ถกญัตติด่วนสภาล่มอีก! สมคิดฉะสส.ใต้ไม่พัฒนา

สภาล่มอีก หลังถกญัตติด่วนให้สภาส่งเรื่องให้ ครม.จัดทำประชามติแก้ รธน.ทั้งฉบับพร้อมวันเลือกตั้ง ส.ส. "ทิพานัน" จี้จุดยืน "เพื่อไทย" ใช้ "ทักษิณ" หาเสียงแลนด์สไลด์เสี่ยงโดนยุบพรรค "รองโฆษก พท." สวนกลับอย่าจุ้นพรรคอื่น "อุ๊งอิ๊ง" เดินหน้านโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์  "สอท." คึก! จัดสัมมนาภูเก็ต "สมคิด" โชว์กึ๋นปลุก ศก.ภาคใต้ เหน็บภาคใต้มีส.ส.มาตลอดแต่ไม่เคยพัฒนา เอาแต่ประกันราคา “อุตตม" มั่นใจปักธงภาคใต้ "ก้าวไกล" ร้าวหนัก "ส.ส.สมเกียรติ" โวยพรรคส่งคนลงสมัครแทนที่

ที่รัฐสภา วันที่ 15 กันยายน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาพิจารณาเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามที่สภามีมติในการออกเสียงประชามติ เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนต่อการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ สาเหตุที่ต้องเสนอญัตติด่วน เพราะการสอบถามประชามติไปยังประชาชนเป็นผลประโยชน์สำคัญของแผ่นดิน และที่ต้องเป็นเรื่องด่วน เพราะขณะนี้สถานการณ์การเมืองจะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ไม่รู้ และการจัดทำประชามติ ตาม พ.ร.บ.ประชามติมาตา 9 (4) ยังมีอีกหลายขั้นตอน เมื่อผ่านสภาแล้วต้องไปผ่านวุฒิสภา และต้องเสนอ ครม.หารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ประชาชนทำประชามติพร้อมกับวันเลือกตั้ง จึงเป็นญัตติด่วนที่ต้องพิจารณาก่อนปิดสมัยประชุม

อย่างไรก็ดี นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะเลขาฯ วิปรัฐบาล ลุกขึ้นค้าน โดยขอให้นำวาระรับทราบที่อยู่ในวาระแล้วขึ้นมาพิจารณาก่อน จำนวน 3-4 เรื่อง และให้ใช้เวลาแต่ละเรื่องไม่นาน เพราะมีหน่วยงานรอชี้แจงมาพร้อมแล้ว จากนั้นให้นำญัตติด่วนวาจาดังกล่าวเข้ามาพิจารณา แต่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะวิปฝ่ายค้าน ยืนยันให้พิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจาก่อน ในที่สุดนายสุชาติจึงวินิจฉัยว่า ญัตติด่วนด้วยวาจาดังกล่าวได้เข้าสู่วาระแล้ว จึงขอให้ที่ประชุมดำเนินการไปตามที่มีผู้เสนอญัตติด่วนก่อน

นายณัฐพงษ์ ผู้เสนอญัตติ แถลงสาระสำคัญของญัตติว่า พ.ร.บ.ประชามติจะต้องมีการระบุอย่างชัดเจนเรื่องคำถามและคำตอบ รวมถึงสาระสำคัญประกอบการจัดทำประชามติ เพื่อให้ประชาชนสามารถออกเสียงประชามติได้อย่างถูกต้องตรงตามเจตนารมณ์ของประชาชนมากที่สุด จึงมีการเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับโดยผ่านสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)โดยจะต้องสอบถามประชาชนผ่านการทำประชามติก่อน จึงทำให้ที่ผ่านมาไม่สามารถแก้รัฐธรรมนูญได้ ตนจึงต้องเสนอญัตติด่วนในวันนี้ เพื่อขอทำประชามติสอบถามประชาชนว่าจะเห็นชอบให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ผ่านกลไกของ ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงหรือไม่ 

นายจุลพันธ์ ผู้เสนอญัตติของพรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า เห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเป็นที่ถกเถียงถึงที่มา  กระบวนการ และการลงประชามติวันนี้เราต้องการหยุดความสับสน จึงต้องให้ประชาชนลงประชามติก่อนว่าประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ เราจึงเสนอให้มีการทำประชามติไปพร้อมกับการเลือกตั้ง ส.ส.ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยเดินหน้าสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยตัวแทนของประชาชน

จากนั้นเป็นการอภิปรายแสดงความคิดเห็นของสมาชิก ซึ่งที่ประชุมแสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันให้มีการจัดทำประชามติเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะเห็นว่ารัฐธรรมนูญปี 60 เป็นอุปสรรคในการดำเนินการต่างๆ และให้ทำวันเดียวกับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น เพื่อประหยัดงบประมาณและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

ถกญัตติด่วนสภาล่มอีก

ทั้งนี้ ที่ประชุมลงมติเห็นชอบกับญัตติทั้ง 2 ฉบับ แต่ที่ประชุมต้องรอสมาชิกเข้ามาลงคะแนนเป็นเวลานาน โดยมีการอ้างว่าการประชุมวันพฤหัสฯ ส่วนใหญ่จะไม่มีการลงมติ เพราะเป็นวาระรับทราบรายงาน สมาชิกจึงออกมาไปข้างนอก นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมแจงว่า ขณะนี้รอสมาชิกมาเป็นเวลา 31 นาทีแล้ว ยังเหลือองค์ประชุมอีก 5 คน จึงรอจนเวลา 40 นาที องค์ประชุมจึงครบคือ 242 เสียง จากนั้นสมาชิกลงมติ โดยมีผู้ลงมติ 230 เสียง เห็นด้วย 215 ไม่เป็นด้วย 6 ไม่ลงคะแนน 6 

นายศุภชัยจึงแจ้งว่า ถือว่าเสียงข้างมากเห็นด้วยกับทั้งสองญัตติ แต่นายจุลพันธ์กล่าวว่า เจ็บปวดที่องค์ประชุมไม่ครบ ต้องยอมรับ คือกระบวนการไม่ครบ จะทำให้ความชอบสิ่งที่ลงมติเป็นปัญหาให้วุฒิสภาอ้างได้ว่าองค์ประชุมมีปัญหา เมื่อไปถึง ครม.จะมีปัญหาอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมได้ถกเถียงในประเด็นที่ว่าญัตติผ่าน แต่องค์ประชุมไม่ครบ อาจทำให้ผู้ที่ไม่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญหยิบยกมาโจมตีได้ ทั้ง นายจุลพันธ์ และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย เห็นตรงกันว่า หากสรุปว่าญัตติผ่านแล้ว แต่องค์ประชุมไม่ครบ จะทำให้สูญเปล่า และมีปัญหาข้อกฎหมายที่ค้างคา นำไปสู่การร้องศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมกับพยายามเสนอให้ว่าเมื่อองค์ไม่ครบ ควรปิดประชุมและเลื่อนการลงมติในครั้งถัดไป เพราะตัวญัตติยังมีความชอบ ไม่อยากให้ผ่านไปแล้วมีปัญหาทีหลัง

ในที่สุดนายศุภชัยชี้แจงว่า การลงมติดังกล่าวถือว่าเห็นด้วยกับการลงมติ ส่วนกรณีครบองค์ประชุมนั้น ถือว่าไม่ครบ ต้องเป็นเรื่องที่ว่ากันไปตามระบบ ข้อกฎหมายและข้อบังคับ และสั่งการปิดประชุมเวลา 15.55 น.

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวในคลับเฮาส์ชี้ให้เลือกพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ 2 สมัย และพูดถึงนโยบายค่าแรงต่างๆ ว่า นายทักษิณได้พยายามพูดจาสั่งการพรรคเพื่อไทย (พท.) มาโดยตลอด ต่างกรรมต่างวาระ ล่าสุดทำเหมือนเป็นหัวคะแนน ช่วยหาเสียงให้กับพรรค จึงเป็นที่น่าสังเกตว่าพรรค พท.มีส่วนรู้เห็นเป็นใจกับการหาเสียงในครั้งนี้หรือไม่

 “พรรค พท.ต้องเคารพกฎหมาย และต้องทำความเข้าใจว่าเป็นการกระทำที่สุ่มเสี่ยงครอบงำ ชี้นำการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคการเมืองขัด พ.ร.ป.พรรคการเมือง พ.ศ.2560

 “เชื่อว่าคนไทยทุกคนไม่ต้องการตระกูลที่คอร์รัปชันมาบริหารประเทศ จึงอยากทราบจุดยืนของพรรค พท.ว่า ชัดเจนใช่หรือไม่ที่จะใช้นายทักษิณ นักโทษคดีมาหาเสียงแลนด์สไลด์ให้พรรคการเมือง โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจของพรรคมีความคิดเห็นอย่างไร เห็นด้วยกับคำประกาศต่างๆ ของนายทักษิณหรือไม่ สิ่งสำคัญที่สุด พรรค พท.ควรต้องเคารพกฎหมาย ควรเคารพประชาชน ไม่เอานักโทษโกงชาติมาเป็นแบบอย่างให้ลูกหลาน ไม่เอาคนที่มีประวัติคอร์รัปชันมาหาเสียงนโยบายพรรค" น.ส.ทิพานันกล่าว

ด้าน น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรค พท. ออกมาตอบโต้ น.ส.ทิพานันว่า การเข้ามาทำงานการเมืองในตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นข้าราชการการเมือง กินเงินเดือนที่มาจากภาษีประชาชน การพาดพิงถึง ดร.ทักษิณ และพาดพิงมาถึงพรรคเพื่อไทย โดยการใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตัวเองในทางที่มิชอบ อาจเข้าข่ายกระทำการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ดังนั้นก่อนที่จะสั่งสอนผู้อื่น ต้องย้อนกลับมาดูที่การกระทำของตนเองด้วย 

พท.เดือดซัดกลับ พปชร.

 “คนที่กระทำการสุ่มเสี่ยงครอบงำพรรคอื่นจนถูกร้องยุบพรรคคือ พล.อ.ประยุทธ์ เดือนตุลาคมปี 2564 มีคนร้องเรียน พล.อ.ประยุทธ์ กรณีเรียก 6 รัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ เข้าหารือเมื่อวันที่ 25 ต.ค. อาจเข้าข่ายผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 และมาตรา 29 หรือไม่ หรือเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐของ น.ส.ทิพานัน อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ออกมายอมรับว่าคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย ในประเด็นไม่ไปกินข้าวเย็นร่วมกับพรรคเพื่อไทย กลุ่ม 16 และพรรคเล็ก ล้วนเป็นการกระทำที่ก้าวก่ายแทรกแซงการทำงานของพรรคการเมืองอื่น ซึ่งอาจจะนำไปสู่การยุบพรรค พปชร.ทั้งสิ้น” รองโฆษก พท.กล่าว

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยสะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ จ.เชียงใหม่ ที่ผ่านมาว่า นโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ ที่พรรคได้เข้าร่วมหารือ แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะกับศิลปิน ผู้ประกอบการ นักวิชาการ และนักพัฒนาเมือง ในแวดวงธุรกิจสร้างสรรค์ ที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ได้เห็นถึงความพร้อมและศักยภาพของจังหวัดเชียงใหม่ที่จะกลายเป็นเมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เราเห็นถึงแนวทางในการปลดล็อกอุปสรรค เปลี่ยนศักยภาพคนเป็นคุณค่า สร้างรายได้ และเชื่อมั่นว่าประเทศไทยสามารถสร้างทิศทางประเทศโดยใช้ซอฟต์พาวเวอร์เพื่อยกระดับรายประเทศได้

ที่โรงแรมรามาดา พลาซ่า เจ้าฟ้า จ.ภูเก็ต พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) จัดสัมมนา อันดามันรอด ประเทศไทยรุ่ง นำโดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค, นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และผู้บริหารพรรค โดยมีตัวแทนภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่จังหวัดอันดามัน เข้าร่วมฟังประมาณ 450 คน  

  นายสมคิดปาฐกถาพิเศษถึงแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว โดยไม่ต้องการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายทางการเมือง ตอนหนึ่งระบุว่า รถไฟไทย-จีนกว่าจะคืบได้ ลาวเสร็จไปถึงคุนหมิงแล้ว เพราะมัวแต่ทะเลาะกัน วันนี้เราได้แต่นั่งมองลาวตาปริบๆ หากเป็นอย่างนี้จะลำบากมาก การเชื่อมโยงรถไฟและถนนต้องทำให้ได้ จากสงขลามาภูเก็ตใช้เวลาถึง 7 ชั่วโมง ภาคใต้มี ส.ส.มาตลอด ส.ส.ทำอะไร ตนนั่งอยู่ใน ครม.ไม่ได้ยินสักแอะเลย มีแต่ประกันรายได้ ประกันทั้งปีเลย ของหมูๆอย่างนั้นใครๆ ก็ทำได้  

 “คนใต้คอการเมือง อนาคตการเมืองภาคใต้เปลี่ยนแปลงแน่ ช่วยกันเปลี่ยนแปลง ส่งคนรุ่นใหม่มาการเมือง เรารู้ว่าทางใต้มีศรัทธาและผูกพันกับพรรคการเมืองบางพรรคหรือหลายๆ พรรค ลองคิดดูสิว่าสิบปีที่ผ่านมาภาคใต้ของคุณเปลี่ยนแปลงไปเยอะหรือไม่ ถนนหนทางของคุณสู้เหนือได้หรือไม่ สู้อีสานได้หรือไม่ ฉะนั้นผมจะบอกให้ว่าจะรักใคร ชอบใครไม่มีใครเขาว่า แต่ในยามอย่างนี้ จุดพลิกผันของประเทศต้องขอพักเขาไว้บนหิ้งก่อน” นายสมคิดระบุ

ส่วนนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค สอท. กล่าวว่า สำหรับการเมืองภาคใต้พรรคได้ให้ความสำคัญอย่างมาก ทีมงานพรรคหลายคนมีความคุ้นเคยในพื้นที่ และถือว่าขณะนี้กระแสตอบรับของพรรคดีขึ้นหลังจากพรรคเชิญนายสมคิดมาเป็นประธานพรรค เราได้เสนอชุดความคิดนโยบายที่ดี เรามีผู้เชี่ยวชาญเรื่องเศรษฐกิจที่มีประสบการณ์ ภาคใต้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญที่การท่องเที่ยวที่ไม่แพ้ใครในโลกนี้ แต่ต้องแก้ไขปัญหาที่เรากำลังเผชิญร่วมกัน และขับเคลื่อนการพัฒนาต่อไป เชื่อมั่นว่าเมื่อถึงเวลาคัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสมจะเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เราก็ไม่แพ้ใคร

วันเดียวกัน นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล แถลงถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.จำนวน 23 คน ไม่มีชื่อตนเองว่า ขอยืนยันตนไม่ใช่งูเห่าของพรรค ที่ผ่านมาไม่เคยโหวตสวนพรรค แม้จะเคยมีคนเสนอให้ตนรับเงินตั้งแต่มีการยุบอดีตพรรคอนาคตใหม่ แต่ตนก็ไม่รับ และอยู่กับพรรคก้าวไกลมาจนถึงปัจจุบัน แต่ไม่รู้ทำไมพรรคจึงตัดสินกล่าวหาตนแบบนี้

“ผมไม่ได้เป็นงูเห่า ถ้าพรรคมีหลักฐานขอให้นำมาโชว์ภายใน 1 สัปดาห์ หากเป็นเรื่องจริง ผมจะขอลาออกจากการเป็น ส.ส.พรรค ไม่ต้องรอให้มีการยุบสภา และจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.สมัยหน้า รวมถึงขอให้นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ในฐานะที่ดูแลการเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง 400 เขตทั่วประเทศ ออกมาชี้แจงว่านายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ ได้ไปพูดก่อนว่าได้ลงสมัคร ส.ส.เขตบางนา พระโขนง ก่อนที่จะมีการประกาศตัวอย่างเป็นทางการจริงหรือไม่ และได้มีการขออนุญาตกรรมการบริหารพรรคหรือไม่” นายสมเกียรติกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง