โปรดเกล้าฯรธน.แล้ว บิ๊กตู่:ไม่ใช่เผด็จการดื้อด้าน เทือกคาดรบ.อยู่ครบเทอม

“บิ๊กตู่” คึกหลังฟังเพลงปลุกใจ "บ้านเกิดเมืองนอน" ย้ำคำโตไม่ได้เป็นเผด็จการ แจงวางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีไม่ได้ต้องการถือครองอำนาจ พรรค รปช.ดัน "เอนก" กุมบังเหียนนั่งหัวหน้า ยันไม่ควบรวม สู้ยิบตาบัตรสองใบ "สุเทพ" แฉ ส.ส.เรียกรับเงินห้าแสนลงมติซักฟอก "ไทยสร้างสรรค์" ยังเป็นวุ้น

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานกล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง "จับมือ รวมใจ พาไทยรอด" ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 39 โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาชิกหอการค้า ผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมงาน โดยเมื่อนายกฯ เดินทางมาถึงคณะผู้จัดงานได้เปิดเพลงบ้านเกิดเมืองนอนต้อนรับ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ถึงกับยิ้มพอใจ ยกมือรับไหว้ทักทายผู้ร่วมงานและปรบมือตามจังหวะเพลง ทั้งนี้ ก่อนการปาฐกถานายสนั่นได้มอบสมุดปกขาวสรุปผลการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศให้นายกฯ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งถึงเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ว่า ไม่ได้เป็นเรื่องการยึดครองอำนาจหรืออะไรทั้งสิ้นในเรื่อง 20 ปี โดยตนเองยังอยู่ มันไม่ใช่ ทุกคนทุกวันตื่นขึ้นมารู้หรือไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร วันนี้จะอยู่หรือจะตายไม่มีใครรู้ แต่ที่เรารู้คือเราจะวางอนาคตข้างหน้าอย่างไร เป็นสิ่งที่คิดใน 6 ยุทธศาสตร์ชาติ จึงมีแต่หัวข้อกำหนด ถามว่ายังมีอีกกี่เรื่องที่ต้องทำ มีอีกกี่แผนแม่บท และเรายังต้องมีการปฏิรูปด้วย อย่าลืมว่ามีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวข้องอีกหลายหน่วยงาน ถ้าต่างคนต่างทำก็ยังเป็นอยู่แบบเดิม

นายกฯ กล่าวว่า ไม่ต้องการให้การทำงานเป็นแบบไซโล (ขาดการสื่อสารระหว่างทีมหรือตัวใครตัวมัน) แต่อยากให้ทุกกระทรวง ทุกหน่วยงานคุยกัน ตนไม่ต้องการไปก้าวล่วง ยกเว้นการบูรณาการงานยังไม่เรียบร้อย ยืนยันตนไม่ได้ไปก้าวล่วงอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรี เราต้องให้เกียรติในฐานะเป็นเพื่อนร่วมงาน ด้วยความหวังดี สังคมไทยแตกต่างจากต่างประเทศ การขาดการติดต่อสื่อสารจะทำให้เกิดความไม่เข้าใจ ในเวลา 7 ปีที่ผ่านทุกอย่างอยู่ในศีรษะ บางอย่างไปได้เร็ว บางอย่างไปได้ช้า บางอย่างติดขัด แต่ถ้ามาช่วยคิดให้ตรงกันทุกอย่างจะไปได้หมด แต่ถ้าขัดกันไปขัดกันมา ตรงนั้นดี ตรงนั้นไม่ดี หรือต้องดีกว่านี้อีก ทั้งนี้ถ้าเรามาช่วยกันทำให้ ดีให้ครบ เดินหน้าเป็นสเตปไปจะดีกว่า

"ผมยินดีรับฟังจากท่าน รับฟังจากพื้นที่ พร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไข ผมไม่ใช่คนดื้อหรอกครับ ผมจะพูดอะไรไป ผมก็คิดในใจอยู่ตลอดว่าจะทำได้แค่ไหน แต่ในใจผมคิดตลอด ผมจะทำอะไร ทำได้แค่ไหน หลานๆ มีอะไรจะถามไหม ลุงไม่ใช่คนใจร้าย ไม่ใช่คนเผด็จการ ทำทุกวัน แต่จะทำได้แค่ไหนเท่านั้นแหละ การพูดวันนี้คงมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย อย่า คิดว่าไม่มีประโยชน์ ไม่มีสาระ นี่แหละคือสาระของผม งานเยอะ ปัญหาเยอะ และคิดเยอะ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องทำคือ ฮาวทู และทำให้สำเร็จ นั่นแหละคือสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จ จับมือเดินหน้าไปด้วยกัน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธตอบคำถาม หลังผู้สื่อข่าวถามว่ายังจะอยู่กับ พปชร.ต่อใช่หรือไม่ โดยนายกฯ เดินออกจากโพเดียมให้สัมภาษณ์ทันที ซึ่งระหว่างเดินไปขึ้นรถได้ฮัมเพลงไทยเดิมอย่างอารมณ์ดี พร้อมกล่าวว่า “ถามเก่งจริงนะ” จากนั้นนายกฯ ได้โบกมือและทำมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยูให้ผู้มาร่วมสัมมนาหอการค้าที่มาส่งขึ้นรถก่อนเดินทางกลับ

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกระแสข่าว 6 รัฐมนตรีเตรียมตั้งพรรคการเมืองใหม่เพียงสั้นๆ ว่า "เธอรู้จักทุกพรรค แต่ผมไม่รู้จักสักพรรคเลย" ก่อนเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที

'เอนก' นั่ง หน.พรรค รปช.

ด้านความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่างๆ ก็เป็นไปอย่างคึกคัก โดยที่อาคารหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษาฯ ในฐานะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ส.ส.ของพรรค และสมาชิกพรรคเข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียง

โดยที่ประชุมมีการเลือกตั้ง กก.บห.ชุดใหม่ ผลปรากฏว่านายเอนกได้เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่, นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เป็นเลขาธิการพรรค, น.ส.จุฑาทัตต เหล่าธรรมทัศน์ เหรัญญิก, นายดนุช ตันเทอดทิตย์ นายทะเบียนพรรค, น.ส.พัชรินรุจา จันทโรนานนท์ กก.บห., น.ส.ยอดขวัญ ชุมวระ กก.บห. และนายพิรสุต จันทรานุวัฒน์ เป็น กก.บห.

ทั้งนี้ ภายหลังได้ กก.บห.ชุดใหม่ นายเอนกกล่าวต่อที่ประชุมว่า จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เต็มกำลังความสามารถ และจะเตรียมพรรคสู่การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นต่อจากนี้อีก 1 ปีโดยประมาณ โดยเป้าหมายคือการเป็นพรรคขนาดเล็กขนาดกลางอย่างมีคุณภาพ เป็นพรรคของประชาชน เพื่อประชาชน โดยประชาชนให้มากที่สุด

จากนั้นนายเอนกให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแนวคิดยุบพรรคเพื่อควบรวบกับพรรคการเมืองขนาดใหญ่ว่า ถ้าพรรคคิดทำก็คงรวบไปนานแล้ว ยืนยัน รปช.จะเข้าสู่สนามเลือกตั้งครั้งหน้าแน่นอน โดยส่วนตัวคาดว่าจะได้ ส.ส. 10 คนขึ้นไป มีรัฐมนตรี 2 กระทรวง พ่วงด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการก็พอใจแล้ว แต่ขณะนี้จนถึงหมดวาระสภา รปช.ยังสนับสนุนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์แน่นอน

เมื่อถามถึงยุทธศาสตร์ที่จะทำให้ได้ ส.ส.จำนวนมาก ภายใต้กติกาการเลือกตั้งแบบบัตรสองใบที่พรรคขนาดเล็กอาจเสียเปรียบได้นั้น นายเอนกกล่าวว่า ต้องทำให้ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่น่าสนใจ ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าเป็นพรรคที่มีคุณภาพ ส่วน ส.ส.แบบแบ่งเขตก็ต้องหาคนที่ขยันทำงานหาคะแนนให้ตัวเองและพรรค

ขณะที่นายสุเทพกล่าวบนเวทีตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมามีคนคิดตั้งพรรคการเมืองจำนวนมาก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีเป็นร้อยพรรค แต่ถ้าคิดให้ดีพรรคที่เป็นของประชาชน เพื่อประชาชน โดยประชาชนจริงๆ หายาก มีประสบการณ์เป็นนักการเมืองตั้งแต่ปี 2522 ถึงปี 2556 รวมกว่า 40 ปี หวังเห็นการพัฒนาการเมืองที่ดีขึ้น แต่ไม่เป็นอย่างที่คาดฝัน เชื่อว่าคนไทยจำนวนมากหวั่นวิตกอนาคตของประเทศไทย เพราะมีข่าวนักการเมือง พรรคการเมือง ปรากฏไม่ใช่ภาพที่สวยงาม

“เมื่อสักครู่ ดร.เอนกเล่าให้ฟัง เวลาลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจเรียกเงินสูงถึงห้าแสนบาท นี่ยังไม่เล่าว่าลงมติไว้วางใจ ไม่ไว้วางใจนายกฯ มีการพูดถึงเรียกร้องเงินหลักแสนหลักล้าน จริงหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่คนไทยวิตกกังวลว่าถ้าพรรคการเมืองและนักการเมืองมีนิสัยเช่นนี้ เราจะฝากอนาคตประเทศไว้กับบุคคลเหล่านี้ไว้ได้อย่างไร พวกหนึ่งทำความเสียหายให้บ้านเมือง ก่อทุจริตคอร์รัปชัน ใช้อำนาจไม่ชอบ เราไม่อยากให้กลับมาอีกแล้ว แต่อีกพวกหวังจะฝากผีฝากไข้กลับมีพฤติกรรมแบบนี้ซะอีก ผมเชื่อว่ามีคนไทยจำนวนมากวิตกกังวล จึงอยากฝากว่าเรามาเปลี่ยนพลังวิตกกังวลเป็นพลังสร้างสรรค์ ร่วมมือกันสร้างพรรคการเมืองของประชาชนที่แท้จริงให้ได้ ให้เป็นพรรคที่ไม่ได้หาโอกาส ไต่บันไดสังคม ยกระดับตัวเอง แล้วหารายได้โดยมิชอบ” นายสุเทพกล่าว

นายสุเทพกล่าวต่อว่า เคยประกาศกับประชาชนว่าจะเลิกเล่นการเมือง เลิกใช้ชีวิตเป็น ส.ส.นักการเมืองในสภา ตั้งใจแบบนั้นจริงๆ แต่ปี 2556-2557 ความใฝ่ฝันปฏิรูปการเมืองไม่เป็นเช่นนั้น เห็นพวกแต่งองค์ทรงเครื่องกระโจนเข้ามาหน้าตาเป็นยักษ์เป็นมารทั้งนั้น จึงต้องชักชวนประชาชนว่ามาสร้างอนาคตเพื่อลูกหลาน สร้างพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์ รักประเทศไทย รักพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ยังโดนต่อว่าว่าเป็นคนตระบัดสัตย์ ก็ไม่ขอแก้ตัวหรือชี้แจงอะไร แต่อยากให้พิจารณาว่า เวลาผ่านไปจนถึงวันนี้ก็ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ที่มาทำพรรคก็ไม่ได้ต้องการตำแหน่งใดๆ เพราะไม่ได้ต้องการทำเพื่อตัวเอง

จากนั้นนายสุเทพให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ของรัฐบาลหลังจากนี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังมีขีดความสามารถเพียงพอที่จะแก้ไขสถานการณ์ของประเทศในขณะนี้ได้ คิดว่ารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์น่าจะอยู่ได้ครบเทอมครบวาระ โดยรัฐบาลยังมีภาระหน้าที่สำคัญที่จะต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถของคนเป็นนายกฯ คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์เหมาะในสถานการณ์นี้ เพราะอยู่ในตำแหน่งนายกฯ มาหลายปีแล้ว มีความสันทัดจัดเจน ที่รู้ว่าต้องผลักดันเรื่องอะไร ต้องตัดสินใจอย่างไร เพื่อให้การแก้ปัญหาได้ผลและมีประสิทธิภาพ

“เราเปลี่ยนม้ากลางศึกคงไม่เหมาะ จะไปคิดว่าหาคนอื่นมาทำแทน ผมว่าก็รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์เขาทำอยู่แล้ว ก็ให้เขาทำให้จบ คนที่คิดจะทำแทนก็แต่งตัวรอไปก่อน เลือกตั้งทั่วไปคราวหน้าค่อยมา ซึ่งผมมองว่าการเป็นนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่ มีปัญหามากขึ้น ต้องอดทน ต้องใช้ขันติธรรม ต้องอดทน" นายสุเทพระบุ

เมื่อถามว่า ปัญหาในพรรคพลังประชารัฐจะเป็นจุดอ่อนที่ทำให้นายกฯ ต้องมีการประกาศยุบสภาหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่คิดว่าจะมีประโยชน์อะไรที่จะยุบสภาก่อนครบวาระ ซึ่งเรื่องที่รัฐบาลต้องทำคือการประชุมเอเปกที่ได้เริ่มแล้ว และจะประชุมตลอดปี จำเป็นที่หัวหน้าคณะรัฐบาลของเราต้องต่อเนื่อง ไม่ใช่ไปเปลี่ยนกลางทาง

ขออภิปรายไม่ลงมติ 3-4 วัน!

ด้านพรรคฝ่ายค้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค พปชร.ประกาศยึดเก้าอี้ ส.ส.พื้นที่ภาคอีสานทั้ง 132 เก้าอี้ว่า พื้นที่ภาคอีสานเป็นพื้นที่ที่ความนิยมพรรค พท.อยู่ในระดับสูง เรื่องนี้ไม่ได้หนักใจอะไร มีความมั่นใจว่าจะไม่มีใครสามารถยึดพื้นที่อีสานไปได้มากกว่า พท. ส่วนภาคอื่นๆ เราก็ทำเต็มที่ แม้กระทั่งในภาคใต้ก็อาจจะมีเซอร์ไพรส์ก็ได้

ส่วนนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ว่า จะยื่นญัตติเมื่อไหร่นั้นยังตอบยาก ต้องคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่ในมุมเรามองว่าควรเปิดอภิปรายเลย เพราะสถานการณ์ตอนนี้ต้องรีบเอาสิ่งที่เรียกว่าเป็นความชั่วของรัฐบาลมาเปิดเผยให้ประชาชนได้รู้โดยไว

"หากพูดในเชิงกลไกสภา ต้องยอมรับว่าเวทีที่สำคัญรองลงมาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล ก็คือการอภิปรายตามมาตรา 152 ซึ่งหากเราเปิดอภิปรายเลยในสถานการณ์ที่ประชาชนได้รับความทุกข์ยากต่างๆ มากมาย ผมก็คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานทั้งของฝ่ายค้านและของประชาชน มันอาจจะเป็นไพ่สุดท้ายแต่ก็อาจจะเป็นไม้ตายที่ทำให้รัฐบาลไปต่อลำบาก" นายรังสิมันต์กล่าวและว่า เนื้อหาในการอภิปรายของพรรคก้าวไกลต้องขออุบไว้ก่อน แต่จะให้ความสำคัญเรื่องที่เป็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในทุกๆ เรื่อง และถ้าได้เวลาเหมือนกับตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคลประมาณ 3-4 วันจะดี เพราะจะทำให้เราสามารถใช้เวลาในการเอาความผิดพลาดต่างๆ ของรัฐบาลมาให้ประชาชนได้ทราบ

นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรค พปชร.ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมบาล กล่าวถึงการนัดรับประทานอาหารกระชับมิตรของพรรคร่วมรัฐบาลและแกนนำฝ่ายบริหารในวันที่ 26 พ.ย.นี้ว่าไม่มีอะไร เพราะที่ผ่านมาเคยนัดกันในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว แต่อาจขอความร่วมมือให้ ส.ส.ช่วยกันทำงาน หรือมีอะไรติดขัดให้นำมาพูดคุยกันเพื่อประโยชน์ในการทำงานร่วมกัน

ไทยสร้างสรรค์ยังเป็นวุ้น

วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมสนามฟุตบอล ลีโอ เชียงราย สเตเดียม จ.เชียงราย พรรคเพื่อชาติ (พช.) จัดประชุมวิสามัญเพื่อเลือก กก.บห.ชุดใหม่ โดยที่ประชุมมีมติเลือกนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ ขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ นายเทวกฤต พรหมมา เป็นรองหัวหน้าพรรค และนางลินดา เชิดชัย เป็นเลขาธิการพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง สรุปรายชื่อ 85 พรรคการเมืองที่ยังดำเนินการอยู่ ข้อมูล ณ วันที่ 15 พ.ย.ว่ามีพรรคการเมืองที่ดำเนินการอยู่ 85 พรรคการเมือง จำนวนสมาชิก 1,155,786 ราย รวมสาขาพรรคการเมือง 394 สาขา รวมจำนวนตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด 2,155 ราย โดยพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มีสมาชิกมากที่สุด 94,492 ราย สาขาพรรคการเมือง 19 สาขา ตัวแทนพรรคการเมือง ประจำจังหวัด 312 ราย, พรรคเพื่อไทย มีสมาชิก 61,614 ราย สาขาพรรคการเมือง 4 สาขา ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด 284 ราย, พรรคภูมิใจไทย มีสมาชิก 58,926 ราย สาขาพรรคการเมือง 4 สาขา ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด 211 ราย, พรรคพลังประชารัฐ มีสมาชิก 53,813 ราย สาขาพรรคการเมือง 4 สาขา ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด 175 ราย, พรรคก้าวไกลมีสมาชิก 34,277 ราย สาขาพรรคการเมือง 5 สาขา ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด 86 ราย

พรรคกล้า มีสมาชิก 21,045 ราย สาขาพรรคการเมือง 6 สาขา ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด 30 ราย, พรรคชาติไทยพัฒนา มีสมาชิก 13,149 ราย สาขาพรรคการเมือง 4 สาขา ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด 51 ราย, พรรคชาติพัฒนา มีสมาชิก 12,746 ราย สาขาพรรคการเมือง 4 สาขา ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด 57 ราย, พรรคประชาชาติ มีสมาชิก 12,780 ราย สาขาพรรคการเมือง 6 สาขา ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด 31 ราย เป็นต้น ส่วนพรรคไทยสร้างสรรค์ ที่มีนายธำรงค์ เรืองธุระกิจ เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นพรรคที่ กกต.เห็นชอบให้นายทะเบียนพรรครับจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 27 ต.ค. และมีกระแสข่าวลือว่าเป็นพรรคสำรองของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ปรากฏข้อมูลจำนวนสมาชิก สาขาพรรค และตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดว่ามีจำนวนเท่าใด.