กู้2หมื่นล.อุ้มดีเซล4เดือน รถบรรทุกขู่ขึ้นค่าขนส่ง!

ม็อบรถบรรทุกบุกกระทรวงพลังงาน หั่นดีเซล 25 บาท ขีดเส้น 1 ธ.ค. ยกระดับไล่ รมต. ขู่ขึ้นราคาค่าขนส่ง 10% นายกฯ ยันเร่งแก้ปัญหา วอนอย่ากดดันเห็นใจประเทศบ้าง ครม.ไฟเขียวกู้ 2 หมื่นล้านตรึงราคา 30 บาท "สุพัฒนพงษ์" คาดประคองได้ 4 เดือน

ที่กระทรวงพลังงาน เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน เวลา 10.00 น. สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย นำโดยนายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์ฯ และผู้ประกอบการรถบรรทุกจำนวนหนึ่ง ได้รวมตัวกันเคลื่อนขบวนรถบรรทุกกว่า 100 คัน เพื่อทำกิจกรรมม็อบกลุ่มคนขับรถบรรทุก “TRUCK POWER SEASON” ด้วยการเปิดเพลงปลุกใจและบีบแตรรถพร้อมเพรียงกัน บนถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณตรงข้ามกระทรวงพลังงาน เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ พร้อมยื่นหนังสือข้อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างสงบ ขณะที่การจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิตติดขัดเป็นระยะๆ เนื่องจากกลุ่มรถบรรทุกใช้ช่องทางการจราจรในช่องทางหลัก 1 ช่องทางซ้าย จอดเรียงกันเป็นแถวยาวตั้งแต่บริเวณห้าแยกลาดพร้าวเป็นระยะทางยาวกว่า 5 กิโลเมตร

นายอภิชาติกล่าวว่า ข้อเรียกร้องในหนังสือที่จะยื่นต่อนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ยังคงเป็นข้อเรียกร้องตามจุดยืนเดิม คือตรึงราคาน้ำมันดีเซลที่ 25 บาทต่อลิตร เป็นเวลา 1 ปี ลดภาษีสรรพสามิต, ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาดูแล ถอดส่วนผสมน้ำมันปาล์มออกจากน้ำมันดีเซล ส่วนกรณีที่ไม่ได้รวมตัวเคลื่อนขบวนไปกระทรวงการคลังนั้น เพราะเห็นว่ากระทรวงพลังงานตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลราคาพลังงาน ควรบริหารจัดการด้วยตัวเองได้ ไม่ควรโยนเผือกไปให้คนอื่นรับผิดชอบ ถ้าทำไม่ได้ควรยุบกระทรวงพลังงานไปเลย

"จะขีดเส้น 15 วัน ภายในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ จะต้องมีความชัดเจนจากรัฐบาล หากยังไม่ชัดและยังไม่มีการเปิดโต๊ะเจรจา จะยกระดับการเคลื่อนไหวในมาตรการต่อไป คือให้รถบรรทุกจะเติมน้ำมัน 20 ลิตร แล้วขับรถเข้ากรุงเทพฯ หากน้ำมันหมดตรงไหนจอดตรงนั้น และหากรัฐมนตรีพลังงานไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ก็ควรที่จะลาออกไป โดยจะมีการยกระดับขับไล่รัฐมนตรีอย่างแน่นอน และจะเป็นการเคลื่อนไหวก่อนจะยกระดับในมาตรการขั้นสุดท้าย คือ ปรับราคาภาคการขนส่งขึ้น 10% มีผลวันที่ 1 ธ.ค.นี้ ซึ่งมาตรการนี้จะส่งผลกระทบกับราคาสินค้าอุปโภคบริโภคด้วย" นายอภิชาติระบุ

ต่อมาเวลา 13.00 น. นายสมบูรณ์ หน่อแก้ว รองปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นตัวแทนรับหนังสือ โดยระบุว่า หลังจากนี้จะนำข้อเสนอต่อนายสุพัฒนพงษ์ เพื่อพิจารณาหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่าที่ผ่านมากระทรวงพลังงานไม่ได้นิ่งนอนใจ เข้าใจความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการที่เกิดขึ้น

จากนั้นผู้ประกอบการรถบรรทุกทยอยสลายตัวกันในเวลา 14.00 น.

ที่โรงแรมโซฟิเทล กระบี่ โภคีธรา กอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ท จ.กระบี่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ว่า ยืนยันแล้วว่าเราต้องรักษาให้ได้ในราคา 30 บาทต่อลิตรก่อน เพราะขนาดตรึงแค่ราคา 30 บาท ใช้เงินอุดหนุนไปประมาณเดือนละ 3,000 ล้านบาท กองทุนน้ำมันอยู่ในสภาพที่ติดลบแล้ว ทั้งนี้ครม.ได้อนุมัติเงินกู้เพื่อนำงบประมาณมาใช้จ่ายสำรองไว้ในช่วง 4 เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ตาม หากราคาน้ำมันมีการปรับลดลง ทุกอย่างจะดีขึ้น ทุกอย่างจะกลับคืนเข้าสู่สภาวะปกติ

ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่ผู้ประกอบการขนส่งนำรถบรรทุกเคลื่อนไหวบนถนนสายหลักและมาชุมนุมที่บริเวณหน้ากระทรวงพลังงาน นายกฯ กล่าวว่า เท่าที่ได้รับรายงานเป็นความเคลื่อนไหวของสมาคมรถบรรทุก ซึ่งในประเทศไทยมีหลายสมาคม ยอมรับว่ามีคนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน ซึ่งรัฐบาลต้องดูแลทุกคน จึงจำเป็นต้องดูให้ละเอียดถี่ถ้วน ขอร้องว่าอย่าใช้แรงกดดันเลย ขอให้เห็นใจประเทศชาติบ้างในเวลานี้ ซึ่งวันเดียวกันนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมไปจัดการขนส่งทางรถไฟ จะเอารถ บขส. ขนส่งสินค้าเพิ่มเติม และถ้ามีความจำเป็นทหารพร้อมที่จะสนับสนุนให้ด้วย

นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของโครงสร้างมีหลายส่วนด้วยกัน ซึ่งในส่วนของภาษีกลับมาเป็นรายได้ของประเทศ ส่วนเรื่องค่าการตลาดจำเป็นต้องมี ดังนั้นหากให้ลดลงทั้งหมดแล้วรายได้ของประเทศจะมาจากตรงไหน ต้องช่วยกันคิดตรงนี้ ตนได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงานไปพิจารณาอยู่ว่าจะทำอะไรได้บ้าง

นายสุพัฒนพงษ์เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุม​ ครม.สัญจรอนุมัติขยายวงเงินกู้เพื่อการอุดหนุนกองทุนน้ำมัน วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท จากเดิมกำหนดไว้ 2 หมื่นล้านบาท โดยกองทุนจะกู้จากสถาบันการเงินเพื่อตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาท ซึ่งเงินกู้ที่อนุมัติกรอบไว้ 3 หมื่นล้านบาท สามารถกู้ได้ทันที 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้จะสามารถตรึงราคาน้ำมันดีเซลได้ประมาณ 4 เดือน หลังจากนั้นจะพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.เห็นชอบการขออนุมัติกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เพื่อเสริมสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพของประชาชน ดังนี้ 1.อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินกู้เพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ พ.ศ..... โดยเปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินกู้เพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ เป็นจำนวนไม่เกิน 30,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันกำหนดไว้ 20,000 ล้านบาท

2.เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์การกู้เงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยกำหนดให้ สกนช. จะต้องเสนอเหตุผลความจำเป็นในการกู้เงิน รายละเอียดการกู้เงิน (แผนการกู้เงิน แผนการใช้จ่ายเงินกู้ และแผนการชำระหนี้) ต่อคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อให้ความเห็นชอบก่อนนำเสนอ ครม.เพื่ออนุมัติต่อไป ทั้งนี้ การกู้ยืมเงินของ สกนช. ถือเป็นการก่อหนี้สาธารณะ สกนช.จะต้องพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง 3.อนุมัติการกู้ยืมเงิน โดยให้เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง โดยให้ สกนช.ดำเนินการกู้เฉพาะวงเงิน 20,000 ล้านบาท ตามกรอบของกฎหมายกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีอยู่ และจะดำเนินการกู้เงินเพิ่มเติมวงเงิน 10,000 ล้านบาท ได้ต่อเมื่อร่าง พ.ร.ฎ. มีผลบังคับใช้แล้ว โดยแผนการเบิกจ่ายเงินกู้ที่ สกนช.ประมาณการไว้จะเริ่มเบิกเงินกู้ประมาณเดือน มิ.ย.2565.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง