ผบ.ทร.ตั้งกก.2ชุดสอบรล.สุโขทัยล่ม

"บิ๊กตู่" ครวญไม่เคยนอนตาหลับสักวันหลังเรือหลวงสุโขทัยล่ม กำชับหากำลังพลจนครบคนสุดท้าย  พร้อมสั่งเร่งหาสาเหตุ ขณะที่ ผบ.ทร.เด้งรับผุดคณะกรรมสอบสวน 2 คณะใหญ่ ด้าน ส.ส.ก้าวไกลโดดขวางลำ จี้ตั้งบุคคลที่ 3 ตรวจสอบคู่ขนาน มีตัวแทนฝั่งรัฐสภาเข้าร่วม  ขณะที่ยังค้นหาต่อเนื่องสแกนทั้งในน้ำบนบก สรุปยอดสูญหายกลางทะเล 11 ราย รอพิสูจน์อัตลักษณ์อีก 8 ร่าง 

เมื่อวันจันทร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวแสดงความเสียใจกับกองทัพเรือและครอบครัว หลังพบร่างผู้เสียชีวิตกรณีเรือหลวงสุโขทัยล่มว่า ทราบว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์  ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร) เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยืนยันหลังจากนี้จะพยายามค้นหาผู้สูญหาย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องหาให้พบ ขณะเดียวกันการสืบสวนสอบสวนสาเหตุที่เกิดขึ้นก็ได้ติดตามมาโดยตลอด โดย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมได้ติดตามในเรื่องนี้ โดยประสานงานระหว่างกระทรวงกลาโหมกับกองยุทธการทหารเรือ และหน่วยในพื้นที่สัตหีบ

"ต้องใช้เวลาในการสืบสวนสอบสวน และมีขั้นตอน มีระเบียบ มีกฎหมายชัดเจน ดังนั้นไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้  ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้นายกฯ ไม่เคยนอนตาหลับสักวันอยู่แล้ว" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ

พ.อ.จิตนาถ ปุณโณทก รองโฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหมซึ่งมีพลเอกประยุทธ์เป็นประธานว่า นายกฯ ขอให้กองทัพเรือดำเนินการเรื่องสิทธิกำลังพลแก่ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างครบถ้วน ตามขั้นตอนและแบบแผนตลอดจนให้การช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิต ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดและรายงานความคืบหน้าตามความเหมาะสมต่อไป รวมทั้งเน้นย้ำให้ค้นหากำลังพลที่ยังสูญหายจากเรือหลวงสุโขทัยอับปางให้ครบจนคนสุดท้าย

เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน  โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ในวันนี้กองทัพเรือยังคงดำเนินการเร่งค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ในพื้นที่ลาดตระเวนตามแผน ประกอบด้วย  เรือหลวงนเรศวร, เรือหลวงตากสิน, เรือหลวงกระบุรี, เรือหลวงนราธิวาส, เรือ ต.114 และ เรือ ต.270 รวมถึง เรือ อากาศยาน ทั้งของกองทัพเรือและหน่วยงานต่างๆ ทั้ง กองทัพบก กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  หน่วยงานในศูนย์อำนวยการรักษาพื้นที่ของชาติทางทะเล  หรือ ศรชล. รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยงานท้องถิ่น  มูลนิธิ เครือข่ายชาวประมง และสมาชิกไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล ร่วมค้นหาในพื้นที่ตามแนวชายฝั่ง

"ในขณะที่พื้นที่ตามแนวชายฝั่งก็ยังคงมีการจัดชุดลาดตระเวนทางเท้าในบริเวณที่คาดว่าจะมีการพบผู้สูญหาย โดยเมื่อช่วงเช้าวันนี้เรือหลวงนเรศวรได้ดำเนินการเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้เพิ่มอีก 1 ร่าง และจะกลับขึ้นฝั่งที่อำเภอบางสะพาน ซึ่งหลังจากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคลต่อไป"

โฆษกกองทัพเรือกล่าวว่า ในส่วนของการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปางนั้น ในขณะนี้กองทัพเรือโดย พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ซึ่งประกอบด้วยคณะอนุกรรมการจำนวน 2 คณะ คือ คณะทำงานสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เรือหลวงสุโขทัยอับปาง มีหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุ ทั้งด้านความพร้อมของเรือและการปฏิบัติงานของเรือ และคณะทำงานสอบสวนข้อเท็จจริงในการดำเนินการภายหลังจากเรือหลวงสุโขทัยอับปาง มีหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อตรวจสอบการดำเนินการในขั้นตอนของการสละเรือใหญ่  การค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลภายหลังประสบเหตุ ว่าเป็นไปตามหลักการและแนวทางการปฏิบัติที่กำหนดไว้หรือไม่ ซึ่งในขณะนี้คณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ก็ได้เร่ง ดำเนินการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาสาเหตุต่อไป

ที่รัฐสภา นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการ  (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าประชาชนจำนวนไม่น้อยขาดความเชื่อมั่นในการตรวจสอบกันเองของกองทัพ จึงเห็นว่าควรใช้บุคคลที่สาม  (Third Party Investigator) เข้ามาตรวจสอบคู่ขนาน โดยเสนอให้มีตัวแทนจากฝั่งรัฐสภาร่วมด้วย การตั้งคณะกรรมการที่มีแต่ทหารตรวจสอบกันเอง จะทำให้สังคมตั้งคำถามถึงความโปร่งใสและความตรงไปตรงมาของกองทัพ

ที่ จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 13.00 น. พลเรือเอกเชิงชาย เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ว่าที่เรือเอก  สามารถ แก้วผลึก, พันจ่าเอก อัชชา แก้วสุพรรณ์ และ พันจ่าเอก อำนาจ พิมที ณ ฌาปนสถานกองทัพเรือ จ.ชลบุรี โดยกองทัพเรือได้พิจารณาเลื่อนชั้นเงินเดือน 3-5  ชั้น กับขอพระราชทานเลื่อนยศ 2-4 ชั้นยศ รวมทั้งเงินช่วยเหลืออื่นๆ ตามสิทธิที่สมควรจะได้รับ

ขณะที่ในเวลา 15.00 น. พลเรือเอกเชิงชาย พร้อมด้วยข้าราชการในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ครอบครัวผู้เสียชีวิต เพื่อนทหาร และประชาชน ร่วมเฝ้ารอรับร่างจ่าตรี ศราวุธ นาดี สังกัดกองเรือฟริเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ, พลฯ สิทธิพงศ์ หงษ์ทอง, พลฯ ลจิราวัฒน์  ธูปหอม และพลฯ วรพงษ์ บุญละคร สังกัดกรมรักษาฝั่งที่  1 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (กรม รฝ.1 สอ.รฝ) ขึ้นเครื่องบินแบบฟอกเกอร์ กองทัพเรือ  เดินทางจากกองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังปลายทางสนามบินอู่ตะเภา

ในการนี้ กองทัพเรือได้จัดทหารกองเกียรติยศให้การต้อนรับอย่างสมเกียรติ โดยโลงบรรจุร่างได้ถูกปกคลุมด้วยผืนธงชาติ ชักแถวลำเลียงร่างลงจากเครื่องบิน ขึ้นท้ายรถฮัมวีเดินทางสู่ฌาปนสถานกองทัพเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี  เพื่อประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในเวลา  18.00 น. และประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 3  คืน โดยผู้เสียชีวิตทั้งหมดได้รับพระมหากรุณาธิจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และได้รับการปูนบำเหน็จเชิดชูเกียรติให้ตราตรึงอยู่บนผืนแผ่นดินตลอดไป

ส่วนยอดสรุปจากกำลังพลทั้งสิ้น 105 นาย พบแล้วรอดชีวิต 76 นาย ในจำนวนนี้กลับบ้านแล้ว 62 นาย พักรักษาตัวในโรงพยาบาล 14 นาย สูญหายตั้งแต่วันแรก  29 นาย พบแล้วเสียชีวิต 18 ราย ยังคงสูญหาย 11  ราย ขณะนี้กองทัพเรือและกองทัพไทยได้ระดมกำลังทั้ง เรือรบ อากาศยาน โดรน ทำการออกลาดตระเวนค้นหาตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งทุกฝ่ายต่างมีความหวังจะยังพบผู้รอดชีวิต

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็นมีรายงานว่า สำนักงานโฆษกกองทัพเรือได้สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยล่ม โดยเป็นข้อมูล ณ วันที่ 26  ธันวาคม 2565 เวลา 17.30 น. พบว่ายอดกำลังพล  105 นาย รอดชีวิตจำนวน 76 นาย เสียชีวิตรวม 18  ราย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง