รทสช.คึกจ่อเปิดตัว‘ไตรรงค์’

“บิ๊กตู่” ยันเกาะติดการเมือง ระบุ “พี่ป้อม” แถลงชัดเจนไปแล้ว เด็ก พปชร.ที่เตรียมตามลุงตู่แบไต๋ออกปฏิทินคู่พร้อมโลโก้ รทสช. “เสี่ยหนู” ยอมรับมี ส.ส.เตรียมซบภูมิใจไทยอีกแต่ไม่รู้จำนวน “กนก” ทิ้ง ปชป.เข้าค่ายชาติไทยพัฒนา ชี้เป็นพรรคมีสัจจะ “ก้าวไกล” ลงยะลาขายฝัน  ถล่มตั้งแต่ยุคแม้ว 3 จังหวัดชายแดนใต้อยู่ด้วยความหวาดกลัว ชงเลิกกฎอัยการศึก-ยุบทิ้ง กอ.รมน. “ไทยภักดี”  ประกาศไม่ยุบไม่ย้าย

เมื่อวันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองว่า ในฐานะนายกฯ ติดตามสถานการณ์ในทุกๆ  เรื่อง

ผู้สื่อข่าวถามว่า รวมถึงสถานการณ์การเมืองด้วยใช่หรือไม่ นายกฯ พยักหน้าพร้อมกล่าวว่า ใช่ๆ รวมอยู่ด้วย การเมืองก็ว่ากันไป หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐก็แถลงไปแล้ว

ที่ศูนย์การแสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี หลัง  พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานกล่าวเปิดงาน OTOP City  2022 ประจำปี 2565 และเยี่ยมชมสินค้าและผลิตภัณฑ์โอทอปตามบูธต่างๆ ร่วมกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลฯ และคณะ ซึ่งช่วงหนึ่งนายชัยวุฒิได้แนะนำนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์  ทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้ พล.อ.ประยุทธ์รู้จัก ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวทักทายสั้นๆ ว่า "ดีๆ คนรุ่นใหม่มาช่วยทำงานให้บ้านเมืองกันนะ" ต่อมานายชัยวุฒิได้แนะนำนายณภัทร ชุ่มจิตตรี หรือคิง ก่อนบ่ายฯ ว่าเป็นดาราตลก โดยนายกฯ ได้ทักทายด้วยการตบบ่า ขณะที่นายชัยวุฒิ แนะนำต่อว่า เป็นดาราตลกเลียนเสียงนายกฯ นายณภัทรจึงได้ถอดหน้ากากอนามัยแล้วทำเสียงเลียนแบบนายกฯ ว่า  "สวัสดีพี่น้องประชาชน" ทำให้นายกฯ หัวเราะชอบใจ

ทั้งนี้ ก่อนนายกฯ จะเดินทางกลับได้มีบรรดาแฟนคลับตะโกนให้กำลังใจ "รักลุงตู่ ลุงตู่สู้ๆ” ซึ่งนายกฯ ได้กล่าวขอบคุณ และมีบรรดาแฟนคลับเข้ามาพูดคุยและให้กำลังใจ พล.อ.อนุพงษ์ พร้อมขอว่า “อย่าทิ้งลุงตู่นะ อยู่ช่วยงานก่อนนะ” ซึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ยิ้มพร้อมยกมือไหว้ขอบคุณ

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธตอบคำถามการเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 20 ธ.ค.พิจารณาแต่งตั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นเลขาธิการนายกฯ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีซูเปอร์โพลระบุว่า พรรค ภท.โดดเด่นเรื่องบริหารจัดการวัคซีน ดูแลบุคลากรการแพทย์ อสม. และปกป้องเสาหลักของชาติมากที่สุด ว่าการทําการเมืองต้องยึดถือจากทุกๆ ด้าน ผลโพลก็ดีถือเป็นกําลังใจ จากที่ไม่เคยมีโพลเช่นนี้เลย  ก็เป็นกําลังใจและเป็นแนวทางว่าประชาชนให้ความเชื่อถือพรรคในด้านนี้มากเป็นพิเศษ หรือด้านไหนที่ประชาชนยังไม่ได้ให้ความเชื่อถือก็ไปแก้ไข แต่เราไม่ได้ยึดถือโพลที่บอกว่าดีแล้ว ไม่ต้องทำอะไรแล้ว เรายังคงต้องลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

‘อนุทิน’ ยันเร่งทำงาน

เมื่อถามว่า บางโพลสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ยุบสภา เพราะ ส.ส.มาประชุมสภากันน้อย องค์ประชุมล่มบ่อย  นายอนุทินกล่าวว่า เรื่องยุบสภาเป็นเรื่องของนายกฯ คงไม่ไปก้าวก่าย เราก็เตรียมความพร้อมของเรา เพราะไม่ว่าอย่างไรวาระของสภาสมัยนี้ก็จบสิ้น 23 มี.ค.66 ซึ่งต้องใช้เวลาที่เหลือจากนี้ไป งานอะไรที่ค้างคาอยู่ก็ต้องผลักดันออกไปให้หมด โดยเฉพาะหลายๆ โครงการที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองและประชาชน เพราะพอมาเป็นรัฐบาลรักษาการอาจทำอะไรไม่ได้มาก ขณะเดียวกันก็ต้องแบ่งเวลาในการลงพื้นที่ช่วยสมาชิกปราศรัยหาเสียง เยี่ยมเยียนประชาชน ซึ่งน่าจะเป็นเวลา 3 เดือนที่น้อยมาก

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงผลโพลที่คะแนนนิยมรัฐบาลลดลงว่า ไม่ได้เหนือความคาดหมาย  เพราะรัฐบาลอยู่มาเกินความคาดหมายของประชาชน ถือว่ามาได้ไกลกว่าที่คิด ถือเป็นเรื่องปกติที่ปลายสมัยปัญหาต่างๆ  จะรุมเร้าเข้ามา ทำให้คะแนนนิยมลดลงตามลำดับ เป็นเรื่องปกติของทุกยุคทุกสมัย ส่วนจะกระทบต่อ ชทพ.หรือไม่นั้น เห็นว่าพรรคร่วมคงได้รับผลกระทบไปตามกัน แต่ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล เราอยู่บนเรือลำนี้ ก็ต้องช่วยกันพายช่วยกันแก้ และปรับปรุงในสิ่งที่คิดว่าทำได้ในเวลาที่เหลือ

“ประชาชนไม่ได้เฉลิมฉลองปีใหม่กันมา 2  ปีเต็ม การยุบสภาก่อนปีใหม่ดูจะใจร้ายกับประชาชนและผู้สมัคร ส.ส.  เพราะจะทำให้ผู้แทนไม่ได้ร่วมเฉลิมฉลองกับประชาชน หากจะยุบขอหลังปีใหม่สักนิดหน่อย” นายวราวุธกล่าวถึงผลโพลที่สนับสนุนให้ยุบสภาในเดือน ธ.ค.นี้

นายวราวุธยังกล่าวถึงปัญหาองค์ประชุมสภาว่า คงบังคับพรรคอื่นไม่ได้ แต่พรรคตนจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดที่จะประคองเสียในสภาให้ครบ ส่วนจะเกิดวิกฤตสภาหรือไม่นั้น นึกไม่ออก ตั้งแต่เล็กจนโตยังไม่เจอสถานการณ์แบบนี้ที่มี  ส.ส.ย้ายออกจำนวนมาก จึงตอบไม่ได้ว่าเป็นอย่างไร 

ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร  กล่าวถึงกระแสการลาออกของ ส.ส.ที่จะมีเพิ่มอีกอาจและทำให้องค์ประชุมสภามีปัญหาว่า ขณะนี้องค์ประชุมสภายังครบองค์และเดินหน้าต่อไปได้ แต่อยากฝากไปถึง ส.ส.ว่ายังมีร่างกฎหมายสำคัญที่ควรตราในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของสภา เช่น  ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย 2 ฉบับ และกฎหมายเช็คที่เป็นประโยชน์ หลังจากนี้จะหารือกับกรรมการประสานงาน 3  ฝ่ายอีกทีเพื่อหารือการพิจารณากฎหมาย

เด็ก พปชร.ชิงความชัดเจน

วันเดียวกัน ยังคงมีความเคลื่อนไหวของ ส.ส.ที่มีการย้ายพรรค รวมถึงการเดินสายชูนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ โดย ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่เตรียมย้ายไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รสทช.) เริ่มขยับเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่รับรู้ถึงความชัดเจนในทางการเมืองมากขึ้น โดยมีการจัดทำปฏิทินแจกจ่ายประชาชน อาทิ นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค พปชร.ที่ประกาศตัวชัดว่าพร้อมจะย้ายตาม พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้จัดทำปฏิทินที่เป็นรูปตัวเองคู่กับนายกฯ พร้อมข้อความว่า  สวัสดีปีใหม่ พ.ศ.2566 รวมไทยสร้างชาติผงาดบนเวทีโลก นอกจากนั้นยังมีการใส่โลโก้พรรค รทสช.ประกอบด้วย

ขณะเดียวกัน ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช อดีตผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 7 บางซื่อ-ดุสิต พรรคเพื่อไทย (พท.) เผยว่า หลังจากได้รับคำเชิญจากผู้ใหญ่ของพรรค พปชร. และได้ศึกษานโยบายและแนวทางในการทำงานของพรรคแล้ว ได้ตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค พท.  และมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร.เรียบร้อยแล้ว เพราะมีแนวทางในการทำงานที่เหมือนกัน และพร้อมพิสูจน์ว่าเป็นพรรคที่ตั้งใจทำงานให้ประชาชนอย่างแท้จริง

ส่วนนายอนุทินกล่าวถึงกรณีโฆษกพรรค ภท.ระบุจะมี ส.ส.ทยอยมาเปิดตัวกับพรรคอีกว่า มีความเป็นไปได้ว่าจะมีเข้ามา แต่ไม่สามารถบอกจำนวนได้ เพราะจะทราบจำนวนก็ต่อเมื่อได้ลงนามรับรองการสมัครถึงจะรู้ แต่ยืนยันว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะส่ง ส.ส. 400 เขต เพราะเราต้องการ ส.ส.เขตและ ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วย

เมื่อถามว่า แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ภท.คือหัวหน้าพรรคคนเดียวใช่หรือไม่ นายอนุทินย้อนถามว่า ยังไม่ชัดอีกหรือ ชัดมา 5 ปีแล้ว หนึ่งเดียวคนนี้แหละ หนึ่งเดียวด้วยนะ ไม่มี 3 คน ถ้าจะไม่ให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคภูมิใจไทยก็ต้องเปลี่ยนหัวหน้าพรรค หากใครยังไม่รู้เรื่องแปลว่าไม่ได้ติดตามข่าว ไม่ใช่คอการเมืองแล้วอย่างนั้น

ถามว่า จากเดิมพรรคตั้งเป้า ส.ส. 120 คน ภายหลังมีอดีต ส.ส.เข้ามา เป้าจะสูงขึ้นอีกหรือไม่ นายอนุทินตอบทันทีว่า ใครไปบอกว่าเราวางเป้าไว้ 120 คน ตามข่าวที่ออกมาก็พูดกันไป สำหรับเราได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น เพราะคนตัดสินไม่ใช่ตัวเรา เราทำได้เพียงได้แต่นำเสนอ หากประชาชนไว้ใจจะเป็นผู้ตัดสินอนาคตของพรรค

ส่วนที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายกนก วงษ์ตระหง่าน  อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เดินทางมาสมัครสมาชิกพรรค ชทพ. โดยมีนายวราวุธพร้อมผู้บริหารพรรคให้การต้อนรับ โดยนายกนกกล่าวว่า 3 ปีที่ผ่านมาได้มีโอกาสคุยกับนายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้อำนวยการพรรค ชทพ.หลายครั้งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง พรรคการเมือง พร้อมทั้งเข้าไปศึกษาเรื่องของ ชทพ. พบว่ามีตัวตนที่สำคัญที่ทำให้รู้สึกดีกับสิ่งเหล่านั้น ตัวตนของ ชทพ.ที่แสดงได้ปรากฏตั้งแต่ยุคนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ มาจนถึงนายวราวุธ คือให้ความสำคัญกับการปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์ การคิดแก้ปัญหา และทำงานเริ่มต้นจากความเป็นจริงก่อน รวมถึงความรักชาติ และยังมีบุคลิกคือไว้ใจได้ คำไหนคำนั้น มันสะท้อนถึงความจริงใจต่อการปฏิบัติ ที่สำคัญ การทำงานไม่ทะเลาะกับใคร ไม่เป็นศัตรูกับใคร สู้กับปัญหา  ซื่อสัตย์ สุจริต

“อยู่ ปชป.ประมาณ 20 ปี ต้องขอบคุณ ปชป.ที่ให้โอกาสทำงานทางการเมือง แต่มาถึงจุดปัจจุบันสถานการณ์ของโลกเปลี่ยนไป โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อม เราต้องเร่งทำงาน และ ชทพ.เริ่มต้นทำสิ่งนี้มาตลอด” นายกนกระบุ

ก.ก.อัดยุคแม้วจุดไฟใต้

ส่วนความเคลื่อนไหวในการเดินสายของพรรคต่างๆ นั้น  พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้จัดเวทีพูดคุยแลกเปลี่ยนนโยบายสันติภาพก้าวหน้า นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค และแกนนำ พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัครพรรค โดยนายพิธากล่าวว่า สามจังหวัดชายแดนใต้เป็นดินแดนที่ตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรก ทั้งในความหลากหลายทางวัฒนธรรม ความมีเอกลักษณ์เฉพาะ แต่น่าเศร้าที่นับตั้งแต่ 4  มกราคม 2547 คนจังหวัดชายแดนใต้ต้องอยู่กับความกลัวมาโดยตลอด จึงขอชวนทุกคนร่วมกันจินตนาการถึงสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ใหม่ ด้วยความหวังว่าถ้าสันติภาพกลับสู่พื้นที่ หน้าตาของสามจังหวัดชายแดนใต้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และนี่คือสิ่งที่แคนดิเดตนายกฯ คนต่อไปต้องตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ก.ก.กล่าวว่า นับตั้งแต่เหตุการณ์ปล้นปืนที่จังหวัดนราธิวาสเมื่อ 2547 ภาครัฐใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 300,000 ล้านบาท เพื่อแก้ไขความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนใต้ มีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า  7,000 คน และมีผู้บาดเจ็บและสูญหายจำนวนมาก เป็นข้อพิสูจน์ว่าวิธีการที่ผ่านมาซึ่งถูกกำกับโดยวิธีคิดแบบทหารนั้นล้มเหลว ดังนั้นข้อเสนอเพื่อสร้างสันติสุขก้าวหน้าของพรรคก้าวไกลจะยืนบน 3 หลักการ เรียกว่า 3D มารวมกับนโยบายสันติภาพก้าวหน้า อาทิ 1.ยกเลิกการประกาศกฎอัยการศึกในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ 2.ยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ 3.เอากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร  (กอ.รมน.) ออกจากกระบวนการจัดการสันติภาพในพื้นที่  และยกเลิก กอ.รมน. และ 4.สร้างกระบวนการสันติภาพที่ยึดประชาชนเป็นตัวตั้ง

ส่วนที่ จ.ภูเก็ต พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) จัดสัมมนาผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้ในหัวข้อ คนใต้ต้องกินดีอยู่ดี สร้างรายได้  ปลดหนี้ มีบำนาญ โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคและแกนนำพรรค โดยคุณหญิงสุดารัตน์ย้ำว่า มาทำงานวันนี้เพื่อต้องการเปลี่ยนประเทศ เราต้องการให้ภาคใต้ที่มีทรัพยากร คนเก่ง พัฒนาไปได้ไกลกว่านี้ แต่ยังขาดโอกาส  เราจึงขอเสนอตัวเป็นทางออกของประเทศชาติ ออกจากความขัดแย้ง สร้างโอกาสและฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สามารถที่จะสื่อสารกับประชาชนได้โดยตรงผ่านนโยบายต่างๆ เช่น เครือข่ายบำนาญประชาชน 3,000  บาท, เขตเศรษฐกิจพิเศษอันดามัน, เขตเศรษฐกิจพิเศษสามจังหวัดชายแดนภาคใต้, ยกระดับอาหารฮาลาล และเขตเศรษฐกิจพิเศษด้านการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมยางพาราฝั่งอ่าวไทย ฯลฯ

‘ไทยภักดี’ ยันไม่ยุบไม่ย้าย

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ไม่ยุบ ไม่ย้าย ไม่จ่าย ไม่ซื้อ” ระบุว่า "ขอย้ำในสถานการณ์บางพรรคอยากพาพ่อกลับบ้าน ทั้งๆ ที่โกงจนศาลตัดสินแต่ไม่ยอมรับผิด บางพรรคก็ให้ท้ายพวกจาบจ้วงมีพฤติกรรมล้มล้าง บางพรรคก็ซื้อ ส.ส.เพื่อหวังเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล สุดท้ายก็เข้าสู่วงจรอุบาทว์ แต่พรรคไทยภักดียืนยันไม่ยุบพรรค ไม่ย้ายไปซบใคร ไม่จ่ายเงินดูดใคร  และไม่ซื้อเสียงทุกเงื่อนไข"

ดร.ฐิติพร ฌานวังศะ เลขาธิการพรรคเสมอภาค แถลงว่า  ที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ของพรรคได้ลงมติลงคะแนนลับเลือกนางรฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคเสมอภาคอีกครั้งหนึ่ง รวมทั้งเป็นประธานคณะกรรมการสรรหาฯ ด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ และเลือกตั้ง คณะกรรมการบริหารจำนวน 20 คน คณะกรรมการสรรหาฯ จำนวน 11 คนแทนชุดเดิม

 นางรฎาวัญกล่าวว่า การตั้งพรรคการเมืองโดยมีเงินทุนไม่มากมีความยากลำบากไม่น้อย แต่ถึงแม้จะเหน็ดเหนื่อยเพียงใดก็จะพยายามทำให้สำเร็จ โดยจะเชิญชวนประชาชนผู้มีจิตศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา และผู้มีความศรัทธาต่อแนวนโยบายใหม่ที่จะแก้ปัญหาความยากจนและปัญหาสังคมของพรรคเสมอภาค โดยเราจะเดินสายชี้แจงให้ประชาชนทั้งคนรุ่นใหม่และคนรุ่นใหญ่ในสาขาอาชีพต่างๆ ได้เข้าใจถึงความจำเป็นในการร่วมมือกันเปลี่ยนวัฒนธรรมการเมืองใหม่ ไปสู่การเมืองที่ขาวสะอาดปราศจากการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ปราศจากการทุจริตคดโกงถอนทุนจากเงินงบประมาณแผ่นดิน.