‘วันนอร์’ ฟุ้งเก็บเรียบ 12 เก้าอี้ส.ส.แดนใต้

"วันนอร์" คุยลั่น!  พรรคประชาชาติขอกวาด 12 ที่นั่งหมดทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยันไม่ขอร่วมงานกับ "บิ๊กตู่" ส่วน "บิ๊กป้อม" เปิดรับฟังความคิดเห็นภาคประชาสังคมแก้ปัญหาชายแดนใต้

            เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2565 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พร้อมด้วยนายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ รองหัวหน้าพรรค และคณะผู้บริหารพรรคประชาชาติ ได้เดินทางพบปะกับคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนายหล้อ สายวารี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้การต้อนรับ

            นายวันนอร์ได้กล่าวว่า การเดินทางมาในวันนี้เพื่อเปิดตัวนายอุดร น้อยทับทิม เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 7 พรรคประชาชาติ เนื่องจากทางเราได้พิจารณาแล้วเห็นว่านายอุดรเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเพียงพอที่จะเข้าไปเป็นตัวแทนของชาวนครศรีธรรมราช  และเคยมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเคยเป็น หน.สำนักงาน และรอง ผวจ.มาก่อน และเข้ากับสภาพสังคมพหุวัฒนธรรมของ จ.นครศรีธรรมราชได้เป็นอย่างดี ซึ่งนโยบายของพรรคของพวกเรา จะเข้าไปทำให้ประชาชนชาวภาคใต้อยู่ดีกินดีกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

            ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจว่าพรรคประชาชาติจะได้รับการเลือกตั้งครั้งนี้กี่ที่นั่ง นายวันนอร์ตอบว่า เฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 12 ที่นั่ง เรามั่นใจว่าพรรคประชาชาติจะกวาดหมดทั้ง 12 ที่นั่ง ส่วนจังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้ เรามั่นใจว่าจะสามารถปักธงได้สำเร็จใน จ.นครศรีธรรมราช 1-2 ที่นั่งแน่นอน โดยอีกคนกำลังพิจารณาอยู่คือ ดร.สืบพงศ์ ธรรมชาติ หากชัดเจนวันไหนจะประกาศให้ทราบต่อไป เนื่องจากว่าเป็นคนมีคุณภาพคนหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช

            ผู้สื่อข่าวถามว่า หากผลการเลือกตั้งออกมาแล้ว ทางพรรคประชาชาติมีความชัดเจนในการเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ อย่างไร นายวันนอร์ตอบว่า อันนี้ต้องดูผลการเลือกตั้งก่อนว่าพรรคทางฝ่ายประชาธิปไตยมีเสียงข้างมากก็จะเข้าร่วมรัฐบาลแน่นอน พรรคเราจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลกับฝั่งเผด็จการเด็ดขาด

            ถามว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาอีก จะร่วมกับพรรคของ พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ นายวันนอร์ตอบว่า  ตนจะไม่ร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์อย่างแน่นอน แต่ตนเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกอย่างแน่นอน

            ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์  เดินทางมาร่วมการสัมมนา ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภายใต้ชื่องานพลังประชารัฐ พลังคนสร้างชาติ “เพราะมีคุณ จึงมีพรรค” เป็นการส่งสัญญาณว่าจะมี ส.ส. คนอื่นๆ ไหลเข้าพรรคอีกว่า ขออย่าไปคิดว่าใครมาใครไปแล้วฮือฮา อย่าไปคิด ให้คิดว่าก็เป็นผู้สมัครคนหนึ่งที่จะมาช่วยกันสร้างพรรคพลังประชารัฐ ทั้งนี้ ก็ยังไม่ทราบว่านายอันวาร์จะมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ เพราะตนทราบแค่นายอันวาร์เดินทางมาร่วมงานสัมมนาพรรค

          เมื่อถามถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่าพรรคที่ดูด ส.ส.ไปจะต้องละอาย นั่นหมายถึงพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ นายวิรัชกล่าวว่า "เรื่องนี้ไม่ขอตอบ ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องไปตอบ เขาว่าอะไรมาก็ปล่อยเขาว่าไป"

          ถามกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ประกาศว่าจะทวง ส.ส.ภาคใต้กลับคืนมานั้น นายวิรัชตอบว่า ไม่น่ากระทบกับฐานเสียงในพื้นที่พื้นใต้ของพรรคพลังประชารัฐ ที่เลือกตั้งครั้งที่แล้วมี ส.ส. 12 คน ก็ต้องพยายามรักษาเอาไว้ให้ดีที่สุดก็พอ ส่วนที่จะมี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐย้ายไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ก็เป็นเพียงกระแสข่าว ตอนนี้ยังไม่เห็นมีใครไป ยังมีร่วมสัมมนาพรรคเยอะอยู่

          นายวิรัชกล่าวว่า ในการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งในการสัมมนาครั้งนี้เป็นการจัดครั้งแรก หลังจากนี้จะมีการจัดรายภาค เพราะแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน โดย จ.นครราชสีมา เน้นเรื่องมอเตอร์เวย์ รถไฟรางคู่ ท่าเรือ ตลอดจนการทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้ทำอะไรไปบ้างตลอดการทำงานและเห็นชัดเจน โดยย้อนหลังไปอีก 8 ปีที่เห็นได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะ จ.นครราชสีมา โครงการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ อย่างไรก็ตาม ทั้งพรรคมีความพร้อมในการเตรียมตัวผู้สมัครไว้ครบหมดแล้ว รวมไปถึงในส่วนของ จ.นครราชสีมาด้วย

            ที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) วันเดียวกันนี้ มีกิจกรรมประชุมเชิงปฏิบัติการรับฟังความคิดเห็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา โดยภายในงานมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดกิจกรรมผ่านระบบ zoom meeting ว่ารัฐบาลตระหนักดีว่าการมีส่วนร่วมของประชาชนต่อการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องที่จะต้องสนับสนุนและอำนวยความสะดวก เพื่อให้เป็นภาคีการทำงานร่วมกับรัฐบาลและส่วนราชการในการสร้างประโยชน์และความสุขให้กับประชาชน ซึ่งผลสรุปจากการประชุมในวันนี้ จะได้นำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ในวันที่ 19 ธันวาคมที่จะถึงนี้ต่อไป

            ด้าน พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า การกำหนดกรอบแผนการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนต่อการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในระยะที่ 4 ปี 2567- 2570 ศอ.บต.มุ่งเน้นที่จะส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ยกระดับคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำ เสริมสร้างความเข้าใจแก่ทุกภาคส่วนในการบริหารจัดการภาครัฐ ตลอดจนการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่นภายใต้วิถีสังคมพหุวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยั่งยืน กำหนดกรอบแนวทางการขับเคลื่อนงานร่วมกันระหว่างองค์กรภาค ประชาสังคมและหน่วยงานภาครัฐอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายและแนวทางการแก้ไขปัญหาและพัฒนาให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด รวมถึงสร้างเครือข่ายให้เกิดความเข้มแข็ง โดยร่วมกับภาครัฐและภาคส่วนต่างๆ สนับสนุนให้องค์กรภาคประชาสังคมเป็นศูนย์กลางการประสานและเชื่อมต่อการดำเนินงานแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนำความสันติสุขมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ว

            ที่พรรคสร้างอนาคตไทย แถลงเปิดชุดนโยบายภาคการเกษตร ภายใต้ยุทธศาสตร์ “คืนชีวิตให้เกษตรกรไทย” โดยนายนริศ เชยกลิ่น รองหัวหน้าและโฆษกพรรค, ศ.ดร.กำพล ปัญญาโกเมศ รองหัวหน้าพรรคและประธานด้านวิชาการ และนายจิรมิตร เกษร ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนด้านเกษตรยั่งยืนและเกษตรวิถีใหม่

            นายนริศกล่าวว่า ประเทศไทยมีประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร เฉพาะที่ขึ้นทะเบียนกับรัฐมีเกือบ 10 ล้านคน แต่ที่ผ่านมาชีวิตของเกษตรกรต้องประสบกับปัญหาความยากลำบากจากหลายสาเหตุ ส่งผลให้ชีวิตติดกับดักวงจรความยากจน พรรคสร้างอนาคตไทยเชื่อว่าเกษตรกรคือรากฐานสำคัญของประเทศ หากเกษตรกรไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ ประเทศไทยก็ไม่สามารถที่จะพัฒนาก้าวหน้าต่อไปได้เช่นกัน พรรคจึงได้กำหนดยุทธศาสตร์ “คืนชีวิตเกษตรไทย” เพื่อพลิกฟื้นชีวิตเกษตรกรในทุกมิติ รวม 8 นโยบาย ครอบคลุมทั้งด้านหนี้สิน ต้นทุนการผลิต ราคาผลผลิต ที่ดินทำกิน แก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง ฯลฯ โดยมีเป้าหมายให้เกษตรกรสามารถพลิกฟื้นชีวิตได้ภายในระยะเวลาที่รวดเร็ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง