‘บิ๊กตู่’เช็กดวงดีขึ้น เยือนเหนือกำลังใจพรึ่บ พปชร.คึก‘ป้อม’นายกฯ

"บิ๊กตู่" ขึ้นเหนือเปิดมหกรรมสิ่งประดิษฐ์ไอซีที นร.ไทย-ญี่ปุ่น จ.เชียงราย สวมเสื้อชนเผ่าทักทาย ปชช.      พร้อมหยิบไพ่ออราเคิลเช็กดวงตัวเอง   ระบุทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น  "สายัณห์" แจงปฏิทินคู่นายกฯ แค่เตรียมการยังไม่สั่งทำ "บิ๊กป้อม" ปัดตอบ "กรณิศ-ภาดาท์" ย้ายซบ ภท. "พปชร." คึก! เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 4 ภาค 55 คน "เด็กธรรมนัส" กลับมาเพียบ "วิรัช" ปลุกใจบันดาลแรงพา "ลุงป้อม" นั่งนายกฯ คนที่ 30 "ฝ่ายค้าน" เตรียมยื่นอภิปราย ม.152 ดักคอยุบสภาหนีตรวจสอบ "พท." โวยนายกฯ ตั้ง "พีระพันธุ์" ไร้มารยาทการเมือง

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. เวลา 07.40 น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง ด้วยเครื่องบิน Superjet ของกองทัพอากาศ ไปตรวจราชการจังหวัดเชียงราย

โดย พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เวลา 09.00 น. มี น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ให้การต้อนรับ รวมถึงกลุ่มสมาคมแม่บ้านตำรวจ ซึ่งนำดอกกุหลาบสีแดงมามอบให้ โดยนายกฯ กล่าวว่า "ขอบคุณจ้ะ กุหลาบแดงแทนใจ" พร้อมถ่ายรูปร่วมกัน ก่อนที่จะออกเดินทางด้วยรถยนต์ทะเบียน กล 9933 เชียงราย ไปปฏิบัติภารกิจ

เวลา 09.40 น. นายกฯ เป็นประธานเปิดงานมหกรรมสิ่งประดิษฐ์ไอซีทีของนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่น Thailand-Japan Student ICT Fair 2022 (TJ-SIF 2022) ที่หอประชุมโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย และรับชมการแสดงต้อนรับชุด "Season of Color"

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้เราต้องปรับการเรียนการสอนของเราให้รู้จักคิด คิดให้เป็น คิดไปสู่เป้าหมายที่ทุกคนต้องการ เราต้องการเปิดโลกในเรื่องการศึกษาของเราให้กว้างขึ้น คิดให้เป็น มีหลักคิด มีกระบวนการคิด และนำไปสู่เป้าหมายที่เราต้องการ ซึ่งวันนี้เราต้องการแรงงานจำนวนมากในเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ต้องมีความรู้ อย่างน้อยต้องทำงานร่วมกับเครื่องมือเครื่องจักรได้ วันหน้าต้องทำงานกับหุ่นยนต์ได้ ซึ่งต้องการแรงงานที่มีขีดความสามารถ ฝากกระทรวงการศึกษาด้วย ซึ่งเข้าใจดีถึงความยากง่ายในการดำเนินการสิ่งเหล่านี้

"หลายปีที่ผ่านมาเรามีการพัฒนาตามลำดับ แต่ต้องเร่งขึ้นไปอีก โดยรัฐบาลจำเป็นต้องหาทางสนับสนุน พุ่งเป้าในการแก้ปัญหา ไม่เช่นนั้นก็จะไปไม่ทันการณ์ วันนี้เราต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า "สิ่งที่ดีใจอีกเรื่องคือ เดี๋ยววันนี้ให้โหลด App สปาใจให้นายกฯ ด้วย ทำอย่างไรไม่ให้หงุดหงิด ไม่ปวดหัวทั้งวัน มันต้องสปาใจสักหน่อยแล้ว ถ้าวัดคงเกินร้อยแน่เลยฉัน เพราะงานมันเยอะ แต่ทำอย่างไรไม่ให้ส่งพลังลบออกมาแล้วทำลายตัวเอง ผมเห็นรอยยิ้ม เห็นทุกคนมีความสุขผมก็มีความสุขด้วย เมื่อวานผมไปใต้สุด ไปสงขลา พัทลุง เยี่ยมอุทกภัยน้ำท่วม นั่นก็อีกมุมหนึ่งของคนไทยของเรา จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาทุกจังหวัด

วันนี้มาเหนือสุด สิ่งที่ผมต้องทำ เอาเหนือสุด ใต้สุด ตะวันออก ตะวันตก และทั้งหมดรวมเป็นพลังเข้มแข็งขึ้น ประเทศไทยมีโอกาสมากพอสมควร เราต้องร่วมแรงร่วมใจ ร่วมรัก ร่วมสามัคคีกันในการขับเคลื่อนประเทศไทย เพราะประเทศไทยไม่ได้เป็นของใคร แต่เป็นของพวกเราทุกคนที่อยู่มายาวนานหลายร้อยปีมาแล้วจนถึงปัจจุบัน เราต้องรักษาไว้ และทำให้ดีขึ้น เป็นแผ่นดินที่มีคุณค่า มีแกนหลักสำคัญ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นหลักชัย เป็นหลักนำทางของพวกเราทุกคน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

จากนั้น นายกฯ ทำพิธีเปิดงานโดยการกดปุ่มใบพัดโฮโลแกรมตราสัญลักษณ์ และเยี่ยมชมนิทรรศการสิ่งประดิษฐ์ไอซีทีระบบบำบัดน้ำเสียอัจฉริยะของนักเรียน โดยนักเรียนชาย ม.5 โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยที่พรีเซนต์สิ่งประดิษฐ์ดังกล่าว ยังได้ให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีให้ดูแลสุขภาพ เนื่องจากเห็นภารกิจเยอะ โดยนายกรัฐมนตรีระบุว่า "ขอบใจ ยืนยันว่าทำทุกอย่างเพื่อแก้ปัญหาที่มีมากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในประเทศไทย"

ดวง'บิ๊กตู่'หลายสิ่งคลี่คลาย

ต่อมา นายกฯ เยี่ยมชมการพัฒนาเกมของนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่น ซึ่งระหว่างที่ร่วมชมนิทรรศการมหกรรมสิ่งประดิษฐ์ไอซีทีดังกล่าว นายกฯ ได้แวะเยี่ยมชมบูธเกมดูดวง ที่นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงนำมาโชว์ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้เข้าไปเช็กดวงและทำการหยิบไพ่ ได้ไพ่ออราเคิลขึ้นมา 2 ใบ และให้นักศึกษาชายทำนายดวงแบบกระซิบข้างหูเพื่อเป็นความลับ โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวสั้นๆ ว่า “ซีเครตๆ” เมื่อนักข่าวถามว่าดวงดีหรือหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า หลายอย่างเริ่มคลี่คลายไปในทางได้ดี

เวลา 13.15 น. พล.อ.ประยุทธ์และคณะไปที่สนามกีฬา โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย เชียงราย พบกับประชาชนในนามรวมไทยรักชาติที่มารอต้อนรับ และกลุ่มชนเผ่า ซึ่งมีการแสดงต้อนรับและได้มอบเสื้อชนเผ่าให้กับนายกฯ และ ครม.ที่ร่วมคณะสวมใส่ โดยนายกฯ ได้สวมเสื้อกั๊กของชนเผ่าลีซอ ที่ออกแบบโดยนักดีไซน์รุ่นใหม่ของชนเผ่า ขณะที่นายกฯ กล่าวว่า ต้องดูแลทุกคนเพราะพวกเราอาศัยอยู่ในผืนแผ่นดินไทย เราเป็นรัฐบาล เป็นนายกฯ ดูแลทุกคนหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนในนามกลุ่มรวมไทยรักชาติที่สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว สกรีนข้อความว่า รวมไทยรักชาติ รวมถึงเกษตรกรลำไยแปลงใหญ่ มาชูป้ายให้กำลังใจนายกฯ เช่น คนเชียงรายเป็นกำลังใจ, เรารักลุงตู่, รวมไทยรักชาติ เป็นต้น จากนั้นกลุ่มรวมไทยรักชาติได้ร้องเพลงรักกันไว้เถิด โดยนายกฯ ร่วมร้องด้วย

ขณะเดียวกัน นายหิมาลัย ผิวพรรณ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ได้นำนายนิคม นามเสถียร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จ.เชียงราย และนายบุญถิ่น วันใหม่ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 พรรครวมไทยสร้างชาติ มาแนะนำตัวให้นายกฯ รู้จัก

จากนั้นเวลา 14.20 น. นายกฯ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์มาลงที่จุดจอดเฮลิคอปเตอร์ด่านศุลกากร อ.แม่สาย ก่อนขึ้นรถเพื่อเดินทางมายังศูนย์ฝึกอบรมผาหมี ระหว่างทางได้มีประชาชน 3 คนมายืนชูแสดงสัญลักษณ์ 3 นิ้วด้านหลังตำรวจจราจรที่ทำหน้าที่ดูแลเส้นทางในช่วงที่ขบวนนายกฯ ผ่าน หลังจากนั้นทั้ง 3 คนได้หันหลังกลับโดยไม่มีเหตุชุลมุนแต่อย่างใด

พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์กรณีนายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช  พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดทำปฏิทินเป็นรูปตัวเองคู่กับนายกรัฐมนตรี มีข้อความระบุว่า สวัสดีปีใหม่ พ.ศ.2566 และใส่โลโก้พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความผงาดบนเวทีโลกว่า "เอาละ เดี๋ยวค่อยว่ากันไปตามกฎหมาย" พร้อมกับโบกมือให้พลขับเคลื่อนรถรางที่นั่งอยู่ออกไปในทันที พร้อมกล่าวอีกว่า “ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวแก้ไขได้ ก็แล้วแต่ ถ้าเราไม่รู้เรื่อง มันก็จะมาโทษเราไม่ได้หรอก”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ นายกฯ พร้อมคณะได้เดินทางกลับกรุงเทพฯ และถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง เวลา 18.00 น.

ด้านนายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค พปชร. ชี้แจงถึงการจัดทำปฏิทินรูปถ่ายคู่กับ พล.อ.ประยุทธ์โดยมีโลโก้พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งว่า ขอยืนยันยังไม่มีการจัดทำปฏิทินหรือป้ายไวนิลคู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ไปแจกประชาชน หรือไปติดตั้งตามถนนในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช แม้แต่พิมพ์สักแผ่นก็ไม่ได้ทำ เพราะทราบดีว่าการแจกปฏิทินอาจเข้าข่ายการแจกทรัพย์สิน ข้อเท็จจริงเรื่องนี้เป็นแค่การทำกราฟฟิกออกแบบรูปคู่กับนายกฯ เพื่อเตรียมทำเป็นปฏิทินและป้ายไวนิล แล้วส่งให้เพื่อนดูในไลน์ แต่มีรูปหลุดออกไป

"ยืนยันยังไม่ได้ทำสักแผ่น ให้ไปหาใบเสร็จมาว่ามีการจัดทำไปแล้ว ทราบดีว่าเรื่องนี้หมิ่นเหม่ผิดกฎหมาย จึงไม่ทำแน่นอน ผมแค่เตรียมการจะทำ แต่ยังไม่ได้ทำ ถือว่าไม่มีความผิด" นายสายัณห์กล่าว

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวเช่นกันว่า ช่วงนี้ใครจะทำอะไรก็อย่าให้ผิดกฎเหล็ก 180 วันที่ กกต.ประกาศก็แล้วกัน ซึ่ง 180 วันจะนับย้อนจากวันที่สภาจะสิ้นสุดวาระ ที่ กกต.ประกาศไว้ล่วงหน้าแล้ว เพียงแต่ไม่ได้บอกวันเริ่มต้นกับวันสิ้นสุดไว้เท่านั้น ช่วงนี้ยังอยู่ในกรอบของ 180 วันอยู่

"ขอให้ทุกคนศึกษาประกาศของ กกต.ให้ดี เพราะแต่ละคนก็เคยหาเสียงเลือกตั้งมาแล้ว ก็คงรู้อยู่ว่าอะไรทำได้ทำไม่ได้ ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรี หากใช้ตำแหน่งรัฐมนตรีเพียงอย่างเดียว สามารถทำได้เช่น แจกไดอารี่ แจกปฏิทิน" นายวิษณุกล่าว

พปชร.เปิดตัดชุดใหญ่4ภาค

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธาน ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า มี ส.ส.ลาออกจากตำแหน่ง 3 คน ได้แก่ นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งยื่นหนังสือลาออก เมื่อวันที่ 16 ธ.ค., น.ส.กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ และ น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ยื่นหนังสือลาออกเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ทำให้พ้นสมาชิกภาพตามรัฐธรรมนูญ

นายสุชาติยังได้แจ้งถึงประกาศของสภา ซึ่งเลื่อนผู้อยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองลำดับถัดไปแทนตำแหน่งที่ว่างลง 4 คน ได้แก่ นางบุศริณธณญ์  วรพัฒนานันน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ, นาวาตรีสุธรรม ระหงษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์, นายรองรักษ์ บุญศิริ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาภิวัฒน์ และนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลัง แต่มีเพียง 3 คนที่กล่าวปฏิญาณ ประกอบด้วย นางบุศริณธญ์, นาวาตรีสุธรรม และนายรองรักษ์ ทั้งนี้ จำนวน ส.ส.ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 439 คน

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  ยังคงปฏิเสธการให้สัมภาษณ์สื่อกรณีนางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา และ น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ย้ายไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยได้มาลาก่อนไปหรือไม่ โดย พล.อ.ประวิตรได้แต่ยิ้มให้กับผู้สื่อข่าว แล้วขึ้นรถออกจากทำเนียบฯ ไปทันที

ด้านนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า วันนี้นางกรณิศ และ น.ส.ภาดาท์ได้เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ภท. ทางพรรคก็ยินดีต้อนรับบุคคลที่มีความสามารถเข้าร่วมงาน

"หลังจากวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มี อดีต ส.ส.กทม.มาสมัครสมาชิกก่อนหน้านี้ 4 คน และในวันนี้ได้อดีต ส.ส.กทม.เพิ่มอีก 2 คน มั่นใจว่าพรรค ภท.ในการเลือกตั้ง กทม.เที่ยวหน้า จะปักธงได้ ส.ส.อย่างแน่นอน" นายทรงศักดิ์กล่าว

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เวลา 16.00 น. นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค พร้อมด้วยนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค, นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จำนวน 55 คน จาก 4 ภาค คือ

ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเปิดตัวครั้งนี้ พบมีคนนามสกุลวงศ์สวัสดิ์ ซึ่งเป็นนามสกุลเดียวกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีถึง 2 คนคือ นายทรงชัย วงศ์สวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ลำพูน ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งกับ พปชร.ตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว โดยเป็นอดีต ส.ส.ลำพูน พรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่นายจินดา วงศ์สวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ลำปาง เป็นอดีต ส.ส.ลำปาง พรรคไทยรักไทย อดีตสมาชิกขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และเป็นน้องชายของนายทรงชัย อย่างไรก็ตาม รายชื่อส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งกับ พปชร.เมื่อครั้งที่แล้ว และหลายคนเป็นคนในกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรค ศท.

ขณะเดียวกัน ยังมีรายชื่อที่น่าสนใจ อาทิ นายอภิชาต เกียรติสาร ส.จ.ศรีสะเกษ ที่มาลงสมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ ซึ่งนามสกุลเดียวกับ พล.อ.ธัญญา เกียรติสาร กรรมการบริหารพรรค พปชร. และอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ที่ดูแลรับผิดชอบภาคอีสานตอนบน, นายประกิจ พลเดช อดีตผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ ที่ย้ายมาจากพรรคเพื่อไทย, นายสฤษดิ์ ประดับศรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ยโสธร ซึ่งเป็นอดีตผู้สมัครนายก อบจ.ยโสธร ในนามคณะก้าวหน้ายโสธร รวมไปถึงนายวิเชียร เจริญนนทสิทธิ์ นายกเทศมนตรีเมืองใหม่บางบัวทอง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นนทบุรี ซึ่งเป็นน้องชายของนายวันชัย เจริญนนทสิทธิ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ ยังมีผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้ในทีมนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ที่เคยเปิดตัวกับพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) แล้วมาเปิดตัวในครั้งนี้ด้วย 

นายวิรัชกล่าวว่า เรามีผู้สมัครทุกภาค ความหลากหลายในส่วนของผู้สมัครของ พปชร. ไม่ได้เน้นเฉพาะจุดหนึ่งจุดใด แต่จะกระจายไปทั่วภูมิภาคอย่างเท่าเทียมกัน เราจะเปิดตัวให้ครบ 400 เขต มั่นใจว่าพวกเราทุกคนจะทำให้ใจบันดาลแรง ให้ พล.อ.ประวิตรเป็นนายกฯ คนที่ 30

"พรรคได้เตรียมจัดการประชุมใหญ่ในวันที่ 14 ม.ค.66 เพื่อเตรียมความพร้อม ส่วนรายละเอียดวาระของการประชุมจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง และหลังจากนั้นพรรคจะจัดงานระดมทุนในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน" รองหัวหน้าพรรค พปชร.กล่าว

โวยไร้มารยาทตั้งพีระพันธุ์

นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. กล่าวถึง ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยว่า ตนมุ่งมั่นอยากให้กลับมา พปชร.ทั้งหมด รวมถึง ร.อ.ธรรมนัส ถ้าเป็นอย่างนี้ได้ก็เป็นการเสริมให้ พปชร.มีความเข้มแข็งมากขึ้น เพราะ ร.อ.ธรรมนัสกว้างขวางภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ถ้า ร.อ.ธรรมนัสกลับมา ก็จะทำให้ พปชร.ขับเคลื่อนไปได้อีกมาก 

ด้านนายชัชวาลล์ คงอุดม อดีตหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวถึงการเข้าร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า ยังไม่ได้รับการติดต่ออย่างเป็นทางการจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. ให้ไปทำงานร่วมตามกระแสข่าวที่ออกมาว่าจะมีความชัดเจนในวันที่ 22 ธ.ค. ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อมา และไม่ได้มาพบส่วนตัวหรือโทรศัพท์ แต่ใจของตนก็อยากช่วยนายกฯ เป็นความตั้งใจและเป้าหมายตั้งแต่ต้นคือปกป้องสถาบัน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีการพูดกันบ้าง ก็ต้องดูว่าเมื่อไปแล้วจะให้เราช่วยหรือทำอะไรได้บ้าง แต่วันนี้เพิ่งวันที่ 21 ธ.ค.นี้ ยังไม่ถึงวันที่ระบุในข่าว  

ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวถึงความคืบหน้าการยื่นอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านร่างญัตติเสร็จแล้ว วันที่ 26 ธ.ค.จะมีการตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง ก่อนที่จะมีการเข้าชื่อและยื่นญัตติประมาณวันที่ 27 หรือ 28 ธ.ค. คาดว่าจะได้อภิปรายช่วงปลายเดือน ม.ค. 

ถามว่าจะมีการยุบสภาก่อนการยื่นญัตติหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ตามกฎหมายสามารถยุบสภาได้ ไม่เหมือนกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ที่กำหนดไว้ว่าห้ามยุบสภา ถ้า พล.อ.ประยุทธ์เห็นญัตติที่ยื่นเข้าไป เมื่อสภารับแล้วตัดสินใจยุบสภาหนีในการอภิปรายทั่วไป ที่เพียงเป็นการสอบถามข้อเท็จจริง และเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา เรื่องนี้น่าอายกว่าหนีการตรวจสอบ แสดงว่าหนีการตรวจสอบเพื่อปิดบังสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ ในสิ่งที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะนำมาเปิดเผยต่อพี่น้องประชาชนในสภา มันไม่ควรทำสิ่งที่น่าอายเช่นนี้

ถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ตั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นพ.ชลน่านกล่าวว่า โดยสามัญสำนึกแล้วมันไม่เหมาะสม และโดยเฉพาะคนที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ คนเดิมเป็นคนที่มีความสามารถเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งไม่มีข้อบกพร่องใดๆ แต่กลับเปลี่ยนออก เพราะฉะนั้นวัตถุประสงค์ของการแต่งตั้ง ก็เชื่อได้เลยว่าไม่เกี่ยวกับหน้าที่และการทำงานที่ควรจะเป็น เลยสามารถทำให้มองได้ว่าเป็นเรื่องของการเมือง เป็นการเอื้ออำนวยให้กับพรรคการเมืองที่มีข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไปอยู่ด้วย การกระทำเช่นนี้ก็เหมือนกับว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่เห็นหัวของประชาชน เป็นการใช้หน้าที่ในการเอาเปรียบทางการเมือง มันไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรค พท. ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์แต่งตั้งนายพีระพันธุ์เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตนมองว่าเป็นเรื่องไม่มีมารยาททางการเมือง เนื่องจากคนเป็นเลขาธิการก็เหมือนนายกฯ น้อยคนหนึ่ง ที่สำคัญเป็นการแต่งตั้งคนที่เป็นนักการเมืองอีกพรรคหนึ่ง ในขณะที่ตนเองเป็นนายกฯ ในนามพรรค พปชร.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชงไทยบี้เมียนมา งดขายน้ำมันให้ เจรจาสันติภาพ

"โรม" เสนอให้ไทยงดขายน้ำมันให้ "เมียนมา" ปูดใช้ไทยฟอกเงินเครือข่ายซื้ออาวุธที่ใช้ปฏิบัติการ เตือนถูกดึงไปเอี่ยวร่วมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์