ช่วยเรือหลวงสุโขทัยล่ม! ค้นหา31ชีวิตกลางทะเล

"บิ๊กตู่" นั่งไม่ติด สั่งเร่งช่วยเหลือเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ขณะที่กองทัพเรือปูพรมค้นหา 31  ชีวิตกลางทะเลอ่าวไทย ระบุทุกนายมีเสื้อชูชีพ พร้อมตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือ-ญาติติดต่อ โฆษกกองทัพเรือ ยันล่าสุดยังไม่พบเสียชีวิต ประกาศเตือนชาวเรือหลีกเลี่ยงจุดค้นหา

เมื่อวันจันทร์ เวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการช่วยเหลือกำลังพลและลูกเรือที่สูญหายจากสถานการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปางว่า ตนติดตามอยู่ โดยสรุปแล้วมีบาดเจ็บหนักอยู่ประมาณ 5 คน  ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนหาสาเหตุอยู่ ก็เห็นใจไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ทั้งนี้ก็เป็นเรื่องการทำงานปฏิบัติหน้าที่ของเขา  และไปเจอกับมรสุมพายุอะไรต่างๆ

เมื่อถามว่า กำลังเร่งค้นหากำลังพลที่สูญหายใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า กำลังดำเนินการอยู่ในทุกๆ เรื่อง  นายกฯ ติดตามในทุกมุมทุกเรื่องนั่นแหละ วันหยุดวันธรรมดาก็ไม่เคยหยุด

มีรายงานข่าวว่า ในเวลา 02.10 น. ร.ล.กระบุรี  เรือประจวบคีรีขันธ์ 4 และเรือประจวบคีรีขันธ์ 5 ได้ช่วยเหลือกำลังพล ร.ล.สุโขทัยได้แล้ว 73 นาย ในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บ 3 นาย และยังคงอยู่ในน้ำ 33 นาย

ส่วนการค้นหากำลังพลที่เหลือยังคงดำเนินต่อไปทั้งคืน ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารเรือได้สั่งการให้ ร.ล.อ่างทอง  ที่เป็นเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ของกองทัพเรือ เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุกลางอ่าวไทย คาดว่าจะเดินทางถึงในเวลา 06.00 น. โดยช่วงเช้ายังได้ส่งเครื่องบินดอร์เนียร์เข้าพื้นที่เกิดเหตุค้นหาลูกเรือที่เหลืออย่างเร่งด่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรือหลวงสุโขทัยประสบอุบัติเหตุคลื่นลมแรงจนมีน้ำเข้าเรือเป็นจำนวนมาก และได้จมลงใต้ทะเลแล้วในช่วงดึกของวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้กองทัพเรือได้ส่งเรือหลวงกระบุรี, เรือประจวบคีรีขันธ์ 4 และเรือประจวบคีรีขันธ์ 5 เร่งให้การช่วยเหลือกำลังพลที่ติดอยู่บนเรือหลวงสุโขทัยจำนวน 110 นายตลอดทั้งคืน และช่วงเช้าที่ผ่านมาเรือหลวงอ่างทองได้ตามไปสมทบและถึงที่เกิดเหตุแล้ว

ในขณะที่ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เรียกนายทหารระดับสูงประชุมด่วนในเช้านี้ พร้อม Video Conference กับเจ้าหน้าที่ทหารในจุดเกิดเหตุ เพื่อประเมินสถานการณ์และหาแนวทางเร่งค้นหากำลังพลกว่า 30 นาย ซึ่งขณะนี้ยังมีอุปสรรคในเรื่องคลื่นลมแรงในอ่าวไทย

ด้าน พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เปิดเผยว่า กำลังกระจายกำลังเจ้าหน้าที่บริเวณโดยรอบพื้นที่เกิดเหตุ รวมทั้งมีเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินดอร์เนียร์ออกบินลาดตระเวนค้นหากำลังพลจำนวน 33  นาย ก่อนที่เรือจะจมลงไปในทะเล ยืนยันว่ากำลังพลทั้ง  110 คนอยู่ครบทุกนาย จนกระทั่งเรือจมลงไปแล้ว จึงทำให้กำลังพลกระจัดกระจายกันออกไปคนละทิศละทาง อีกทั้งยังมีลมแรงทำให้เรือเล็กลงไปช่วยไม่ได้ ยืนยันว่ากำลังพลมีเสื้อชูชีพทุกนาย โดยเรือหลวงกระบุรีได้นำเสื้อชูชีพไปเสริมให้ทั้งหมด

ขณะที่ในเวลา 08.00 น. พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีเรือหลวงสุโขทัยประสบเหตุน้ำเข้าเรือจนเกิดการเอียง เนื่องจากคลื่นลมแรง ขณะทำการลาดตระเวนอยู่บริเวณแบริง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยเรือหลวงกระบุรีได้เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุเมื่อเวลา 20.40 น. และพยายามเข้าเทียบเรือหลวงสุโขทัย เพื่อส่งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่และช่วยเหลือกำลังพลจำนวน 106 นาย แต่ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากคลื่นลมยังคงรุนแรง 

พล.ร.อ.ปกครองกล่าวต่อว่า ต่อมาเรือหลวงสุโขทัยมีอาการเอียงมากขึ้นและได้จมลงเมื่อเวลา 00.12 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่มีเรือลากจูงเอกชนจากท่าเรือบางสะพาน จำนวน 2 ลำ และเรือน้ำมัน STRAITS  ENERGY เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุเพื่อให้การสนับสนุนในการช่วยเหลือ ซึ่งเรือหลวงกระบุรี เรือน้ำมัน  STRAITS ENERGY และเรือลากจูงทั้ง 2 ลำ ได้ดำเนินการช่วยเหลือกำลังพล  และต่อมาเวลา 01.04  น. เฮลิคอปเตอร์แบบ Seahawks จำนวน 2 ลำได้เดินทางมาถึง พร้อมทั้งทำการปล่อยแพช่วยเหลือลงทะเล จำนวน 8 แพ

 “เรือต่างๆ สามารถให้การช่วยเหลือกำลังพลขึ้นมาจากน้ำได้แล้ว 73 นาย โดยอยู่บนเรือหลวงกระบุรี จำนวน 47 นาย เรือลากจูงจำนวน 4 นาย เรือน้ำมันศรีวิชัยจำนวน 20 นาย และเรือน้ำมัน STRAITS  ENERGY จำนวน 2 นาย ยังคงมีกำลังพลจำนวน  33 นายที่ลอยคออยู่ในทะเล ซึ่งเรือทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่กำลังเร่งดำเนินการค้นหาและช่วยเหลือต่อไป" พลเรือเอก ปกครองระบุ 

พล.ร.อ.ปกครองกล่าวต่อว่า กองเรือยุทธการได้ตั้ง ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ขึ้นมาทำหน้าที่ในการประสานการปฏิบัติเพื่อเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ทั้งนี้ ญาติพี่น้องของกำลังพลประจำเรือ สามารถติดสอบถามได้ที่ ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย หมายเลขโทรศัพท์ 038-182-435 และ 08-4002-3554 โดยล่าสุดมียอดกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือแล้วจำนวน 75 นาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวกำลังพลเสียชีวิต 3  นาย พล.ร.อ.ปกครองกล่าวว่า ยังไม่ได้รับการยืนยัน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่เป็นสีแดง 4 ราย ทั้งขาหักและเสียเลือดมาก และบาดเจ็บเล็กน้อยสีเหลือง โดยในชุดแรกมีกำลังพลนำส่งโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่เพื่อทำการตรวจรักษาต่อไป

ในเวลา 16.00 น. พล.ร.อ.ปกครองเปิดเผยถึงความคืบหน้าอีกครั้ง โดยระบุว่าปัจจุบันมีกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือและนำขึ้นฝั่งท่าเรือบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เรียบร้อยแล้วจำนวน 72 นาย โดยมีกำลังพลจำนวน 11 นายถูกส่งเข้ารับการรักษาตัว ณ โรงพยาบาลบางสะพาน และกำลังพลจำนวน 61 นายอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงของ อบต.แม่รำพึง ส่วนกำลังพลอีก 2  นาย ขณะนี้อยู่บนเรือน้ำมัน STRAITS ENERGY กำลังเดินทางไปยังท่าเรือมาบตาพุด  จังหวัดระยอง โดยในช่วงเช้าเรือหลวงกระบุรีสามารถเข้าไปช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยเพิ่มได้อีก 1 นาย  ขณะสวมชูชีพลอยคออยู่กลางทะเล

พล.ร.อ.ปกครองกล่าวว่า เรือและอากาศยานยังคงทำการค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลที่เหลืออีก 31 นาย โดยได้กำหนดพื้นที่ค้นหาขนาดพื้นที่ 20X15 ตารางไมล์  ซึ่งอยู่ทางใต้ห่างจากจุดที่เรือหลวงสุโขทัยจมลงประมาณ  18 ไมล์ทะเล โดยสรุปการดำเนินการในขณะนี้ ตรวจพบและให้การช่วยเหลือกำลังพลที่ประสบภัยได้แล้ว 75 นาย คงเหลือกำลังพลที่ยังต้องค้นหาและช่วยเหลืออีก 31 นาย ส่วนกรณีการนำเสนอข่าวว่าพบกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย เสียชีวิต 1 นายนั้น จากการตรวจสอบยืนยันว่าไม่ใช่กำลังพลเรือหลวงสุโขทัย แต่เป็นลูกเรือจากเรือสินค้าอนุภูมิ ซึ่งได้อับปางลงเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมาจากเหตุคลื่นลมแรงเช่นกัน

ต่อมามีรายงานว่า กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ได้ออกประกาศคำเตือนเพื่อการเดินเรือ ที่ 91/2022 และ ที่ 92/2022 แจ้งชาวเรือหลีกเลี่ยงพื้นที่ค้นหา ช่วยเหลือผู้ประสบภัยรอบบริเวณเรือหลวงสุโขทัยอับปาง  ตำบลที่ 11 องศา 00 ลิปดาเหนือ ลอง 99 53 ลิปดาตะวันออก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลช่วย SME ไทย เข้าถึงแหล่งเงินทุน ผ่านมหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ

รัฐบาลบูรณาการความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับ SME ไทย ผ่านการจัดงานมหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ