พท.เสี้ยม‘ป้อม’ดีกว่า‘ประยุทธ’

"บิ๊กป้อม" หายไข้ เช้าประชุมติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค บ่ายลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม "ชลน่าน" เสี้ยม "ประวิตร-ประยุทธ์" ทำงานชิงกันเองหวังเป็นแคนดิเดตนายกฯ คนต่อไปชี้ "บิ๊กป้อม" เป็นตัวเลือกของ พปชร.ได้ดีกว่า "บิ๊กตู่" ด้าน "ธนกร" สวนกลับ ยัน 2 ป.ไม่เคยแตกคอ ทั้ง 2 คนต่างเป็นตัวเลือกดีที่สุดของ ปชช. ขณะที่ ปชป.นัดถกกก.บห.ปรับ ครม. 12 ต.ค. แทน รมช.ตำแหน่งเดียว  

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม มีรายงานข่าวจากมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด แจ้งว่า ในเช้าวันเดียวกันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีอาการดีขึ้นแล้ว หลังจากที่เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมามีอาการไข้ถึงกับต้องลาที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กะทันหัน

และในเวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ครั้งที่ 1/2565 ที่ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยเปลี่ยนสถานที่จากเดิม จะประชุมที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นในช่วงบ่าย พล.อ.ประวิตรเดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดปทุมธานี และพบประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึง กรณี 3 ป.ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม และการลงพื้นที่พร้อมๆ กัน อย่างที่ พล.อ.ประวิตร ลงแล้ว และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหมลงต่อ ว่าหากมองในภาพบวกถือว่าเป็นความรับผิดชอบ เป็นหน้าที่ที่ต้องทำ ในสภาพวิกฤตอย่างนี้ ผู้บริหารต้องเข้าถึงสภาพปัญหาที่แท้จริง ไม่ใช่ฟังปัญหาอยู่เฉพาะห้องอย่างเดียว ส่วนอีกมุมเป็นเรื่องของการใช้อำนาจหน้าที่ ตามภาษาวัยรุ่นเรียกว่าขิงกันหรือไม่ ก็แล้วแต่จะแปลความ  เพราะโดยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย นายกฯ ที่แท้จริงเขากลับมาแล้ว มาทำหน้าที่เดิมของเขา เว้นแต่ความหวังคือ การสร้างสถานะของการทำงาน คนเข้าใจปัญหาเพื่อหวังจะเป็นแคนดิเดตนายกฯในการเลือกตั้งครั้งต่อไป แม้จะมองเป็นข้อขัดแย้ง แต่ประชาชนได้ผลประโยชน์ จงทำ ตนเห็นด้วย และคนสนับสนุน เพื่อที่จะบอกตัวเองว่าฉันพร้อมที่จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ

เมื่อถามว่า คงจะได้เห็นภาพ พล.อ.ประวิตรและ พล.อ.ประยุทธ์ในอนาคต ทำแบบนี้ต่อไป ฝ่ายค้านจะโอเคใช่หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ภาพโอเค แต่ห้ามใช้อำนาจหน้าที่ใช้ภาษีอากรของประชาชน ไปแสวงหาผลประโยชน์ในการหาเสียง พวกเราเองถูกมัดมือมัดเท้า แต่ตัวท่านมีหน้าที่ มีอำนาจ และมีภาษีอากรของประชาชนอยู่ ก็ทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย อย่าได้เอาเปรียบกับพรรคการเมืองอื่น อันนี้ถือว่าไม่ชอบ ขอให้ระมัดระวัง

 “คนไม่มีแรงกลับมีใจบันดาลแรงขึ้นมา คนที่เคยอยู่ในขวดซีอิ๊ว กระโดดขึ้นมาใส่กางเกงยีนส์เป็นแหนมป้าย่น ภาพมันก็ชัด และสิ่งที่ชัดที่สุดคือวิธีการทำงาน ความเห็นอกเห็นใจพี่น้องประชาชน การเข้าถึงประชาชน ภาพมันชัด มีความต่างกันมาก และน่าจะเห็นภาพชัดว่าใครเป็นแคนดิเดตของพรรคพลังประชารัฐ​"

นพ.ชลน่านกล่าวอีกว่า ส่วนใครจะเป็นแคนดิเดตก็อยู่บนพื้นฐานการพิจารณาของกรรมการบริหารพรรคของเขา หากจะเลือก พล.อ.ประยุทธ์ ที่อยู่ในอำนาจได้แค่ 2 ปี ก็ตอบคำถามประชาชนไม่ได้ และเหมือนดูถูกประชาชน เขาต้องระมัดระวัง พรรคเขาคงจะเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะทำให้พรรคเขารอด

 “พล.อ.ประยุทธ์ไม่น่าใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับพรรค พปชร. พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรค ก็เป็นตัวเลือกได้ อย่างน้อยก็ดีกว่า พล.อ.ประยุทธ์” นพ.ชลน่าน กล่าว

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี  พรรคเพื่อไทย​ กล่าวเช่นกันว่า วิธีการทำงานเช่นนั้นเหมือนหันหน้าไปคนละทางสร้างดาวคนละดวง แต่ในภาพอื่นๆพยายามสร้างภาพว่าเข้าใจและรักกัน แต่ภาพภายนอกเห็นไม่เป็นเช่นนั้น อย่ามัวแต่มาสร้างภาพว่ารักกัน ให้ลงไปทำงานร่วมกันทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือประชาชนจะดีกว่า

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่มีทางที่ พล.อ.ประยุทธ์จะยอมปล่อยมือจากอำนาจ ด้วยความสำนึกว่าได้สร้างความเสียหายไว้กับประเทศ มีแต่จะหาช่องทางรักษาอำนาจและลากดึงกันไปข้างหน้า และเชื่อว่าความขัดแย้งภายในกลุ่ม 3 ป. ยังมีอยู่จริง แต่คงไม่ข้ามพ้นผลประโยชน์ทางการเมืองและทางอำนาจที่ผูกไว้ร่วมกัน และเชื่อว่าจะมีการยุบสภาอย่างเร็วก็หลังการประชุมเอเปก เป็นเพียงการช่วงชิงความได้เปรียบในการเลือกตั้งเท่านั้น เพราะสุดท้ายพรรคฝ่ายรัฐบาลก็ได้เปรียบ

เมื่อถามว่า การลงถนนชุมนุมในเวลานี้จะเหมาะสมหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เคารพในการตัดสินใจของทุกฝ่าย และไม่มีศักยภาพที่จะไปตัดสินว่าเหมาะสมหรือไม่ แต่เชื่อในวิจารณญาณของแต่ละฝ่ายว่าจะรับผิดชอบการเคลื่อนไหวของตัวเองได้ มองว่าไม่มีกลุ่มไหนเจตนาร้ายต่อบ้านเมือง

นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวตอบโต้นพ.ชลน่านว่า เข้าใจว่าเรื่องเสี้ยมอาจจะเป็นงานถนัดของฝ่ายค้าน แต่แค่แตกคอกันเองในพรรคยังทำให้สงบไม่ได้ ก็ไม่ควรมาเสี้ยมพรรคอื่นให้เขาแตกคอกันเอง อย่างไรก็ตาม ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร ต่างเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของประชาชนในขณะนี้ แต่อาจจะเป็นหนามทิ่มแทงใจ นพ.ชลน่าน ก็เท่านั้นเอง ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์กับ พล.อ.ประวิตรไม่มีวันแตกคอกัน เพราะเป็นความรักความผูกพันที่มั่นคงยั่งยืน มุ่งทำงานรับใช้ประชาชน ไม่เหมือนความรักของฝ่ายค้านที่ฉาบฉวย หลงใหลชั่วครู่ชั่วคราวแล้วก็ทิ้งกันไป อย่างไรก็ตาม สุดท้ายประชาชนจะเป็นคนตัดสินเอง คงไม่ต้องลำบากรบกวน นพ.ชลน่านให้มาทำตัวเป็นหมอเดาทำนายให้

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการปรับ ครม.แทนตำแหน่งที่ว่างว่า พรรคได้นัดประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ในวันที่ 12 ต.ค.ที่พรรค แต่หนังสือเชิญยังไม่ออกอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่ามีการพิจารณาหาคนมาแทนตำแหน่งที่ว่างด้วย คือแทนตำแหน่งที่ตนลาออกจาก รมช.มหาดไทย ส่วนจะเป็นใครมาแทนนั้นคงต้องรอฟัง กก.บห.และ ส.ส. ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับพรรค ซึ่งเบื้องต้นจะพิจารณาเพียงตำแหน่งเดียว

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าจะเกิดแรงกระเพื่อมในพรรค นายนิพนธ์กล่าวว่า เชื่อว่าไม่มีแรงกระเพื่อมเกิดขึ้น เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่าต้องพิจารณาคนมาแทนตำแหน่งที่ว่าง ไม่ใช่รื้อทั้ง 7 ตำแหน่ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง