาลอาญาใต้สั่งจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา "นิว จตุพร" ผิด ม.112 ชุมนุมแต่งชุดไทยเดินแคตวอล์กราษฎร ทนายเผยศาลชี้มีเจตนาล้อเลียนสถาบันโดยมีการตระเตรียมไว้ ส่งศาลอุทธรณ์พิจารณาประกัน คุมตัวนอนเรือนจำ ขณะที่ศาลแขวงดอนเมืองสั่งจำคุก "เพนกวิน" กับพวกรวม 4 คน ชุมนุมหน้า สน.บางเขนให้กำลังใจ "อานนท์-ไมค์" 7 ส.ค.63 คนละ 2 เดือน ปรับ  11,300 บาท รอลงอาญา 1 ปี ส่วนอีก 3 คนโดนโทษปรับ

เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ 2 ยื่นฟ้อง น.ส.จตุพร แซ่อึง หรือนิว ชาว จ.บุรีรัมย์ อายุ 23 ปี แนวร่วมกลุ่มบุรีรัมย์ปลดแอก ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ป.อาญา.  มาตรา 112, ร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน,  ร่วมกันฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ, ร่วมกันชุมนุมที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคระบาด, ร่วมกันชุมนุมก่อให้เกิดความไม่สะดวกในที่สาธารณะ, ร่วมกันไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขคำสั่งเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมฯ  และร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต

กรณีการชุมนุมแต่งกายชุดไทยร่วมกิจกรรมแคตวอล์กราษฎร เมื่อวันที่ 29 ต.ค.63 บริเวณหน้าวัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขกสีลม) เรียกร้องเกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ เหตุเกิดที่แขวงสีลม เขตบางรัก  กรุงเทพมหานคร จำเลยให้การปฏิเสธ โดยในวันนี้จำเลยเดินทางมาศาลเพื่อฟังคำพิพากษา

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยภายหลังศาลอ่านคำพิพากษาว่า ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องพิพากษาให้จำคุก 3 ปี ให้การเป็นประโยชน์ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือ 2  ปี ปรับ 1,500 บาท ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือปรับ 1,000 บาท โทษจำคุกไม่รอลงอาญา โดยศาลให้เหตุผลว่า การแสดงมีการเจตนาที่จะล้อเลียนสถาบัน โดยมีการตระเตรียมการไว้

โดยในวันนี้ น.ส.จตุพรสวมชุดไทยเดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมกับทนายความ โดยมีพรรคพวกเพื่อนฝูงเดินทางมามอบดอกไม้ให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง

ก่อนฟังคำพิพากษา น.ส.จตุพรกล่าวว่า คดีนี้ที่ผ่านมาตนยืนยันให้การปฏิเสธ ขอให้การในชั้นศาล ซึ่งในการสืบพยานตนเองเบิกความด้วยตัวเอง 1 ปาก พร้อมนำส่งเอกสารพยานหลักฐานให้ศาลพิจารณาประกอบด้วย โดยตนยืนว่าในการเข้าร่วมการชุมนุมตนใส่ชุดไทยตามปกติ  ไม่ได้แต่งเลียนแบบใคร ไม่ได้ให้ใครมากราบมาไหว้หรือตะโกนทรงพระเจริญ คดีนี้เกิดจากการตีความของบุคคลอื่นและพยานโจทก์ที่มาเบิกความคิดไปเอง ซึ่งใครจะมองว่าตนแต่งเป็นใครก็ได้ แต่ตนยืนยันว่าแค่อยากใส่ชุดไทยเท่านั้น ส่วนตัวมั่นใจตัวเอง

ต่อมานายกฤษฎางค์เปิดเผยภายหลังยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ 3 เเสนบาทขอประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ โดยศาลอาญากรุงเทพใต้เห็นควรส่งขึ้นศาลอุทธรณ์พิจารณาสั่งคำร้อง ในวันนี้เมื่อหมดเวลาราชการจำเลยจะต้องถูกนำไปควบคุมตัวในเรือนจำ จนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งลงมา

วันเดียวกัน ที่ศาลแขวงดอนเมือง ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการ สํานักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีศาลแขวง 9 (แขวงดอนเมือง) ยื่นฟ้องนายพริษฐ์  ชิวารักษ์ ในความผิดต่อ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ, ความผิดต่อ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง, ความผิดต่อ พ.ร.บ.จราจรทางบก และสำนวนที่ 2  ที่ฟ้องนายชาติชาย แกดำ นักกิจกรรม, น.ส.สุวรรณา  ตาลเหล็ก นักกิจกรรม, น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล นักศึกษามหาวิทยาลัยมหานคร, นายสิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ นิสิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, น.ส.ศุกรียา วรรณานุวัฒน์ นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนาย ภัทรพงศ์ น้อยผาง นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  เป็นจำเลยที่ 2-7 ในความผิดเดียวกัน

จากกรณีชุมนุมหน้า สน.บางเขน คืนวันที่ 7 ส.ค.63 เพื่อให้กำลังใจนายภาณุพงศ์ จาดนอก และนายอานนท์ นำภา ซึ่งถูกจับกุมตามหมายจับในคดีการชุมนุมเยาวชนปลดแอก

คดีทั้งสองสำนวนนี้ ศาลสั่งให้รวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน โดยให้เรียกโจทก์ทั้งสองสำนวนว่าโจทก์ เรียกจำเลยในสำนวนแรกว่าจำเลยที่ 1 และเรียกจำเลย 1-6  ในสำนวนหลังว่า จำเลยที่ 2-7

โดยศาลพิพากษาว่า จำเลยทั้ง 7 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 วรรคหนึ่ง และจำเลยที่ 1-3 และที่ 6 มีความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ มาตรา 8 (1), 10 วรรคหนึ่ง, 27, 28, พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 114 วรรคหนึ่ง, 148 (เดิม), พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง  มาตรา 4 วรรคหนึ่ง, 9 วรรคหนึ่ง

การกระทำของจำเลยที่ 1-3 และที่ 6 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป รวมจำคุกจำเลยที่ 1-3 และ 6 คนละ 2 เดือน และปรับคนละ 11,300 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1-3  เเละ 6 เคยรับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ข้อหาอื่นสำหรับจำเลยที่ 4, 5 และ  7 ให้ยก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง