พท.ตีปี๊บแก้รธน. ห้ามรัฐประหาร!

.vce-row-container .vcv-lozad {display: none}

โปรดทราบ! เพื่อไทยร่อนแถลงการณ์วันรัฐธรรมนูญ โวมีนโยบาย ร่าง รธน.ฉบับใหม่ ตัดวงจรอุบาทว์ รัฐประหารถือเป็นกบฏ คดีไม่มีอายุความ  ห้ามนิรโทษกรรม ห้ามหน่วยงานราชการยอมรับคณะรัฐประหารเป็นรัฏฐาธิปัตย์   สุดท้ายผวา ส.ว.เลือกนายกฯ

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2565 พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ในโอกาสวันรัฐธรรมนูญ มีเนื้อหาว่า ต้องยอมรับว่าในประเทศเสรีประชาธิปไตยนั้น รัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ มีความสำคัญทั้งในเชิงการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจและสังคม หากบ้านเมืองมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย ก็จะส่งเสริมให้ระบบการเมืองมีความเข้มแข็ง ระบบเศรษฐกิจของประเทศมีความเจริญเติบโต และพัฒนาก้าวหน้าไปได้  ประชาชนในฐานะเจ้าของประเทศก็ย่อมได้รับประโยชน์โดยทั่วถึง แต่หากได้รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย และขาดการยอมรับของประชาชน นอกจากจะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศด้านต่างๆ และผู้รับผลกระทบโดยตรงก็คือประชาชนโดยรวม

ดังนั้น รัฐธรรมนูญที่ดีจึงต้องมีความเป็นประชาธิปไตยสูง หลักนิติรัฐนิติธรรมต้องได้รับการเคารพและปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด บทบัญญัติการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชนต้องได้รับการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม การจัดสรรอำนาจให้แก่องค์กรต่างๆ ต้องเป็นไปอย่างเหมาะสม ไม่มีองค์กรใดอยู่เหนือองค์กรอื่นจนขาดการตรวจสอบการใช้อำนาจ สถานการณ์ของประเทศในปัจจุบันต้องการและมีความจำเป็นที่ต้องมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย

เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า ที่ผ่านมารัฐธรรมนูญของประเทศไทยส่วนใหญ่จะมีผลพวงมาจากการรัฐประหาร ซึ่งเป็นตัวฉุดรั้งอันสำคัญต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาของประเทศ เช่นเดียวกับรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่มีผลพวงมาจากการรัฐประหารของ คสช. เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 และถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของความต้องการสืบทอดอำนาจของ คสช. และความมีอคติทางการเมืองของผู้ร่างและคนที่อยู่เบื้องหลัง เนื้อหาก็ขาดความเป็นประชาธิปไตย ที่มาก็ขาดความชอบธรรม แต่ด้วยเกราะป้องกันหรือกำแพงที่ถูกสร้างขึ้นโดยกลไกในรัฐธรรมนูญของผู้ร่าง แม้สมาชิกรัฐสภาและประชาชนจะพยายามร่วมกันในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญหลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ เพิ่งสำเร็จครั้งแรกเรื่องการแก้ไขระบบเลือกตั้งเท่านั้น แต่กลไกอื่นๆ ซึ่งเป็นอุปสรรคและปัญหาสำคัญยังคงไม่สามารถแก้ไขได้

สำหรับพรรคเพื่อไทยนั้น มีนโยบายชัดเจนในเรื่องการจัดทำหรือการให้ได้มา  ซึ่งรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยที่ประชาชนมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน เพื่อให้เป็น “รัฐธรรมนูญของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง” โดยพรรคได้เสนอให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งยังคงรูปแบบของรัฐและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยผ่านกระบวนการออกเสียงประชามติและให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนมายกร่าง

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการตัดวงจรอุบาทว์ คือการรัฐประหาร พรรคมีข้อเสนอให้เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญและกฎหมายว่าการรัฐประหารถือเป็นกบฏ  คดีไม่มีอายุความ และจะนิรโทษกรรมไม่ได้ไม่ว่ากรณีใดๆ ห้ามมิให้องค์กรและหน่วยงานของรัฐยอมรับคณะรัฐประหารเป็นรัฏฐาธิปัตย์ โดยให้ถือว่าหลักการดังกล่าวเป็นประเพณีการปกครองของประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ผวา ส.ว.เลือกนายกฯ

เนื่องในโอกาสวันรัฐธรรมนูญ พรรคจึงขอให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกภาคส่วน   ได้ตระหนักถึงความสำคัญของรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย และได้โปรดร่วมแรงร่วมใจกัน ผลักดันให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประสบความสำเร็จ เพื่อสะท้อนถึงการมีส่วนร่วมและความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง

ในเบื้องต้นขอเชิญชวนพรรคการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ได้ร่วมกันแก้อุปสรรคสำคัญเร่งด่วนของบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ในบทเฉพาะกาล เพื่อให้การเลือกนายกรัฐมนตรีกระทำในสภาผู้แทนราษฎรตามที่บทบัญญัติหลักกำหนดไว้ ด้วยการเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีควรมาด้วยกติกาที่เป็นธรรม เสมอภาค สะท้อนเจตนารมณ์ความต้องการของประชาชนที่แท้จริงผ่าน   การเลือกตั้ง พร้อมกับสมควรแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ มาตรา 159 ให้นายกรัฐมนตรีมีที่มาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ อันเป็นการสอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตยและความต้องการของประชาชนจากการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นไปตามหลักการสากลที่ประเทศเสรีประชาธิปไตยทั่วโลกได้ปฏิบัติกันมาตลอด จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

ด้านนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส์ส่วนตัวว่า สวัสดีครับ วันนี้เป็นวันที่ปวงชนชาวไทยได้ระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยามฉบับถาวรฉบับแรกของประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2475 เป็นรากฐานการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มาถึงวันนี้นับรวมเวลาแล้ว 90 ปี

ความสำคัญของรัฐธรรมนูญ คือเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครอง อยู่เหนือกฎหมายอื่นๆ ซึ่งเป็นหลักประกันไม่ให้ผู้ปกครองใช้อำนาจตามอำเภอใจ และคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนไม่ให้ถูกละเมิด

ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญประกาศใช้มาแล้ว 20 ฉบับ โดยแต่ละฉบับปรับเปลี่ยนไปตามบริบทและสถานการณ์การเมืองในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งอาจเป็นเรื่องปกติหากมองในมุมประเทศที่มีอายุการปกครองระบอบประชาธิปไตยได้ไม่นานนัก แต่พรรคสร้างอนาคตไทยเชื่อว่า ชาวไทยทุกคนมีความฝันอยากจะเห็นประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญที่คำนึงถึงประโยชน์สุขสูงสุดของประชาชนอย่างแท้จริง

พรรคสร้างอนาคตไทยยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพร้อมเดินไปกับพี่น้องทุกคนในการสร้างสรรค์การเมืองการปกครองที่ถือเอาประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นที่ตั้งตามที่หวังไว้ร่วมกัน

5 หมื่นชื่อเสนอแก้ รธน.

นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวในงานแถลงข่าว “50,000 ชื่อ ร่วมเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยเต็มใบโดย สสร.” เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม ณ ห้องสเตทรูม โรงแรม Westin สุขุมวิท ว่า วันนี้ครบรอบ 90 ปีประชาธิปไตย ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญมาแล้ว 20 ฉบับ เพราะติดกับดักอำนาจนิยม ประชาธิปไตยของไทยเลยไม่พัฒนาก้าวหน้าเป็นขั้นบันได

"เนื่องในวันรัฐธรรมนูญนี้ ผมจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ร่วมลงชื่อ 50,000 ชื่อ เพื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เป็นประชาธิปไตย โดยให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ร. ซึ่งภาคประชาชนร่วมกับพรรคไทยสร้างไทยเสนอริเริ่มต่อรัฐสภา และวันนี้ได้เปิดให้ประชาชนลงชื่อได้แล้วในระบบอิเล็กทรอนิกส์ของเว็บไซต์รัฐสภา เพื่อเปลี่ยนแปลงกติกาใหม่ที่เป็นธรรม และมีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 21 ที่เป็นประชาธิปไตยเสียที"

นายเมธากล่าวว่า ภาคประชาชนสนับสนุนให้มีการแก้ไขและร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เนื่องจากประการที่หนึ่ง ที่ผ่านมาเรามีเจตจำนงของประชาชนในการร่วมกันผลักดันรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย  หรือฉบับประชาชน เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 60 ที่เป็นกับดักอำนาจนิยม ที่ผ่านมาเราเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งจากพรรคการเมืองและภาคประชาชนแล้วกว่า 25 ฉบับ แต่ผ่านเพียงฉบับเดียว คือการแก้ระบบเลือกตั้งและสัดส่วน ส.ส. ที่ฝ่ายรัฐบาลคิดว่าจะได้ประโยชน์ในครั้งแรก สำหรับร่างแก้ไขฉบับใหม่นี้ เป็นไปตามที่รัฐสภาเคยรับหลักการให้มี ส.ส.ร. ผ่านวาระ 2 ไปแล้ว และค้างอยู่วาระ 3 และไม่ขัดต่อคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด เพราะเป็นร่างแก้ไขหมวดที่ 3 เป็นต้นไป และร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้เพื่อเปิดทางให้มี ส.ส.ร.มาร่างใหม่ในอนาคต เป็นครั้งสุดท้ายที่สามารถทำได้ในการประชุมครั้งสุดท้ายของรัฐบาลนี้เพื่อหาทางออกให้บ้านเมือง

เหตุผลประการที่สอง เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 60 คือฉบับที่เลอะเทอะที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะให้อำนาจ ส.ว.จากการแต่งตั้งของคนไม่กี่คนมาแต่งตั้งนายกฯ ผิดหลักการ และทำลายประชาธิปไตยไปหมด กฎหมายหลายฉบับไม่ผ่านรัฐสภาเพราะ ส.ว.แต่งตั้งเหล้านั้น ถ้าไม่มี ส.ว. ก็ผ่านทุกร่าง ดังนั้น ส.ว.คืออุปสรรคในการพัฒนาประชาธิปไตยและการปฏิรูปการเมือง

ประการที่สาม รัฐบาลภายใต้รัฐธรรมนูญนี้ จึงใช้อำนาจนิยมแบบเลอะเทอะที่สุดในประวัติศาสตร์เช่นกัน เพราะแม้แต่ พล.อ.ประยทธ์ ก็ไม่เคยเคารพรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่การละเมิดมาตรา 161 เรื่องถวายสัตย์ฯ มาตรา 44 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุม แต่ไปออกกฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ไปละเมิด รวมถึงมาตรา 56 ที่รัฐไปทำสัญญาเอกชนสัมปทานผูกขาดการผลิตไฟฟ้าโดยเอกชนเกินร้อยละ 51 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยภายในเดือนมกราคมนี้

ประการที่สี่ ในปีหน้าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะถือเป็นเจตจำนงที่ทุกพรรคการเมืองจะต้องทำสัญญาประชาคมกับประชาชนผ่านการเลือกตั้งทั่วไป ทุกพรรคจะต้องมีคำตอบและแนวทางที่ชัดเจน  พรรคไหนไม่มีแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือจะไปต่ออีก 2 ปี ประชาชนก็ไม่ต้องไปเลือก

"โดย ครป.และภาคประชาชน จะจัดเวทีใหญ่เพื่อนำเสนอแนวทางการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนในวันที่ 18 ธันวาคมนี้ เพื่อร่วมกันออกแบบรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย เพื่อนำเสนอต่อทุกพรรคการเมืองและ ส.ส.ร.ในอนาคตต่อไปเป็นไกด์ไลน์ข้อเสนอจากฝ่ายประชาชน".

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นิพิฏฐ์' หนุน 'ผู้ว่าแบงก์ชาติ' อย่าถอดใจ ประชาชนต้องการให้เป็นวีรบุรุษที่ยังมีชีวิต

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านทางเพซบุ๊กว่า *สายเลือดพ่อ คุณอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร กล่าวว่า “ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ”

ชำแหละ 'อุ๊งอิ๊ง' ดีเอ็นเอทักษิณกำเริบ คิดรบกับแบงก์ชาติ ไร้น้ำยาแต่ทำตัวเป็นกูรู

นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า เมื่อ ดีเอ็นเอทักษิณกำเริบ คิดรบกับ "แบงก์ชาติ" เห็นข่าวอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ดีเอ็นเอทักษิณ

'รองเลขาฯเพื่อไทย' แห่ตาม 'อุ๊งอิ๊ง' โจมตีแบงก์ชาติไม่ฟังเสียงรัฐบาล

น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณีการวิจารณ์คำแถลง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประเด็นความเป็นอิสระและการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย