นัดถล่มหลังเอเปก ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายทั่วไป 3พ.ย.เสนอญัตติกราดยิง!

"ฝ่ายค้าน” จ่อยื่นอภิปรายทั่วไป ม.152 หลังเอเปก เปลี่ยนใจไม่ยื่นญัตติเปิดประชุมวิสามัญปมกราดยิงหนองบัวฯ-น้ำท่วม อ้างขั้นตอนช้าต้องใช้เวลา แต่เสนอเป็นญัตติด่วนด้วยวาจาแทน 3 พ.ย.นี้ เผยยื่นฟ้องนายกฯ-รมต. 16 เรื่อง ลั่นจะดำเนินการถึงที่สุด กมธ.เด็ก ส.ว.ผนึก 108  องค์กร ประกาศเจตนารมณ์ 8 ข้อลดปัญหาความรุนแรง ชงนายกฯ พิจารณา จี้ออก พ.ร.ก.คุมปืนเถื่อน กมธ.เด็ก ส.ส.จ่อลงหนองบัวฯ “บิ๊กตู่” ย้ำเดินหน้ากวาดล้างยาเสพติด โวกรมศุลกากรจับเฮโรอีนซุกซ่อนผ่านไปรษณีย์ มูลค่า 21  ล้านบาท

ที่รัฐสภา วันที่ 17 ตุลาคม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายสุขุมพงศ์ โง่นคำ ผู้ช่วยเลขานุการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายสุรเชษฐ์  ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ และนายนิคม  บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย ร่วมแถลงข่าวภายหลังประชุมวิปพรรคร่วมฝ่ายค้าน

นพ.ชลน่านกล่าวว่า ที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติ 4  เรื่อง คือ 1.เรื่องความก้าวหน้าของการดำเนินคดีนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ที่เป็นผลพวงอภิปรายไม่ไว้วางใจ 2.เราจะเสนอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เรื่องด่วน เหตุกราดยิงหนองบัวลำภูที่มีการละเมิดสิทธิ์เด็ก แต่เนื่องจากมีการประกาศราชกิจจานุเบกษาเรียกประชุมสภาสมัยสามัญ ในวันที่ 1 พ.ย.65 ดังนั้นการขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญจึงเป็นเรื่องที่ทำได้ยากและช้ากว่า จึงจะไม่ดำเนินการยื่นเปิดวิสามัญ เพราะขั้นตอนการยื่นเราเตรียมความพร้อมไว้แล้ว เหลือเพียงลงชื่อและต้องใช้เวลา

"พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติเหตุกราดยิงและน้ำท่วมใหญ่ในประเทศ ซึ่งจะยื่นเป็นญัตติด่วนด้วยวาจาในวันที่ 3 พ.ย.นี้  ซึ่งเป็นการประชุมวันแรก เพื่อให้สภาร่วมกันพิจารณาพูดคุยประเด็นปัญหารายละเอียดและสาเหตุ และข้อเสนอไปยังรัฐบาล เพื่อหาทางออกร่วมกันแก้ไขปัญหาประเทศ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องยาเสพติดและอาวุธปืน และสภาพทางจิตใจ รวมทั้งปัญหาน้ำท่วม เราจะประสานงานวิปรัฐบาลเข้าสภา มั่นใจว่าวิปรัฐบาลไม่ปฏิเสธ เชื่อว่าราบรื่นจากเสียงข้างมาก"

นพ.ชลน่านกล่าวด้วยว่า ส่วนการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติมาตรา 152 นั้น เนื่องจากเราได้มีการยื่นญัตติด่วนด้วยวาจาด่วนแล้ว เช่น ปัญหายาเสพติด ภัยแล้ง และอุทกภัย เราจึงขอประเมินสถานการณ์และจะยื่นขอเปิดอภิปรายหลังจากประชุมเอเปก แต่ต้องคำนึงโอกาสอยู่รอดของสภาว่าจะมีการยุบสภาหรือไม่ หากมีโอกาสยุบสภาจริง เราจะเร่งยื่นญัตติดังกล่าวทันที

ด้านนายสุขุมพงศ์กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีรวมทั้งหมด 16 เรื่อง ยื่นต่อองค์กรอิสระและศาลไปแล้ว 12 เรื่อง และเหลืออีก 4 เรื่องที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ล่าสุดได้มีการเพิ่มประเด็นอีก 3 เรื่อง รวมทั้งหมด 19 เรื่อง อาทิ ทุจริตถุงมือยาง  การใช้งบกลางของนายกฯ ทุจริตโครงการบ้านเคหะสุขประชา และที่ดินเขากระโดง จะมีการตั้งกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบคู่ขนานกรณีนาฬิกาเพื่อนและจีที 200 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยังไม่ชี้มูลความผิด เพราะอาจเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

 “ถึงแม้ว่าเราจะครบ 4 ปี เราได้อภิปรายไม่ไว้วางใจมา  4 รอบแล้ว ผลสรุปทั้งหลายเมื่อเขายังดำรงตำแหน่งเกิน 8  ปี มติของสภาไม่สามารถที่จะพ้นตำแหน่งไปได้ แต่ผลการกระทำความผิด อะไรที่เป็นความผิดต่อกฎหมายก็ดี ความผิดต่อจริยธรรมก็ดี เป็นเหตุยุบพรรคก็ดี พรรคร่วมฝ่ายค้านต้องดำเนินการให้ถึงที่สุดจนสิ้นกระแสความ” นายสุขุมพงศ์กล่าว

ชง 8 ข้อให้นายกฯ พิจารณา

ที่รัฐสภา นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ส.ว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส  วุฒิสภา แถลงว่า จากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่ จ.หนองบัวลำภู กมธ.ได้ระดมความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญหลายภาคส่วนเพื่อหารือพูดคุยร่วมกันเมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา จนตกผลึกโดยมีองค์กรร่วมลงชื่อผลักดันจำนวน 108 องค์กร  เพื่อประกาศเจตนารมณ์ 8 ข้อแสดงปณิธานในการลดปัญหาความรุนแรงในสังคมไทย ได้แก่ 1.จะร่วมกันผลักดันให้เกิดการจัดการปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะการค้ายาเสพติดที่ต้องมีการประกาศสงคราม รวมถึงในเชิงป้องกัน ปกป้องคุ้มครอง ปราบปรามและบำบัดเยียวยา วางแผน และปฏิบัติตามแผนอย่างเต็มกำลังความสามารถและบังคับใช้อย่างเข้มงวด

2.จะร่วมกันผลักดันให้สามารถขจัดปัญหาการครอบครองอาวุธปืน ทั้งปืนเถื่อนที่ผิดกฎหมาย และจำกัดการใช้อาวุธปืนที่ถูกกฎหมายทั้งในระดับบุคคล องค์กรและประเทศ  และการใช้งานอย่างเข้มงวด 3.จะร่วมกันสร้างความตระหนักถึงปัญหาการใช้ความรุนแรงในสังคมทุกมิติ และร่วมกำจัดปัจจัยที่สนับสนุนหรือกระตุ้นให้เกิดความรุนแรง เช่น  ปัญหาเนื้อหาในเกม ข่าว ละคร ภาพยนตร์ หรือสื่อออนไลน์อื่นๆ

4.จะร่วมกันกำหนดมาตรการป้องกันเด็กและเยาวชน  เพื่อให้ได้รับการเลี้ยงดูที่เหมาะสมได้มาตรฐาน ไม่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงโดยง่าย 5.จะร่วมกันสนับสนุนการวางแผนการศึกษาวิจัย และการใช้นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาศักยภาพด้านการรู้เท่าทัน และทักษะการป้องกันปัญหาความรุนแรงแก่เด็กและเยาวชน 6.จะร่วมกันผลักดันให้มีการสำรวจพฤติกรรมพลังบวก 7.จะสื่อสารถึงเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างระมัดระวังและเหมาะสม และ 8.จะหลีกเลี่ยงการสื่อสารที่ตอกย้ำและซ้ำเติมบาดแผลในจิตใจของเด็ก เยาวชน และครอบครัวผู้ประสบเหตุ

โดย กมธ.จะส่งเจตนารมณ์ดังกล่าวให้ พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ภายในวันนี้  (17 ต.ค.) เพื่อพิจารณาโดยด่วน และจะใช้เวทีวุฒิสภาหารือในที่ประชุมและตั้งกระทู้ถาม พร้อมทั้งนำผลเจตนารมณ์ดังกล่าวเข้าสู่การอภิปรายเพื่อให้ประชาชนรับรู้ต่อไปด้วย

เมื่อถามถึง กรณีที่นิด้าโพลเปิดเผยผลสำรวจว่า  ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่กฎหมายยึดหลักผู้เสพคือผู้ป่วย นายวัลลภกล่าวว่า เราก็เห็นพ้องต้องกันว่าผู้เสพติดมีหลายลักษณะ ต้องไปดูรายละเอียดของบุคคล ความหนักหนาสาหัสของแต่ละกรณี และการติดยาเสพติดซ้ำของแต่ละคน ซึ่งการรับโทษตามที่กฎหมายกำหนดให้ติดคุก 1 ใน 3  ถึงจะสามารถลดโทษได้ แต่กรณียาเสพติดจะใช้สูตรสำเร็จแบบเดิมในการลดโทษไม่ได้ ส่วนกรณีการใช้อาวุธปืนทำร้ายกัน พบว่าร้อยละ 90 มาจากปืนเถื่อน การรอกฎหมายจากกระทรวงมหาดไทยคงช้าไป ต้องมีการออก พ.ร.ก.ให้นำปืนเถื่อนมาคืนภายใน 3 เดือน และจำกัดสิทธิการถือครองว่าจะถือครองได้คนละกี่กระบอก มีอายุการถือครองเท่าไร ซึ่งไม่ควรให้ถือครองตลอดชีพ แต่ต้องมีการจำกัดเวลาเพื่อพิจารณาพฤติกรรมของผู้ถือครองตามระยะเวลาที่เหมาะสม

ตอกย้ำปราบยาล้มเหลว

ขณะที่นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ   พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษก กมธ.กิจการเด็ก เยาวชน  สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงแนวทางการเฝ้าระวังเหตุความรุนแรง และมาตรการดูแลความปลอดภัยของเด็กจากเหตุโศกนาฏกรรมที่ จ.หนองบัวลำภู โดย กมธ.มีข้อเสนอแนะดังนี้ 1.เสนอให้คณะรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกัน เฝ้าระวังเหตุความรุนแรง กำหนดมาตรการดูแลความปลอดภัยของเด็ก  และแผนการรับมือและการให้ความช่วยเหลืออย่างครอบคลุมรอบด้าน 2.เสนอให้สภาผู้แทนราษฎรต้องตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางป้องกัน และแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็กในทุกมิติ ทั้งนี้ ในวันที่ 31  ต.ค.นี้ กมธ.จะเดินทางไปที่เกิดเหตุศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ จ.หนองบัวลำภู เพื่อให้กำลังใจผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้และติดตามการแก้ไขปัญหาอีกครั้ง

ที่พรรคเพื่อไทย นส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันว่า การแก้ปัญหายาเสพติดจะต้องทำอย่างจริงจัง ดังนี้ 1.ยืนยันแนวคิดประกาศสงครามกับยาเสพติด เพื่อคืนชีวิต คืนอนาคตของลูกหลาน สู่อ้อมกอดของครอบครัว 2.แนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาลโดยพลเอกประยุทธ์  เป็นไปด้วยความล้มเหลว 3.หลักการผู้เสพคือผู้ป่วย ยังคงเป็นหลักการสำคัญที่สุดในการแก้ไขปัญหายาเสพติด  4.หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะมีการเพิ่มสถานบำบัดผู้ติดยาเสพติด นำผู้เสพมาบำบัดอย่างจริงจัง สถานบำบัดจะต้องเพียงพอต่อการแก้ไขปัญหามากกว่านี้  5.ที่ผ่านมารัฐบาลแก้ปัญหายาเสพติดล้มเหลว ตั้งแต่วิธีการที่ผิดด้วยการตั้งคณะกรรมการจำนวนมากมายเกินความจำเป็น

 “พรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่จะแก้ปัญหายาเสพติดระบาดได้   เราจะทำสงครามกับยาเสพติดเพื่อไม่ให้ลูกหลานของเราสูญสิ้นอนาคตไปมากกว่านี้ เกือบทศวรรษที่ผ่านมา นับได้ว่าเป็นทศวรรษที่สูญหายไปของสังคมไทย เราจะหยุดวงจรอุบาทว์ยาเสพติด ไม่ให้คนไทยต้องหมดอนาคตไปมากกว่านี้” นส.ลิณธิภรณ์กล่าว

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้เดินหน้าปราบปรามยาเสพติดทั้งการผลิต การนำเข้า การนำผ่าน และการลักลอบจำหน่าย โดยสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มงวด ซึ่งล่าสุดกรมศุลกากรจับกุมการลักลอบขนย้ายเฮโรอีน ที่ซุกซ่อนมากับสินค้าทางพัสดุไปรษณีย์ ณ สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 7,210 กรัม  มูลค่ากว่า 21 ล้านบาท จากประเทศกัมพูชาผ่านประเทศไทย โดยมีปลายทางที่ไต้หวัน

 “นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการกวาดล้างกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในทุกขั้นตอน ทั้งการผลิต การนำเข้า การนำผ่าน และการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดและสารตั้งต้นมาโดยตลอด ซึ่งนายกรัฐมนตรีขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันทำงานเพื่อปราบปรามยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง เชื่อมั่นว่าหากทุกหน่วยงานร่วมมือกันจับกุม ดำเนินคดี และลงโทษผู้กระทำความผิด ย่อมทำให้สถานการณ์ด้านยาเสพติดดีขึ้นอย่างแน่นอน” นางสาวรัชดากล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รมต.ใหม่ถวายสัตย์ เศรษฐานำเข้าเฝ้าฯ3พ.ค. แม้วควงสุวัจน์ทัวร์ภูเก็ต

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ "มาริษ" เป็น รมว.ต่างประเทศ "นายกฯ" เตรียมนำ รมต.ชุดใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ 3 พ.ค.นี้